วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

กรูไม่เอาเมิง...ชัดยัง

ให้บังเอิญได้ดูข่าว"สามมิติ"แว่บหนึ่งเมื่อคืนนี้ เหตุเพราะลูกสาวเขาดูละครช่องสามจบ
ยังไม่ทันปิดทีวี ข่าวมันก็โผล่มา ได้เห็นหน้าตา รมต.กต. และไอ้ใครหนอของกต.ที่ออก
มาแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ของกต. ก็โอ้โห สุดยอด สมเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวจริงๆ ขึงขัง จริงจังมั้กมาก ดูแล้วน่ากลัวมาก ออกมาแถลงข่าวอ่าน 5ข้อ
ที่ตอบโต้เขมร แล้วก็ลุกไป ไม่ทันให้นักข่าวถาม

เมื่อหัว มันเป็นเสียอย่างนี้ (รมต. กต.) จะให้ลูกน้อง(โดยตำแหน่ง) ของกระทรวงทำอย่างไรได้
เป็นที่น่าสังเวชใจยิ่งนัก พวกนี้เรียนจบอะไรมานะ รัฐศาสตร์การฑูตหรือเปล่า แล้วเขาไม่สอนเรื่อง
มารยาทการฑูตกันบ้างหรือไร เวลาแถลงข่าวไม่ต้องอินหรอก ทำตามหน้าที่ก็พอแล้ว วางหน้าเฉยๆ
แบบนักการฑูตก็พอแล้ว เพราะเนื้อหามันก็รุนแรงพออยู่แล้ว นี่อะไร ทำสีหน้าแววตา โกรธแค้น
แทนไอ้กะสัตว์ไปได้ ไม่สมเป็นนักการฑูตสักนิด

แว้ปภาพข่าวตัดมาที่ไอ้เจ้ากระทรวง กำลังจะบินไปเจรจาความเมืองที่ญี่ปุ่น เจอนักข่าวถาม
หันมาส่อนิสัยดั้งเดิมตอบนักข่าว ด้วยข้อความที่แสนจะนึกว่าเก๋สุด ว่า "ให้เขมรเลือกเอา
ว่าจะเอาประเทศไทย หรือคุณทักษิณ" โอ้แม่เจ้าข้าวนึ่งบูด ขนาดลูกสาวเห็นยังถามว่าคนนี้
ใคร พอรู้เท่านั้น เขาถามว่าเป็นรมต.กต. พูดจาอย่างนี้ได้อย่างไร (คงลืมตัวไปว่า ขณะนี้
เป็นตัวแทนประเทศชาติ หาได้ยืนอยู่บนเวทีเสื้อเหลืองที่บุกไปยึดสนามบินไม่)

ฮั่นแน่ ปากเห่าว่าผมขอพูดแค่นี้แหละ แต่ไม่ได้ยินว่านักข่าวถามว่าอะไร แม่งอุตส่าห์เดินกลับ
มาทำหน้ายียวนกวนบาทาประชาชีอีกว่า "ต้นเรื่องทั้งหมด อยู่ที่ทางกัมพูชา เขาเป็นคนตั้งที่ปรึกษา
เอง ให้ไปคิดทบทวน..(แอ่นแอ๊น..แล้วก็ย้ำอีกครั้งว่า) ให้ทางกัมพูชาเลือกเอาว่าจะเลือกคุณทักษิณ
หรือประเทศไทย"

อาย อ๊าย อาย ทำไมเราถึงได้เอาผู้ก่อการร้ายสากลมาเป็นรมต.กต. แค่นั้นยังอายไม่พอ
ดั๊นเป็นผู้ร้ายที่ไม่กลับใจ ยังนึกว่าตัวเองเป็นพันธมิตรอยู่ตลอดเวลา(อ๊าว ก็ไอ้พวกนั้น มัน
ยึดเอาคุณทักษิณเป็นศูนย์กลาง เป็นศัตรูตัวฉกาจไม่ใช่หรือ)

แล้วเราจะตอบชาวโลกเขาได้อย่างไร ว่าเราทำครั้งนี้เพราะอะไร(เรียกฑูตกลับ) เพราะเราโกรธ
ที่เขาเห็นคุณค่าของคุณทักษิณ ในขณะที่พวกมันกำลังทำลายล้าง อย่างนั้นหรือ คนน่ะ เป็นผู้ใหญ่
อายุก็เกษียณแล้ว อย่างน้อยมันต้องมีสมองหยุดคิดบ้างว่าอะไรเป็นอะไร คุณทักษิณ เขาผิดข้อหาอะไร
แค่เซ็นชื่อยินยอมให้เมียโอนที่เนี่ยนะ มันต้องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเลยหรือ

แล้วเอาความแค้นส่วนตัว เอาความเกลียดที่รุมเร้าจิตใจไปกระทำการอันน่าอับอายอย่างนี้ได้อย่างไร
อันที่จริงตัวแกน่ะ เลวยิ่งกว่าเขาเป็นร้อยเท่า ยังมีคนให้อภัย เอามายกย่องให้เป็นถึงเจ้ากระทรวง
หัดคิดอย่างใช้สมองเสียบ้าง ความผิดของแกน่ะนะ ถ้าได้ถูกดำเนินคดีอย่างเป็นธรรม แกรับรอง
ได้ติดคุกหัวโตแน่ แล้วเกิดหนีไปไหนนะ เราแจ้งข่าวไป รับรองเขาจะช่วยกันจับตัวแกส่งมาลงโทษ
กันทุกประเทศนั่นแหละ มีอย่างที่ไหน เป็นตัวอันตรายแท้ๆ ยังไม่รู้สึกตัวอีก

ฮุนเซนเขาพบ เขาพูดจาด้วยน่ะ เป็นเพราะเขาเป็นผู้ใหญ่พอ เขารู้กาละเทศะ เขาห่วงหน้าตา
ของประเทศเขามากกว่า เพราะเขาก็รู้ว่าแกไปด่าว่า พูดถึงเขาว่าอย่างไร คิดดู ถ้าเขามีสมอง
เท่าหางอึ่งแบบแก เขามิบอยคอตแกไม่คบหาไม่พูดจาไปแล้วหรอกหรือ แต่เขามองภาพใหญ่
คิดแต่เพียงว่า เออหนอประเทศนี้ คิดได้เท่านี้เอง เอาคนอย่างนี้มาเป็นรมต. เขาสู้อุตส่าห์กลืน
ความแค้น(ส่วนตัว) แล้วรับรองแก ในฐานะเป็นรมต.กต. ของมิตรประเทศ แกยังไม่รู้สึกตัวกันอีก

เรื่องนี้น่ะ ไม่ต้องให้เขาเลือกหรอก เพราะเขาเลือกแล้ว อยู่ที่แกเท่านั้นแหละที่จะเลือกใช้สมอง
หรือหัวแม่เท้าตรองดูว่าการกระทำครั้งนี้มันสมควรไหม ลองกลับไปคิดทบทวนดู ถ้าคิดไม่ออก
ด้วยว่าด้อยปัญญา ก็จะบอกให้เอาบุญว่า "เลวไม่มีที่ติ เปลี่ยนมิตรให้เป็นศัตรูแท้ๆเลย ไร้เหตุผล
ขาดสติ น่าละอาย"

ไอ้รัฐบาลเฮงซวยนี่ก็จริงๆ แม่งคงไม่ได้พูดคุย ปรึกษาหารือกัน งานนี้จะว่าไป ไอ้เทือก เป็นผู้ใหญ่
กว่าเพื่อน เพราะข่าวออกมาตอนเช้าว่า "ไม่ว่าอะไร กัมพูชามีสิทธิ์จะตั้งใครเป็นที่ปรึกษาก็ได้
กัมพูชาก็เคยตั้งฝรั่งออกบ่อยไป" เนี่ยอย่างนี้ถึงจะเรียกว่ามีวุฒิภาวะ รู้จักแยกแยะ นี่อะไร พอบ่าย
เกิดบ้าระห่ำกันไม่เลิก ออกมากัดเขาไม่หยุด แกไม่อายแต่ฉันอายว่ะ

ไม่มีความคิดเห็น: