กบฎประกาศจะก่อการกบฎอีกครั้ง เห็นว่าคราวนี้จะเป็น
ครั้งสุดท้ายของสุดท้าย แล้วมาดูกันซิว่าใครรับมือกันอย่างไรบ้าง
รายแรก เอานี่เลยผบ.ทบ.
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)
เหตุการณ์ระเบิดเวทีพันธมิตรต้องใช้กฎหมายของบ้านเมือง ต้องให้ตำรวจเข้าไปสืบสวนสวบสอน
เพื่อหาผู้ที่กระทำผิด
หากเหตุการณ์บานปลาย กอ.รมน. (กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน) จะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่
เป็น ดุลพินิจของรัฐบาล หากใช้กฎหมายความมั่นคง และให้มีการปฏิบัติการได้ ต้องมีการประกาศพื้นที่ความมั่นคง ซึ่งจะมีน้ำหนักอ่อนกว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ถ้ามีการใช้ข้อกำหนดอย่างใดก็แล้ว
แต่มาบังคับใช้ จะมีผลกระทบต่อสังคม อย่างน้อยที่สุดจะเกิดกับความรู้สึกต่อประชาชนทั่วไป
อย่างไรก็ตาม นายกฯมีอำนาจสั่งการในเรื่องนี้ หากจะประกาศพื้นที่ความสงบขึ้น แต่ต้องผ่าน
กลไกของ ครม. และคณะกรรมการด้านความมั่นคง
จะถือว่า เป็นความขัดแย้งถึงขนาดต้องประกาศเป็นพื้นที่ความมั่นคงหรือไม่ อยู่ที่นายกฯ
ส่วนจะใช้มากน้อยแค่ไหนมีขั้นตอนของ กอ.รมน.โดยหน่วยงานปกติ หรือจะใช้หน่วยงานอื่นๆ
ก็ ดำเนินการได้ภายใต้ กอ.รมน. กอ.รมน.ไม่ได้หมายรวมถึงกองทัพบก ถ้า กอ.รมน.จะใช้อำนาจอะไรพิเศษกว่านั้น หรือจะใช้กำลังทหาร ต้องมีการประกาศพื้นที่ความมั่นคง และต้องมีการนำหน่วยงานจากตรงนี้ไปใช้ ไม่ใช่กองทัพบกเป็น กอ.รมน.
ส่วน กอ.รมน.จะดำเนินการตรงนี้ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลายมาตราที่จะไปใช้ แต่หากคิดว่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องของหน่วยงานปกติ กอ.รมน.จะประเมินเสนอให้ ครม.และ ครม.จะเสนอ
แผนงานให้ กอ.รมน. ซึ่ง ครม.จะสั่งการให้หน่วยงานปกติเช่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ที่ดีกรีหนึ่ง แต่ถ้าดีกรีแรงกว่านี้ ต้องประกาศพื้นที่ความมั่นคง และมีข้อกำหนดคล้ายๆ
กับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ใช่อยู่เฉยๆ แล้วจะให้กองทัพบกออกไปไม่ได้
เหตุการณ์ระเบิดเวทีพันธมิตรต้องใช้กฎหมายของบ้านเมือง ต้องให้ตำรวจเข้าไปสืบสวนสวบสอน
เพื่อหาผู้ที่กระทำผิด
หากเหตุการณ์บานปลาย กอ.รมน. (กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน) จะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่
เป็น ดุลพินิจของรัฐบาล หากใช้กฎหมายความมั่นคง และให้มีการปฏิบัติการได้ ต้องมีการประกาศพื้นที่ความมั่นคง ซึ่งจะมีน้ำหนักอ่อนกว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ถ้ามีการใช้ข้อกำหนดอย่างใดก็แล้ว
แต่มาบังคับใช้ จะมีผลกระทบต่อสังคม อย่างน้อยที่สุดจะเกิดกับความรู้สึกต่อประชาชนทั่วไป
อย่างไรก็ตาม นายกฯมีอำนาจสั่งการในเรื่องนี้ หากจะประกาศพื้นที่ความสงบขึ้น แต่ต้องผ่าน
กลไกของ ครม. และคณะกรรมการด้านความมั่นคง
จะถือว่า เป็นความขัดแย้งถึงขนาดต้องประกาศเป็นพื้นที่ความมั่นคงหรือไม่ อยู่ที่นายกฯ
ส่วนจะใช้มากน้อยแค่ไหนมีขั้นตอนของ กอ.รมน.โดยหน่วยงานปกติ หรือจะใช้หน่วยงานอื่นๆ
ก็ ดำเนินการได้ภายใต้ กอ.รมน. กอ.รมน.ไม่ได้หมายรวมถึงกองทัพบก ถ้า กอ.รมน.จะใช้อำนาจอะไรพิเศษกว่านั้น หรือจะใช้กำลังทหาร ต้องมีการประกาศพื้นที่ความมั่นคง และต้องมีการนำหน่วยงานจากตรงนี้ไปใช้ ไม่ใช่กองทัพบกเป็น กอ.รมน.
ส่วน กอ.รมน.จะดำเนินการตรงนี้ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลายมาตราที่จะไปใช้ แต่หากคิดว่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องของหน่วยงานปกติ กอ.รมน.จะประเมินเสนอให้ ครม.และ ครม.จะเสนอ
แผนงานให้ กอ.รมน. ซึ่ง ครม.จะสั่งการให้หน่วยงานปกติเช่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ที่ดีกรีหนึ่ง แต่ถ้าดีกรีแรงกว่านี้ ต้องประกาศพื้นที่ความมั่นคง และมีข้อกำหนดคล้ายๆ
กับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ใช่อยู่เฉยๆ แล้วจะให้กองทัพบกออกไปไม่ได้
กับคำถามเด็ด แล้วดูคำตอบ
หากนายกฯสั่งการไปที่ กอ.รมน. ผบ.ทบ.จะพร้อมปฏิบัติการหรือไม่
หากนายกฯจะสั่งการลงไปใน กอ.รมน. ที่มีขั้นตอนมากมายที่จะต้องทำ
กอ.รมน.ไม่ได้เป็นการสั่งการแบบวันแมนโชว์ เพราะจะมีคณะกรรมการดำเนินการ
ไม่มีใครทำการแบบวันแมนโชว์ได้ หากคนที่ไม่มีอำนาจ เช่น ผบ.ทบ.ไม่มีอำนาจ
สืบสวนสอบสวนก็ทำไม่ได้ เพราะต้องเป็นไปตามขั้นตอน
จะปล่อยแต่ละฝ่ายตั้งกองกำลังและยิงระเบิดใส่กันหรือ
ไม่มีใครปล่อย เพราะไม่ใช่หน้าที่ที่ใครจะไปปล่อย สื่อมวลชนถามแบบนี้
จะกลายเป็นว่ากองทัพบกจะปล่อย ซึ่งไม่ใช่ ต้องพูดว่า กอ.รมน.โดยนายกฯ
จะต้องพิจารณาในเรื่องนี้
ในฐานะที่ ผบ.ทบ. เป็น รอง ผอ.รมน. สามารถเสนอให้นายกฯทำการอะไร
อย่างหนึ่งได้ใช่หรือไม่
จากการติดตามข่าว ทุกคนทราบว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กับความมั่นคง เช่น สมช. (สภาความมั่นคงแห่งชาติ) ได้พยายามหาข้อมูล
ที่จะเรียนต่อนายกฯ
หากนายกฯจะสั่งการลงไปใน กอ.รมน. ที่มีขั้นตอนมากมายที่จะต้องทำ
กอ.รมน.ไม่ได้เป็นการสั่งการแบบวันแมนโชว์ เพราะจะมีคณะกรรมการดำเนินการ
ไม่มีใครทำการแบบวันแมนโชว์ได้ หากคนที่ไม่มีอำนาจ เช่น ผบ.ทบ.ไม่มีอำนาจ
สืบสวนสอบสวนก็ทำไม่ได้ เพราะต้องเป็นไปตามขั้นตอน
จะปล่อยแต่ละฝ่ายตั้งกองกำลังและยิงระเบิดใส่กันหรือ
ไม่มีใครปล่อย เพราะไม่ใช่หน้าที่ที่ใครจะไปปล่อย สื่อมวลชนถามแบบนี้
จะกลายเป็นว่ากองทัพบกจะปล่อย ซึ่งไม่ใช่ ต้องพูดว่า กอ.รมน.โดยนายกฯ
จะต้องพิจารณาในเรื่องนี้
ในฐานะที่ ผบ.ทบ. เป็น รอง ผอ.รมน. สามารถเสนอให้นายกฯทำการอะไร
อย่างหนึ่งได้ใช่หรือไม่
จากการติดตามข่าว ทุกคนทราบว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กับความมั่นคง เช่น สมช. (สภาความมั่นคงแห่งชาติ) ได้พยายามหาข้อมูล
ที่จะเรียนต่อนายกฯ
ใครฟังออกว่าเป็นอย่างไรไม่ทราบแต่ป้าว่า เขาตอบว่าไม่ทำ
ต่อให้สั่งก็ไม่ทำได้ยินไหม
รายต่อมาคู่ปรับตัวจริง เสียงจริง แต่จะทำจริงหรือเปล่ายังไม่ทราบ
" ในวันที่ 23 พ.ย.นี้กลุ่มพันธมิตรจะชุมนุมใหญ่ ขอเตือนว่าหากใครจะคิด
ไปร่วมชุมนุมขอให้จองวัดล่วงหน้าได้เลย และขอเตือนว่ารวมกันตายหมู่ แยกกันอยู่ตายเดี่ยว
ยิ่งใช้แผนดาวกระจายยิ่งตายเยอะ อยู่ ที่ทำเนียบจะตายน้อย ซึ่งวันที่ 23 พ.ย.จะระดมยิง
ครั้งใหญ่มหาศาล จึงขอให้กลุ่มพันธมิตรออกไปจากทำเนียบ และแกนนำพันธมิตรทั้ง 5 คน
ต้องไปขอโทษและทำพิธีขอขมาพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 เรื่องพูดถึงผ้าอนามัยลบหลู่พระบรมรูป
ทรงม้า หากทำพิธีขอขมา จรวดจะเลิกลง" พล.ต.ขัตติยะกล่าว
ไปร่วมชุมนุมขอให้จองวัดล่วงหน้าได้เลย และขอเตือนว่ารวมกันตายหมู่ แยกกันอยู่ตายเดี่ยว
ยิ่งใช้แผนดาวกระจายยิ่งตายเยอะ อยู่ ที่ทำเนียบจะตายน้อย ซึ่งวันที่ 23 พ.ย.จะระดมยิง
ครั้งใหญ่มหาศาล จึงขอให้กลุ่มพันธมิตรออกไปจากทำเนียบ และแกนนำพันธมิตรทั้ง 5 คน
ต้องไปขอโทษและทำพิธีขอขมาพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 เรื่องพูดถึงผ้าอนามัยลบหลู่พระบรมรูป
ทรงม้า หากทำพิธีขอขมา จรวดจะเลิกลง" พล.ต.ขัตติยะกล่าว
ส่วนแก๊งค์กวนเมือง (40สว. ก็ไม่น้อยหน้า กระโดดงับทันทีตามสัญชาติญาณ)
เวลา 11.00 น.ที่รัฐสภา กลุ่ม 40 ส.ว. นำโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน
นายสมชาย แสวงการ นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายคำนูญ สิทธิสมาน
นายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา นายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง
ร่วม กันแถลงกรณีเหตุระเบิดที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรในทำเนียบรัฐบาล
นาย ประสารกล่าวว่า 40 ส.ว.สลดใจกับเหตุระเบิด เพราะเป็นปฏิบัติการโหดหลังงาน
พระราชพิธีไม่กี่ชั่วโมง เหตุการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับคำแถลงของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล
ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่พูดข่มขู่เป็นระยะทุกวันว่าจะยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ผู้ชุมนุม
และทอดกฐินระเบิดหลังงานพระราชพิธี ทุกครั้งที่พูดจะเกิดเหตุขึ้น ดังนั้นกองทัพบกต้อง
รับผิดชอบ โดยสอบสวนทางอาญาและสั่งขังพล.ต.ขัตติยะทันที เพราะถ้าไม่ใช่ผู้กระทำ
ก็แสดงว่าเป็นผู้รู้เห็นเป็นใจ
ฮั่นแน่ ขนาดขู่ด้วยคำพูด ต้องจับขังเลยนิ แล้วดูนี่ซะก่อน
-พธม.ระดมพลใหญ่ 23 พ.ย.นี้
เที่ยง วันเดียวกัน นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต. จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตร ออกแถลงการณ์กลุ่มพันธมิตรฯ
เพื่อระดมมวลชนครั้งใหญ่ว่า การใช้ระเบิดกับผู้ชุมนุมที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าบุคคลดังกล่าวต้อง
เป็นฝ่ายรัฐบาล โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกราชการและในราชการ มีส่วนและรู้เห็นเป็นใจ
พันธมิตรจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ระดมมวล ชนครั้งใหญ่ ที่ทำเนียบในวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ย.
ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป เพื่อเผด็จศึกและเคลื่อนขบวนต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ที่หน้ารัฐสภา รวมทั้งหยุดอำนาจรัฐบาลอย่างนี้เอาไปตัดหัวเลยดีไหม
นอก จากนี้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ ในฐานะ รมว.กลา โหม ไม่มีปฏิกิริยา ตั้งแต่เหตุการณ์ 7 ต.ค.ยังไม่รับผิดชอบ ทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น จึงขอเรียกร้องให้นายสมชายแสดงความรับผิดชอบ เพราะเกรงว่าต่อไปจะเกิดสงครามกลางเมือง
นายตวงกล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ขอเรียกร้องนายกฯ อย่าเฉยชา
เพราะเหตุ การณ์ส่งผลต่อชีวิตคน และเศรษฐกิจสังคมโดยรวม รัฐบาลต้องทบทวนว่าขณะนี้
รัฐบาล ไร้เสถียรภาพโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถหยุดยั้งความขัดแย้งของประชาชน และควบคุมสถานการณ์ให้สงบได้ และยังไร้อำนาจการบริหาร ไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน
บ้าน เมืองกลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ไร้มนุษยธรรม ฉะนั้นวุฒิสภาจะคุยกันในที่ประชุม
วุฒิสภาวันที่ 21 พ.ย. และเรียกร้องให้รัฐบาลปกป้องคุ้มครองประชาชนทุกฝ่าย
นายสมชาย แสวงการ นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายคำนูญ สิทธิสมาน
นายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา นายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง
ร่วม กันแถลงกรณีเหตุระเบิดที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรในทำเนียบรัฐบาล
นาย ประสารกล่าวว่า 40 ส.ว.สลดใจกับเหตุระเบิด เพราะเป็นปฏิบัติการโหดหลังงาน
พระราชพิธีไม่กี่ชั่วโมง เหตุการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับคำแถลงของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล
ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ที่พูดข่มขู่เป็นระยะทุกวันว่าจะยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ผู้ชุมนุม
และทอดกฐินระเบิดหลังงานพระราชพิธี ทุกครั้งที่พูดจะเกิดเหตุขึ้น ดังนั้นกองทัพบกต้อง
รับผิดชอบ โดยสอบสวนทางอาญาและสั่งขังพล.ต.ขัตติยะทันที เพราะถ้าไม่ใช่ผู้กระทำ
ก็แสดงว่าเป็นผู้รู้เห็นเป็นใจ
ฮั่นแน่ ขนาดขู่ด้วยคำพูด ต้องจับขังเลยนิ แล้วดูนี่ซะก่อน
-พธม.ระดมพลใหญ่ 23 พ.ย.นี้
เที่ยง วันเดียวกัน นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต. จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตร ออกแถลงการณ์กลุ่มพันธมิตรฯ
เพื่อระดมมวลชนครั้งใหญ่ว่า การใช้ระเบิดกับผู้ชุมนุมที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าบุคคลดังกล่าวต้อง
เป็นฝ่ายรัฐบาล โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกราชการและในราชการ มีส่วนและรู้เห็นเป็นใจ
พันธมิตรจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ระดมมวล ชนครั้งใหญ่ ที่ทำเนียบในวันอาทิตย์ที่ 23 พ.ย.
ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป เพื่อเผด็จศึกและเคลื่อนขบวนต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ที่หน้ารัฐสภา รวมทั้งหยุดอำนาจรัฐบาลอย่างนี้เอาไปตัดหัวเลยดีไหม
นอก จากนี้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ ในฐานะ รมว.กลา โหม ไม่มีปฏิกิริยา ตั้งแต่เหตุการณ์ 7 ต.ค.ยังไม่รับผิดชอบ ทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น จึงขอเรียกร้องให้นายสมชายแสดงความรับผิดชอบ เพราะเกรงว่าต่อไปจะเกิดสงครามกลางเมือง
นายตวงกล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ขอเรียกร้องนายกฯ อย่าเฉยชา
เพราะเหตุ การณ์ส่งผลต่อชีวิตคน และเศรษฐกิจสังคมโดยรวม รัฐบาลต้องทบทวนว่าขณะนี้
รัฐบาล ไร้เสถียรภาพโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถหยุดยั้งความขัดแย้งของประชาชน และควบคุมสถานการณ์ให้สงบได้ และยังไร้อำนาจการบริหาร ไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน
บ้าน เมืองกลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ไร้มนุษยธรรม ฉะนั้นวุฒิสภาจะคุยกันในที่ประชุม
วุฒิสภาวันที่ 21 พ.ย. และเรียกร้องให้รัฐบาลปกป้องคุ้มครองประชาชนทุกฝ่าย
ล่าสุดต้องนี่เจ้าเก่ากลุ่มเดิม ทหารที่ไม่รู้จักว่าหน้าที่ของตัวคืออะไร
มติทหาร-ตร.แจ้งนายกฯประสานปธ.สภาเลื่อนประชุม-เปลี่ยนสถานที่
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม
ซึ่งมีผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพเข้าร่วม โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก
เป็นประธาน มีมติเสนอความเห็นไปยังนายกรัฐมนตรีให้ประสานฝ่ายนิติบัญญัติเลื่อนการ
ประชุม ร่วมรัฐสภาในวันที่ 24 พ.ย.ออกไปก่อน หรือย้ายสถานที่ประชุม เพื่อลดเงื่อนไขการเผชิญหน้าที่อาจก่อให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเหมือนเมื่อวัน ที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเสนอผ่าน
เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติถึงนายกฯว่าถ้าจะประสานงานติดต่อ กับฝ่ายนิติบัญญัติให้
เลื่อนการประชุมสภาออกไปได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี หรือจะย้ายสถานที่ประชุมก็สุดแท้แต่เห็นเหมาะสม
ส่วนท่านจะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นดุลพินิจ
ส่วนการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การชุมนุมนั้น โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพได้รับ
การประสานจากทางตำรวจในการปฏิบัติภารกิจกรณีที่เกิดการปะทะ ระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม
โดย จัดเตรียมกำลังพลไว้จำนวน 21 กองร้อยรักษาความสงบ ประกอบด้วย ทหารเรือ 2 กองร้อย ทหารอากาศ 2 กองร้อย ที่เหลือเป็นทหารบก ซึ่งมีแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้ประสานการปฏิบัติภารกิจ โดยกำลังกองร้อยรักษาความสงบจะสามารถเคลื่อนออกจากที่ตั้งไปปฏิบัติภารกิจ ได้ภายใน 15 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดการปะทะกันและดูแลบริเวณโดยรอบทำเนียบ รัฐบาล รัฐสภา และเขตพระราชฐานทั้งหมด ส่วนบริเวณด้านในอาคารรัฐสภาจะเป็นหน้าที่ของตำรวจ ขณะเดียวกันจะมีการส่งกำลังสารวัตรทหารเข้าไปร่วมกับตำรวจตั้งจุดตรวจใน บริเวณโดยรอบที่เกรงว่าสุ่มเสี่ยงจะเกิดการปะทะรวม 14 จุด โดยกำลังพลจะใช้อุปกรณ์ป้องกันเพียงโล่กับกระบอง
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม
ซึ่งมีผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพเข้าร่วม โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก
เป็นประธาน มีมติเสนอความเห็นไปยังนายกรัฐมนตรีให้ประสานฝ่ายนิติบัญญัติเลื่อนการ
ประชุม ร่วมรัฐสภาในวันที่ 24 พ.ย.ออกไปก่อน หรือย้ายสถานที่ประชุม เพื่อลดเงื่อนไขการเผชิญหน้าที่อาจก่อให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเหมือนเมื่อวัน ที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเสนอผ่าน
เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติถึงนายกฯว่าถ้าจะประสานงานติดต่อ กับฝ่ายนิติบัญญัติให้
เลื่อนการประชุมสภาออกไปได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี หรือจะย้ายสถานที่ประชุมก็สุดแท้แต่เห็นเหมาะสม
ส่วนท่านจะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นดุลพินิจ
ส่วนการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การชุมนุมนั้น โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพได้รับ
การประสานจากทางตำรวจในการปฏิบัติภารกิจกรณีที่เกิดการปะทะ ระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม
โดย จัดเตรียมกำลังพลไว้จำนวน 21 กองร้อยรักษาความสงบ ประกอบด้วย ทหารเรือ 2 กองร้อย ทหารอากาศ 2 กองร้อย ที่เหลือเป็นทหารบก ซึ่งมีแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้ประสานการปฏิบัติภารกิจ โดยกำลังกองร้อยรักษาความสงบจะสามารถเคลื่อนออกจากที่ตั้งไปปฏิบัติภารกิจ ได้ภายใน 15 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดการปะทะกันและดูแลบริเวณโดยรอบทำเนียบ รัฐบาล รัฐสภา และเขตพระราชฐานทั้งหมด ส่วนบริเวณด้านในอาคารรัฐสภาจะเป็นหน้าที่ของตำรวจ ขณะเดียวกันจะมีการส่งกำลังสารวัตรทหารเข้าไปร่วมกับตำรวจตั้งจุดตรวจใน บริเวณโดยรอบที่เกรงว่าสุ่มเสี่ยงจะเกิดการปะทะรวม 14 จุด โดยกำลังพลจะใช้อุปกรณ์ป้องกันเพียงโล่กับกระบอง
เฮ้ แปลกไหมล่ะค่ะ งานของแผ่นดิน ต้องเลื่อนต้องหลบ เพียงเพราะกบฎ
ประกาศบุก ใครไม่อาย ป้าอาย อายจังเลยที่มีทหารและตำรวจอย่างนี้ อายและเสียใจเหลือเกิน
ที่ไว้ใจให้คนเหล่านี้ดูแลความสงบของบ้านเมือง นี่ถ้ามีข้าศึกบุก พวกมันจะประชุมกันเสนอให้
พวกเราหนีกันหัวซุกหัวซุนจนตกทะเลไปไหมเนี่ย
ฝ่ายโรงพยาบาลก็น่ารักมากอุตส่าห์เตรียมพร้อมกับเขาด้วย เตรียมแพทย์ พยาบาลไว้พร้อม
รวมทั้งโลหิตด้วย แน้ แสดงว่ารู้สิว่าจะมีการปะทะกัน โธ่ถังแทนที่จะสุมหัวกันหาทางยับยั้ง
ดั๊นแถ ลงว่าน่าจะเลื่อนหรือไม่ก็ย้าย คนมันบ้า มันประกาศแล้วว่าคราวนี้เอาม้วนเดียวจบ
ถ้าเลิกประชุมไปเสีย มันจะหยุดหรือ ไม่มีใครให้อาละวาด มันไม่คลั่งเผาเป็นว่าเล่นหรือ
เอาอะไรคิดกันหนอ แทนที่จะห้ามไม่ให้มันเกิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น