ข่าวจากคุณดอ-เด็กห้องสังคมฯ
นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่นิตยสารฟอร์บส์เผยแพร่การจัดอันดับ 40
บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย โดยปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ในลำดับที่ 16 มีทรัพย์สินกว่า 400 ล้านดอลลาร์
หรือประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 100 ล้านดอลลาร์
หรือประมาณ 3,300 ล้านบาท ว่า ยังตอบไม่ได้ว่าจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นมาของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น น่าสงสัยหรือไม่ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จะต้องเข้าไปตรวจสอบ หากเห็นว่าเป็นประเด็นที่น่าสงสัย จะลงพื้นที่เพื่อสืบหาที่มาของเงินที่เพิ่มกว่า 100 ล้านดอลลาร์
ว่าเป็นทรัพย์สินส่วนใด และได้มาได้อย่างไร ส่วนจะเชิญตัวแทนจากนิตยสารฟอร์บส์มาสอบถามข้อเท็จจริงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่จะพิจารณา
อันนี้คงรับลูกต่อมาจากนายองอาจ (ที่ไม่สง่างาม)
เขาเพ้อขึ้นมาเมื่อวาน ถึงกับแถลงข่าวว่าจะส่งเรื่อง
ไปให้ปปช. ปปช.กระโดดงับทันที เลยต้องไปค้นมาให้ดู
ว่าอำนาจหน้าที่ของตัวมีอยู่เท่าไหร่ ลองอ่านดูแล้วกันค่ะ
แล้วจะรู้ว่าไอ้พวกปากเปราะเนี่ย เห่าไปเรื่อย ไม่รู้แม้กระทั่ง
ขอบเขตหน้าที่การงานของตัว คุณทักษิณ ท่านไม่ได้ดำรง
ตำแหน่งหน้าที่การงานอะไร ที่จะไปวุ่นวายด้วยได้
ทีเรื่องที่ควรทำกลับไม่ทำ เช่นเรื่องยายเป็ดเงี้ย ดองไว้ได้
โธ่ไม่พูดคนเขาอาจนึกว่าฉลาด นึกว่าดีมีความเป็นกลาง
พออ้าปากเขาเลยรู้กันหมดเลยว่านอกจากโง่แล้วยังลำเอียง
อาฆาตมาตรร้ายเกินกว่าที่จะไว้ใจให้ทำงานที่ต้องการความกลางได้
ชอบออกข่าวให้เกิดผลเสียต่อคนอื่น น่ารังเกียจจริงๆค่ะ
โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 301 บัญญัติให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน
ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ไต่สวนข้อเท็จและทำความเห็นในกรณีที่มีการร้องขอให้
ถอดถอนเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งในระดับสูง
ออกจากตำแหน่งหรือดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่ง
ทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ และไต่สวนวินิจฉัยว่า
เจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติทุจริตต่อหน้าที่หรือ
กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
ข่าวจากคุณดอ-เด็กห้องสังคมฯ
นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่นิตยสารฟอร์บส์เผยแพร่การจัดอันดับ 40
บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย โดยปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ในลำดับที่ 16 มีทรัพย์สินกว่า 400 ล้านดอลลาร์
หรือประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 100 ล้านดอลลาร์
หรือประมาณ 3,300 ล้านบาท ว่า ยังตอบไม่ได้ว่าจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นมาของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น น่าสงสัยหรือไม่ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จะต้องเข้าไปตรวจสอบ หากเห็นว่าเป็นประเด็นที่น่าสงสัย จะลงพื้นที่เพื่อสืบหาที่มาของเงินที่เพิ่มกว่า 100 ล้านดอลลาร์
ว่าเป็นทรัพย์สินส่วนใด และได้มาได้อย่างไร ส่วนจะเชิญตัวแทนจากนิตยสารฟอร์บส์มาสอบถามข้อเท็จจริงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่จะพิจารณา
บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย โดยปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ในลำดับที่ 16 มีทรัพย์สินกว่า 400 ล้านดอลลาร์
หรือประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 100 ล้านดอลลาร์
หรือประมาณ 3,300 ล้านบาท ว่า ยังตอบไม่ได้ว่าจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นมาของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น น่าสงสัยหรือไม่ เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จะต้องเข้าไปตรวจสอบ หากเห็นว่าเป็นประเด็นที่น่าสงสัย จะลงพื้นที่เพื่อสืบหาที่มาของเงินที่เพิ่มกว่า 100 ล้านดอลลาร์
ว่าเป็นทรัพย์สินส่วนใด และได้มาได้อย่างไร ส่วนจะเชิญตัวแทนจากนิตยสารฟอร์บส์มาสอบถามข้อเท็จจริงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่จะพิจารณา
อันนี้คงรับลูกต่อมาจากนายองอาจ (ที่ไม่สง่างาม)
เขาเพ้อขึ้นมาเมื่อวาน ถึงกับแถลงข่าวว่าจะส่งเรื่อง
ไปให้ปปช. ปปช.กระโดดงับทันที เลยต้องไปค้นมาให้ดู
ว่าอำนาจหน้าที่ของตัวมีอยู่เท่าไหร่ ลองอ่านดูแล้วกันค่ะ
แล้วจะรู้ว่าไอ้พวกปากเปราะเนี่ย เห่าไปเรื่อย ไม่รู้แม้กระทั่ง
ขอบเขตหน้าที่การงานของตัว คุณทักษิณ ท่านไม่ได้ดำรง
ตำแหน่งหน้าที่การงานอะไร ที่จะไปวุ่นวายด้วยได้
ทีเรื่องที่ควรทำกลับไม่ทำ เช่นเรื่องยายเป็ดเงี้ย ดองไว้ได้
โธ่ไม่พูดคนเขาอาจนึกว่าฉลาด นึกว่าดีมีความเป็นกลาง
พออ้าปากเขาเลยรู้กันหมดเลยว่านอกจากโง่แล้วยังลำเอียง
อาฆาตมาตรร้ายเกินกว่าที่จะไว้ใจให้ทำงานที่ต้องการความกลางได้
ชอบออกข่าวให้เกิดผลเสียต่อคนอื่น น่ารังเกียจจริงๆค่ะ
โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 301 บัญญัติให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน
มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน
ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ไต่สวนข้อเท็จและทำความเห็นในกรณีที่มีการร้องขอให้
ถอดถอนเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งในระดับสูง
ออกจากตำแหน่งหรือดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่ง
ทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ และไต่สวนวินิจฉัยว่า
เจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติทุจริตต่อหน้าที่หรือ
กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ี่
คนเขาทำธุรกิจ ทั้งๆที่อายัดเงินทั้งของเขาและลูกเมีย
ที่จะพูดวันนี้คือ เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของปปช. และ
ปปช.ก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งด้วย เพราะกฎหมายไม่ได้
ให้อำนาจหน้าที่ไว้ การออกมาให้สัมภาษณ์จึงแสดงถึง
ความเลวร้ายของกระบวนการของคนเหล่านี้ จนถึง
ป่านนี้แล้วยังไม่หยุดใส่ร้ายป้ายสีเขาอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น