ID # 690589 - โพสต์เมื่อ : 2008-06-11 11:48:25 _ ปิดข้อความ แก้ไข
242นักวิชาการยื่น4ข้อแก้วิกฤต
เวลา 14.00 น. ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายเจษฎ์ โทณะวณิก คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม,
นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, น.ส.การดี เลียวไพโรจน์
อาจารย์คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงข้อเสนอแนวทางการแก้ปัญหาบ้านเมือง
โดยจากอาจารย์มหาวิทยาลัย 242 คนจาก 32 สถาบัน
นายเจษฎ์แถลงว่า จากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบัน
เพื่อให้เป็นทางออกของบ้านเมืองตามกติกาและวิถีทาง
ของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่เกิดความขัดแย้งแตกหักที่จะนำบ้านเมือง
ไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายไปมากกว่านี้
อาจารย์มหาวิทยาลัย 242 คน จาก 32 สถาบัน
ขอเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา 4 ข้อ
คือขอให้ทุกฝ่ายไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา
(อ้าว แล้วที่มันใช้ความรุนแรงทางภาษา และท่าทาง
ในม้อบน่ะ ไม่นับหรือไง)
2.ขอให้ทุกฝ่ายไม่สร้างเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ
หรือเพิ่มขัดความแย้ง(แล้วที่มันขู่ตัดน้ำตัดไฟเนี่ย เป็นเงื่อนไข
ที่ทุเรศหรือเปล่า)
3.คดีเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและไม่ล่าช้าเกินไป
(แล้วอย่างนี้เขาเรียกว่าแทรกแซงหรือเปล่า
กลัวอะไรกันหรือ กลัวความจริงจะปรากฎออกมาว่า
เขาไม่ผิดหรือไง)
4.ขอให้รัฐบาลและ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
(ทำไมล่ะ แก้แล้วพวกแกจะตายกันหมดเลยไหม
ถ้าอย่างนั้นจะได้รีบเข้าชื่อให้แก้โดยไว)
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการต่อยอด
จากโครงการริบบิ้นขาว ที่ถูกหลายฝ่ายวิจารณ์
ว่าเป็นการลอยตัวอยู่เหนือปัญหาหรือไม่
นายเจษฎ์กล่าวว่า กลุ่มริบบิ้นสีขาวเดินบนแนวทาง
ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ยืนยันว่าไม่ได้เป็นกลาง เพราะในโลกนี้น้อยคนที่จะหลุดพ้นเข้าสู่ความเป็นกลางอย่างแท้จริง
แต่ไม่ใช่เราจะไม่ทำอะไร เพราะเชื่อว่าการที่เราให้
การศึกษาประชาชนโดยไม่ด่าทอใคร
ก็เป็นการเคลื่อนไหวอย่างหนึ่ง เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีกลุ่มที่มีลักษณะเดียวกับริบบิ้นขาวเ
กิดขึ้นเป็นสิบเป็นร้อยกลุ่มเพื่อสร้างทางออกให้สังคม
"ข้อเสนอของนักวิชาการครั้งนี้ไม่ใช่ให้ถอย
คนละก้าวหรือครึ่งก้าว แต่เป็นการเสนอเพื่อก้าว
ไปข้างหน้าอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่ก้าวเข้าไปชนกัน" นายเจษฎ์กล่าว
จะออกมาอีกกี่กลุ่ม กี่ก๊กก็ตาม หากยังไม่พูดออกมาตรงๆ
ว่าไอ้พวกที่ทำผิดกม. ปิดถนนอยู่ สร้างความเดือดร้อน
ให้กับชาวบ้าน เป็นฝ่ายผิด ก็อย่าหวังว่าชาวบ้านเขาจะเห็นด้วยเลย
มีอย่างที่ไหน คนเขาด่ากันทั้งเมืองที่มันมาปิดถนนอยู่อย่างนี้
เศรษฐกิจพังพินาศ ตลาดทุน การลงทุน การท่องเที่ยว
พังยับ กลับมองไม่เห็นว่าควรบอกให้พวกมันหยุด และถอยกลับไป
เสียที ดันออกมาเรียกร้องไม่ให้รัฐบาลปราบปราม พวกแกเป็น
อาจารย์ภาษาอะไร เรื่องง่ายๆที่ชาวบ้านเขาเห็นเขาเข้าใจ
พวกแกกลับไม่ใส่ใจ กลัวกันแต่พ่อแม่แกในม้อบจะตาย
เฮ้ย นี่ประชาชนคนธรรมดาเขาจะตายกันหมดแล้ว
ทำมาหากินไม่ได้ดันออกมาห่วงหมากลางถนนไม่กี่ตัว
ประเทศนี้มันเป็นอะไรไปหนอ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว
กันไปหมด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น