วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ต้องเจอซะบ้าง

D # 689309 - โพสต์เมื่อ : 2008-06-05 10:19:26 _ ปิดข้อความ แก้ไข


สตง.โวยดีเอสไอจ้องจับผิด [5 มิ.ย. 51 - 04:04]

วานนี้ (4 มิ.ย.) นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
รับเรื่องการตรวจสอบนโยบายการว่าจ้างบริษัทเอกชน
รับงานโครงการฝึกอบรมข้าราชการในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
มีความไม่โปร่งใส มีการผูกขาดว่า สตง.ไม่ได้ผูกขาดตามที่ดีเอสไอกล่าวหา
แต่สาเหตุที่ สตง.เลือกบริษัทออดิต แอนด์แมนเนทเมนท์ จำกัด
เข้ามาทำหน้าที่เพราะมีผลงานเป็นที่น่าพอใจจากการที่เคยผ่านงาน
การอบรมให้กับสำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ

"เรื่องนี้เป็นข่าว เพราะว่ามีกลุ่มการเมืองทั้งกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ
และพิราบขาวได้ไปร้องต่อคณะกรรมการป้องกัน
และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เอาไว้ก่อนแล้วแต่เมื่อเห็นว่ายังไม่บรรลุวัตถุประสงค์
จึงได้มีการส่งเรื่องให้ดีเอสไอดำเนินการต่อ
อยากถามว่าคดีนี้มีความสลับซับซ้อนอย่างไร
ถึงได้มีการตั้งเป็นคดีพิเศษ ทั้งๆที่มีคดีอื่นๆที่ได้มีการร้องไปที่ดีเอสไอ มีมูลค่าความเสียหายมากกว่าคดีนี้
ขอให้เชื่อมั่นการใช้จ่ายเงินของ สตง.
สิ่งที่ดำเนินการเราทำตามกฎเกณฑ์
ระเบียบและคำนึงถึงความคุ้มค่าของเงิน" นายพิศิษฐ์กล่าว
เมื่อถามว่า สตง.จะมีการฟ้องกลับดีเอสไอหรือไม่ ฐานทำให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง
นายพิศิษฐ์กล่าวว่า ตอนนี้ สตง.ได้มอบหมายให้สำนักงานกฎหมาย
กำลังหาข้อมูล หากฟ้องจะฟ้องเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีและรักษาสิทธิ์ของ สตง.ทำเพราะเราไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 19.40 น. นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำ
ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) แถลงว่า
คตส.ได้มีมติทำหนังสือถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. รวมทั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพ
ซึ่งเป็นอดีตคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.)
ในฐานะที่แต่งตั้ง คตส.ตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ให้ดำเนินการกับพนักงานสอบสวนตามอำนาจหน้าที่
เนื่องจากปรากฏมีเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจรัฐที่น่าเป็นการบิดเบือนกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดความสะดวกในการทำหน้าที่ของ คตส. ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากกรณีที่สำนักงานกฎหมายนิติเอกราช จำกัด
ได้แจ้งความกลับ คตส.ในข้อหาแจ้งความเท็จ และพนักงานสอบสวนได้มีหนังสือออกหมายเรียก คตส.ถึง 2 ครั้ง
ในวันที่ 30 พ.ค.และ 10 มิ.ย. โดยในหมายเรียกมีการระบุว่า หากไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามกำหนด
โดยปราศจากเหตุอันควรอาจเป็นเหตุให้ออกหมายจับ
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 10 มิ.ย.
คตส.ทั้ง 11 คนจะไม่ไปพบพนักงานสอบสวน เพราะว่าการทำหนังสือไปนั้นถือเป็นการชี้แจงด้วยวาจาแล้ว

โฆษก คตส.กล่าวว่า นอกจากนี้ คตส.
ยังได้ทำหนังสือถึงทุกศาลในส่วนกลางและปริมณฑล
เหตุที่ต้องมีหนังสือไป เพราะไม่ทราบว่าทางพนักงานสอบสวน
จะดำเนินการขอหมายศาลที่ใด จึงต้องกราบเรียนข้อเท็จจริง
ให้ศาลที่มีอำนาจออกหมายอาญา ได้ทราบว่า

ไม่มีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน


และเพื่อแสดงความประสงค์ว่าหากพนักงานสอบสวน
มีคำร้องขอออกหมายจับ คตส. ทาง คตส.จะแต่งตั้งทนายความในชั้นไต่สวนคำร้องขอออกหมายจับ
เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมในคดีต่อไป


บอกตรงๆว่าพวกฉันก็ไม่มีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของ
พวกแกเหมือนกัน เป็นไงล่ะ เรื่องนี้นะ ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด
ถ้าถูกก็ได้ออกข่าวให้ชาวบ้านเขาสงสัยและรู้ถึงความ
ไม่ชอบมาพากลของพวกแกแล้วล่ะ ถ้าพ่อแกโดดเข้า
มาช่วยได้จริง แกก็จะเสียชื่อไปพร้อมๆกันนั่นแหละ

ไม่มีความคิดเห็น: