นายเทพไทกล่าวอีกว่า กรณีของนายกษิตพรรคจะพิจารณาเมื่อคดี
มีผลทางกฎหมายแล้ว
และเชื่อว่าการที่นายกษิตไม่ลาออกจะไม่กระทบต่อภาพพจน์ของพรรค
มีผลทางกฎหมายแล้ว
เพราะเรื่องนี้เป็นคดีการเมืองไม่ใช่คดีอาญา
และเชื่อว่าการที่นายกษิตไม่ลาออกจะไม่กระทบต่อภาพพจน์ของพรรค
การบุกเข้าไปยึดสนามบินนานานชาติ ทำความเสียหายทั้งด้านการเงินและชื่อเสียง
ของประเทศชาติ ตำรวจอุตส่าห์ลากยาวมาให้กว่าแปดเดือนแล้ว แต่ก็ไม่สามารถ
จะเกี้ยเซี้ยให้ได้ ไม่สามารถจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นต่อไปอีกได้
เพราะคดีนี้ไม่ใช่มีแต่คนไทยที่จับจ้องมองดูอยู่ แต่คนทั่วโลกที่เขาได้รับความ
เดือดร้อนเขาก็เฝ้ารอดูอยู่
เมื่อถูกออกหมายเรียกข้อหาผู้ก่อการร้าย นายกษิตและวงศ์วานว่านเครือออกมา
อ้างว่าตอนที่ทำนั้นนายกษิตยังไม่ได้เป็นรมต. พูดง่ายๆก็คือทำในนามส่วนตัว
ทำในนามพันธมิตร (ดูเอาแล้วกันว่ารัฐบาลนี้มันหาได้มีความรับผิดชอบไม่)
การจะมาอ้างว่าทำก่อนมาเป็นรมต. ก็รู้แหละไอ้ฟาย แต่เมิงก็ยังตั้งเข้าไปเป็นรมต.
อยู่อีก ในเวปบอร์ดประชาไทนี่แหละ คนเขาออกมาตั้งกระทู้คัดค้านกันอย่างสนั่นหวั่นไหว
แล้วเมิงฟังกันบ้างไหม
พอโดนตั้งข้อหา เสือกออกมาบอกว่า เป็นคดีการเมือง ไอ้เรือหาย ตอนนั้นไอ้บ้านี่
ยังไม่ได้เป็นนักการเมืองสักหน่อย มันแสดงตัวว่ามันเป็นพันธมิตร (ซึ่งตอนนั้น
ก็ยังไม่ได้เป็นพรรคการเมืองด้วยซ้ำ เป็นแต่สัตว์ที่มีสถานะเป็นพวกป่วนเมือง)
แล้วการไปยึดสนามบินที่เข้าข่ายการก่อการร้าย กลับบอกเป็นคดีการเมือง
มารดาทั่นบ้าหรือโง่ หรือเป็นทั้งสองอย่าง ถึงได้เพ้อเจ้อได้ขนาดนี้
มันกลายไปเป็นคดีการเมืองตรงไหนวะ พวกแกก็โกงเข้ามาเป็นรัฐบาลแท้ๆ
ใครเขาจะไปกลั่นแกล้งพวกแก ทำความผิด เห็นๆหลักฐานมากมาย
แต่หน้าด้านไม่ยอมรับ กลับมาบอกว่าเป็นคดีการเมืองไม่ใช่คดีอาญา
บิดาทั่นสิ ไปถามทั่วโลกดูได้ ว่ายึดสนามบินเนี่ย ใส่ความกันได้ด้วยหรือ
ข่าวออกไปทั่วโลก กลับบอกว่าถูกกลั่นแกล้ง โอ๊ยฉันไม่รู้ว่าจะด่าพวกแก
อย่างไรจึงจะหายแค้น เป็น criminal โว้ย ตามกฎหมายทั่วโลกด้วย
เข้าใจไว้เสียด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น