วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

เหลือง-แดง


การใช้สีมีมานานแล้วล่ะค่ะ ใช้เพื่อบอกหมู่เหล่า บอกให้รู้ว่าพวกเดียวกัน
ทั้งโรงเรียน มหาวิทยาลัยต่างก็ต้องมีสีของตน จนบางครั้งสีนี่แหละที่
เมื่อเห็นแล้วอยากยกพวกตีกัน

บางครั้งสียังถูกนำมาใช้เพื่อสร้างความจงรักภักดี บอกให้รู้ว่ารัก จนต้องใส่
กันทั้งบ้านทั้งเมือง จนบางพวกเอามาใส่ในการชุมนุม เพื่อประกาศศักดา
ความเป็นพวก แต่เผอิญใส่ไปทำผิดร้ายแรงหลายประการ... ยึดทำเนียบ
ปิดสนามบิน ไล่ตีตำรวจ เมื่อภาพปรากฎออกมา สีเสื้อเลยเสื่อม คนละเลิก
ที่จะใส่ เพราะกลัวจะถูกเหมารวมว่าเป็นพวกเดียวกัน เป็นพวกเกเร

หากดีจริง ก็คงต้องใช้กันต่อไป แต่ทำไม จึงกลายเป็นเสื้อหลากสี เปลี่ยนสี
ในการออกมาชุมนุมไปซะอย่างนั้น แม้แต่ชื่อที่ใช้เรียกกลุ่มก็ยังเปลี่ยนไป
ทั้งๆที่บอกเจตนายังเหมือนเดิม รักมากทั้งชาติและสถาบัน แต่แปลกที่ต้อง
เปลี่ยนสีและชื่อ หากดีจริงทำไมไม่ใช้ต่อไป

ผิดกับอีกสี ที่ถูกตีตราว่าชั่วร้าย เลวทราม เผาบ้านเผาเมือง เป็นผู้ก่อการร้าย
ฆ่าทหาร ยิงกันเอง ตายเป็นเบือ เหอเหอ มันน่าจะเป็นสีต้องห้ามไปอีกสี

แปลกแต่จริง หลังเกิดเหตุไม่นาน บ.ก.ลายจุด ชักชวนให้ใส่สีแดง เธอบอกว่า
"วันอาทิตย์สีแดง" ตั้งแต่นั้นมา วันอาทิตย์คนก็คว้าเสื้อแดงขึ้นมาใส่ทุกวันอาทิตย์
แค่นั้นยังไม่พอ เดี๋ยวนี้ เวลาอยากไปกวนตีนใคร ไปสถานที่ราชการ ก็ยังใส่เสื้อสีแดง
ไปเสวนา ไปวัด ไปไหนๆ ก็ใส่สีแดง ทำให้รู้ว่าแดงดีสีไม่ตก แม้จะถูกตราหน้าว่า
ชั่วร้าย แต่คนกลับไม่อาย กลับไม่กลัว ที่จะใส่ให้รู้ว่าเรายังอยู่ เรายังไม่ตาย

แม้จะถูกป้ายสี ว่าอย่างไร แดงก็ยังอยู่ ไม่จืดจาง ไปตามกาลเวลา ไม่ต้องเปลี่ยนสี
ประกาศให้รู้ไปเลยว่า"กูรักสีแดง"ฮิ้ววววววววววววว

ไม่มีความคิดเห็น: