วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ป้าแปะกลับมาทำหน้าที่แล้วนะคะ

โพสต์เมื่อ : 2008-12-16 10:25:43 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


ประเดิมด้วยนี่เลย ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ

ฝันเป็นจริงก่อนฝันร้าย [16 ธ.ค. 51 - 02:45]

235 ต่อ 198 ม้วนเดียวขาดลอย

ที่สุด "เดอะมาร์ค" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ถึงฝั่งฝันในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทย

ด้วยวิธีโหวตเสียงในสภาฯ ไม่ใช่มาตรา 7

ก่อนอื่นเลยคงไม่กล้าปฏิเสธกันซะทีเดียวว่า คิวนี้ไม่ใช่ได้มาเพราะชื่อชั้น "อภิสิทธิ์" หรือกระแสของพรรคประชาธิปัตย์

แต่มาเพราะสถานการณ์เอื้ออำนวย

และ เบื้องหลังความสำเร็จจริงๆก็อยู่ที่การคุมเกมของ "ทีมจัดรัฐบาลมืออาชีพ" ระดับ "พินิจ จารุสมบัติ-ไพโรจน์ สุวรรณฉวี-ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ" ที่แพ็กกันแน่นกับ "สุวัจน์ ลิปตพัลลภ-สมศักดิ์ เทพสุทิน" แตะมือกับรุ่นเก๋า "บรรหาร ศิลปอาชา-พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์" ประคองเสียงแตกค่าย "เนวิน ชิดชอบ-สรอรรถ กลิ่นประทุม" ต่อสายกับมือประสานข้ามขั้ว "สุเทพ เทือกสุบรรณ"

เช็กตัวเลขกันแบบวันต่อวัน

ประสานทางลึก จับมือมัดข้าวต้มกันแน่น

ท่าม กลางสารพัดเกมบนดิน ใต้ดิน ที่งัดออกมาบี้กันมันหยด ชนิดนาทีต่อนาที ถึงขั้นต้องล็อกลูกทีมไปเก็บตัวกันที่เซฟเฮาส์ สู้กับเกมดูดกลับ ดักอุ้มกันที่สนามบิน เจาะแซะกันเป็นรายตัว แม้แต่เกม "แทงลม" เสนอตัวเลขหลัก 50 ล้านบาท ล่อให้ ส.ส.เปลี่ยนใจ

ป่วนหน้าตักของทีมงานจัดรัฐบาล

จนกระทั่งนาทีสุดท้ายยังต้องล็อกตัวผู้แทนฯในสังกัดขึ้นรถตู้คันเดียวกันมาโหวตที่สภาฯเพื่อประกันความมั่นใจว่าไม่มีคิวแหกโผ

สรุปว่า "เงิน" ไม่ใช่ปัจจัยพลิกผัน และ "ทหาร" ก็แค่เงื่อนไขกระตุ้น

แต่ สิ่งสำคัญอยู่ที่ "สัจจะ" ของนักเลือกตั้งระดับ "บรรหาร-พินิจ-ปรีชา-สุวัจน์-สมศักดิ์-ไพโรจน์" ที่ให้สัญญาลูกผู้ชายกันไว้ไปไหนไปด้วยกัน ตั้งแต่พรรคเพื่อไทยปล่อยชื่อของ "สารวัตรเหลิม" ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือนายสันติ พร้อมพัฒน์ ออกมาเป็นแคนดิเดตนายกฯแถวสาม

กลายเป็นแรงเหวี่ยงอย่างแรงที่ก่อให้เกิดสวิงขั้ว

สุด ท้ายถึงจะพลิกเกมชูชื่อคนกลางอย่าง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ขึ้นมาเป็นนายกฯเพื่อชาติ ก็ไม่ทันกาล "นายใหญ่" แซะยังไงทีมจัดรัฐบาลมืออาชีพก็ไม่กล้ากลับคำ

ต้องรักษาเครดิตไว้เผื่ออนาคตภายหน้า

สรุปว่า โอกาสเอื้ออำนวย โชควาสนามาถึงคิวของ "อภิสิทธิ์" ซะที

แต่มันก็เสี่ยงกับ "จุดเริ่มที่นำไปสู่จุดจบ"

โดยสัญญาณร้อนๆตั้งแต่นาทีแรกที่รู้ผลอย่างไม่เป็นทางการว่านายกฯคนใหม่ชื่อ "อภิสิทธิ์" ม็อบเสื้อแดงอาละวาดปิดล้อมทางเข้าออกรัฐสภา

กดดันให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่

ก็ เตรียมตัวเตรียมใจล่วงหน้าได้ "อภิสิทธิ์" ในฐานะนายกรัฐมนตรีเดินทางลงพื้นที่ภาคอีสานกับภาคเหนือ จะต้องโดนไม่ต่างอะไรกับที่อดีตนายกฯสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดนล้อมกรอบที่ปักษ์ใต้ และเจอรองเท้าบินที่กรุงเทพฯ

และก่อนอื่นเลย ในสถานการณ์เสียงของรัฐบาลที่เกินกึ่งหนึ่งแค่ 16 เสียง หากประชาธิปัตย์ยังคงมั่นใจกับมุกเก่าๆ "กูแน่อยู่คนเดียว" ไม่ให้ราคาเพื่อนพ้อง

โดนลองของแต่หัววันแน่

สำคัญเหนืออื่น ใด เดิมพันประเทศไทยภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่โงหัวไม่ขึ้น ประเทศไทยเจอซ้ำด้วยวิกฤติการเมือง ผลพวงจากม็อบพันธมิตรฯปิดสนามบิน นักท่องเที่ยวต่างชาติขวัญผวา นักลงทุนขยาด โรงงานเจ๊ง บริษัททยอยปิดกิจการ ตัวเลขคนตกงานเพิ่มขึ้นทุกวัน

กู่ไม่กลับ หลับไม่ตื่น รอส่งขึ้นเมรุเผาจริง

ใครเข้ามาเป็นรัฐบาล โอกาสตายเกินครึ่งค่อนตัว

และ โดยสภาพที่ผู้เล่นแถวสอง ทั้ง "หล่อเล็ก" นายอภิรักษ์ โกษะ-โยธิน เจอดาบ ป.ป.ช.หมดสภาพไปแล้ว ส่วน "หล่อโย่ง" นายกรณ์ จาติกวณิช ก็ต้องลุยไฟในฐานะตัวหลักทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่

ถ้าพลาด "อภิสิทธิ์" นำทีมบริหารงานล้มเหลว คุมไฟลามทุ่งไม่อยู่

ประชาธิปัตย์หมดตัวเล่นจริงๆ.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น: