ไอ้รัฐบาลบ้าเนี่ย ชอบสร้างแต่เรื่อง ให้สัมภาษณ์กันเป็นวรรคเป็นเวร
อ้างโน่นอ้างนี่ พอถูกจับได้ก็เงียบบ้าง แถบ้างไปตามเรื่องตามราว
อันที่จริงต้องว่าตามสันดานเดิม มีอย่างที่ไห ลองอ่านดูการให้สัมภาษณ์
เรื่องนี้ดูเป็นตัวอย่างแรก
นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะพยายามเดินหน้าเจรจากับแกนนำกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ซึ่งได้มีการนัดหมายแล้ว ตนจะเดินทางไปพบด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันก็ได้ประสานไปยังบุคคลใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อขอเจรจาเช่นกัน โดยเห็นว่าหากจะกลับเข้าประเทศก็สามารถทำได้ แต่ต้องเข้าต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม
เสร็จแล้วไอ้ขุนพลอยพยักก็ออกข่าวให้สัมภาษณ์ต่อ เป็นเรื่องเป็นราว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาพูดว่า"ที่ผ่านมานายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ
พยายามพูดคุยกับพตท.ทักษิณ เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบ แต่ยังไม่สำเร็จแสดงให้เห็นอย่าง
ชัดเจนว่า พตท.ทักษิณยังพยายามดำเนินการทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของไทย
ในสายตาต่างชาติ และส่งผลกระทบต่การสร้างความสมานฉันท์ในประเทศอยู่"
พยายามพูดคุยกับพตท.ทักษิณ เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบ แต่ยังไม่สำเร็จแสดงให้เห็นอย่าง
ชัดเจนว่า พตท.ทักษิณยังพยายามดำเนินการทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของไทย
ในสายตาต่างชาติ และส่งผลกระทบต่การสร้างความสมานฉันท์ในประเทศอยู่"
เป็นถึงหมอ เป็นถึงโฆษกพรรคแต่โกหกไฟแล่บ เมื่อเขาออกมาแจ้งให้ทราบว่าไม่เคยมีการติดต่อ
กลับแถไปอีกเรื่อง หาว่าเขาไปจ้างบริษัทต่างชาติ ทำลายประเทศอีก คนเราเมื่อถูกจับได้ว่าโกหก
ก็ต้องหยุด ไม่ใช่พยายามเปลี่ยนเรื่องโกหกต่อไปอีก มันทุเรศ เป็นอย่างนี้กันทั้งพรรคเลย
แล้วจะไว้ใจให้บริหารประเทศได้อย่างไร คนโกหก มันก็ต้องโกหกอยู่วันยังค่ำ
ทีนี้ลองมาฟังผู้ถูกกล่าวหาเขาแถลงบ้าง
"หมอมิ้ง"จวกปชป.ป้ายสี"แพะการเมือง"ปั้นเรื่อง"ล็อบบี้ยิสต์"
นพ. พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดแถลงข่าวเมื่อเวลา 13.30 น. เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ห้องกำแพงเพชร 5 โรงแรมเซ็ลทารา แกรนด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว ถึงกรณีที่น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหา น.พ.พรหมมินทร์ นายภูมิธรรม เวชชยชัย อดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย และนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ซึ่งล้วนแต่เป็นคนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับบริษัทในต่างประเทศเพื่อมุ่งทำลายความน่าเชื่อ ถือของประเทศไทย หรือล็อบบี้ยิสต์ โดยตั้งคำถามเกี่ยวกับการทำงานของสถาบันนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร อีกทั้งกระบวนการยุติธรรมว่า ตนได้หารือกับนายภูมิธรรม และนายพันศักดิ์ แล้ว ซึ่งทั้งหมดได้มอบหมายให้ตนมาเป็นตัวแทนในการชี้แจงทั้งหมด โดย
1. พรรคประชาธิปัตย์ ควรมุ่งแก้ไขปัญหาของชาติ และความเดือดร้อนของประชาชนมากกว่ามุ่งกล่าวหา “แพะทางการเมือง” ด้วยการกล่าวร้ายว่าสาเหตุต่างๆ เกิดจากพ.ต.ท.ทักษิณหรือการล็อบบี้ของบริษัทใดๆในต่างประเทศ เพื่อโยนความผิดให้ผู้อื่นตามความถนัด ซึ่งไม่อาจะเป็นข้ออ้างเพื่อเลี่ยงความรับผิดชอบในการแก้ปัญหาของรัฐบาล ซึ่งจากการที่พรรคประชาธิปัตย์ถนัดเรื่องการกล่าวหาแพะทางการเมืองแล้วโยน ความผิดให้คนอื่นนั้นตนเคยได้ฟ้องร้องพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยที่ 1 หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นจำเลยที่ 2 ตลอดจนถึงเลขาธิการพรรคและโฆษกพรรค ซึ่งคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาตัดสินวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นอกจากนี้นายภูมิธรรมก็เคยชนะคดีปฎิญญาฟินแลนด์มาแล้วด้วย
น. พ.พรหมมิมทร์ กล่าวว่า 2.เหตุการณ์ต่างๆทางการเมืองของประเทศไทยตั้งแต่การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ฉีกรัฐธรรมนูญ 2540 ต่อเนื่องจนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกยึดทำเนียบรัฐบาลและสนามบิน แห่งชาติสุวรรณภูมิ ล้วนเป็นข่าวที่ตื่นเต้น น่าสนใจและกระทบต่อชาวต่างประเทศเป็นอันดับข่าวสำคัญต้นๆ ของโลก ซึ่งสั่นสะเทือนต่อความเชื่อมั่นของประเทศด้วยตัวของเหตุการณ์เอง โดยที่ไม่มีบริษัทล็อบบี้ใดในโลกทำได้ นอกเสียจากการกระทำของคณะผู้ก่อการรัฐประหาร ผู้ก่อการยึดทำเนียบรัฐบาลและสนามบินสุวรรณภูมิ จึงเป็นหน้าที่สำคัญของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีที่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่าจะมีการดำเนินการตามกฎหมาย ต่อการกระทำนั้นในวันที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ซึ่งสื่อต่างชาติคงจับตาไม่กระพริบกับการจัดการกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ นายประพันธ์ คูณมี นายสำราญ รอดเพชร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่เป็นแกนนำ และผู้ร่วมปฏิบัติการคนสำคัญ
ส่วน 3.สื่อต่างประเทศยึดมั่นในเสรีภาพของสื่อมวลชนและหลักการประชาธิปไตย ที่เป็นส่วนหนึ่งของแบบอย่างสื่อมวลชนไทย จึงไม่มีใครไปกำหนด หรือบอกให้สื่อมวลชนที่มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือในสากล 4.ข้าพเจ้าไม่เกี่ยวข้องกับการจัดจ้างบริษัทต่างชาติ และไม่เชื่อว่ามีใครจ้างบริษัทเพื่อกระทำการตามที่ข้อกล่าวหาให้ร้าย ที่สำคัญพรรคประชาธิปัตย์เองก็พร่ำกล่าวหาว่ารัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นโนมินีของพ.ต.ท.ทักษิณ จึงทำให้ข้อกล่าวหาครั้งนี้ขัดแย้งกับข้อกล่าวหาเดิม เพราะคงไม่มีใครจัดจ้างคนมาทำลายรัฐบาลที่ตัวเองสนับสนุน และหากประโยคหลังถูกประโยคแรกก็ต้องผิด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ถนัดแต่การกล่าวร้ายจนลืมตรวจสอบ ตรรกะความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายนและยุบพรรคไทยรักไทย พร้อมกับการตัดสิทธิ์คณะกรรมการบริหารพรรค 5 ปี ข้าพเจ้ามิได้เกี่ยวข้องหรือร่วมดำเนินกิจกรรมกับพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมืองใดๆ เลย
5.ที่ผ่านมาสังคมไทยมีความแตกแยก แตกสามัคคีเกิดขึ้น เนื่องจากการกล่าวหาและให้ร้ายผู้อื่นของคนบางกลุ่มโดยอาศัยข้อเท็จจริงหรือ ความจริงบางส่วน ผสมความเท็จหรือนิทานเผยแพร่ปลุกเร้าให้คนเกลียดชังจนถึงการปลุกเร้าให้คน เกลียดชังและทำร้ายกัน ซึ่งในสถานการณ์วิกฤติและมีความแตกยแก คนในสังคมต้อง “คิดเชิงบวกก่อน” จึงให้ “คิดรักก่อน หลีกเลี่ยงการคิดชัง” “คิดสร้างสรรค์ก่อน หลีกเลี่ยงการคิดทำลายล้างกัน” ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์มีหน้าที่ต้องนำคนไทยแก้ปัญหา มากกว่าสร้างปัญหาเสียเอง และหากน.พ.บุรณัชย์ ยังไม่ถนัดทำงานด้านสร้างสรรค์ หรือไม่มีแบบอย่าง ตนและ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชาชน ในฐานะที่ได้รับการอบรมศึกษาในวิชาชีพแพทย์เหมือนกันยินดีเป็นผู้แนะนำ
น. พ.พรหมมินทร์ กล่าวว่า สำหรับตนคงจะไม่ดำเนินการฟ้องร้องพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากมีคดีเก่าที่เคยฟ้องร้องไว้อยู่แล้ว ซึ่งจะสามารถชี้ให้เห็นความจริงทุกอย่าง และตนคิดว่าการทำความเข้าใจเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย คนทั่วโลกวิจารณ์กันระงมและออกมาเป็นชุดๆ จึงไม่จำเป็นต้องไปว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ใดๆ ซึ่งตนไม่เห็นมีสื่อมวลชนประเทศไหนแม้แต่ฉบับเดียวจะชื่นชมเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้สื่อต่างประเทศพาดพิงสถาบันเบื้องสูงประเทศไทยบ่อยครั้ง เป็นไปได้หรือไม่ที่จะสอดคล้องกับกรณีบริษัทล็อบบี้ยิสต์ นพ.พรหมมินทร์ กล่าวว่า สถาบันหลักของชาติ คือชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ นั้นอยู่ในหัวใจของคนไทยทุกคน ซึ่งตนเชื่อว่าไม่มีใครกล้าฝืนความรู้สึกของคนไทย ข้อกล่าวหานั้นเป็นแบบฮาร์ฟทรูต คือพูดข้างบนนิดหนึ่งแล้วมาหยอดข้างล่างมาผูกกัน ซึ่งสังเกตได้จากการให้สัมภาษณ์ที่เป็นการทำลายคน
“ ผมไม่ได้ติดต่อกับพ.ต.ท.ทักษิณ มาเกือบ 2 เดือนแล้วมั้ง เมื่อก่อนก็มีโอกาสพูดคุยภามไถ่กัน แต่ 2 เดือนที่ผ่านมาไม่มีโอกาสพูดคุยถามไถ่ และยังไม่ได้อวยพรปีใหม่เลย แล้วท่านอยู่ที่ไหนผมยังไม่รู้เลย ซึ่งก็ไม่ทราบว่าทำไมคนเหล่านั้นถึงเลือกที่จะกล่าวหาพวกผม หรืออาจจะเป็นเพราะเป็นพวกซ้ายเก่า จึงกล่าวหาเพื่อให้เรื่องดูน่าเชื่อถือ” น.พ.พรหมมินทร์ กล่าว
ยังๆไม่พอ ไอ้เทพเมือกยังปฏิเสธอีกว่าไม่รู้เรื่องฟังมาจากสื่ออีกที
เมื่อ ถามว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาเปิดเผยเรื่องบริษัทล๊อบบี้ยีสต์ เหมือนไปโจมตีพ.ต.ท.ทักษิณก่อน อาจทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ปิดประตูเจรจา นายสุเทพกล่าวว่า จริงๆ ตนเพิ่งรู้เรื่องดังกล่าวพร้อมกับสื่อ รู้จากสื่อ ตนยังไม่ได้ไปตรวจสอบด้วยซ้ำไป ก็ต้องคุยกับคนที่เปิดเผย
เป็นรองนายกฯคุยใหญ่คุยโตว่าจะไปคุยกับเขา โฆษก พรรคตัวเองออกมาใส่ความเขาเหยงๆ
เฉือกบอกไม่รู้เรื่อง
เรื่องลอบสังหารก็ทีแล้ว อกกมาให้สัมภาษณ์กันทุกตัว ในที่สุดก็เหลว กุข่าวสร้างเรื่องกัน
ขึ้นมาเองทั้งนั้น นี่ก็ข่าวล่าสุด จะตบรางวัลกัน เอานายนามยิ้มแย้ม มารับตำแหน่ง
พอเรื่องแดงขึ้นมา ปัดกันให้วุ่นอีกแล้วครับท่าน
นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวตั้งนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่า ยืนยันว่าไม่มีการแต่งตั้งตามข่าว เพราะหากมีการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จะต้องมีการนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม เรื่องการแต่งตั้งตำแหน่งทางการเมืองนั้น ต้องดูคุณสมบัติ ผลงาน และความเหมาะสม
ส่วนรายนี้ก็อ้างไปโน่นเลย ดักฟังโทรศัพท์ ทุเรศหนักเข้าไปอีก
นาย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ถึงกรณีการทาบทามนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหารแก่รัฐ (คตส.) เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยมีเงินประจำ และรถประจำตำแหน่ง ว่า ไม่ทราบว่า ข่าวเรื่องนี้ออกมาจากที่ไหน แต่แนวแทางการทำงานส่วนตัวจะตั้งคณะทำงานหลายหน่วย ประมาณ 7-8 ชุด เพื่อช่วยงานด้านต่างๆ ของกระทรวง แต่ยอมรับว่าได้โทรศัพท์ ทาบทามนายนามมาเป็นคณะทำงาน ไม่ใช่ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรี และที่ยืนยันยังไม่ได้คุยกันนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในเรื่องดังกล่าวเลย
"ผมอยากบอกว่า นี่เป็นเพียงความพยายามของผมที่จะทดสอบว่า การสื่อสารทางโทรศัพท์ของผม และผมเชื่อว่า มีฟังการสื่อสารทางโทรศัพท์ของผม แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนดักฟัง สิ่งนี้เป็นการทดสอบของผม และเผอิญเรื่องที่ผมพูดคงเป็นเรื่องที่เขาสนใจ เลยนำไปโยงกัน ผมทดลองการดักฟังโทรศัพท์มาตั้งแต่ผมรับตำแหน่ง ที่ผ่านมามันคงไม่ประทับใจแต่เรื่องนี้ประทับใจเลยปล่อยออกมา" นายพีระพันธุ์ กล่าว
"ผมอยากบอกว่า นี่เป็นเพียงความพยายามของผมที่จะทดสอบว่า การสื่อสารทางโทรศัพท์ของผม และผมเชื่อว่า มีฟังการสื่อสารทางโทรศัพท์ของผม แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนดักฟัง สิ่งนี้เป็นการทดสอบของผม และเผอิญเรื่องที่ผมพูดคงเป็นเรื่องที่เขาสนใจ เลยนำไปโยงกัน ผมทดลองการดักฟังโทรศัพท์มาตั้งแต่ผมรับตำแหน่ง ที่ผ่านมามันคงไม่ประทับใจแต่เรื่องนี้ประทับใจเลยปล่อยออกมา" นายพีระพันธุ์ กล่าว
แล้วก็ต่อด้วยข่าวนี้ อ่านแล้วให้กระอักกระอ่วนใจยิ่งนัก ลองทัศนาดูค่ะ
ปชป.ปูนบำเหน็จ"นาม ยิ้มแย้ม"นั่งกุนซือ รมว.ยธ.
รายงาน ข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์แจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 6 มกราคม จะมีนำรายชื่อที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรีบางส่วนเข้าสู่ที่ประชุมครม. เพื่อพิจารณา อาทิ นางอัญชลี วานิช เทพบุตร เป็นรองเลขานุการนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี), น.พ.พิทักษ์ ฐานบัญชา อดีตผู้สมัครส.ส.เขต 5 กทม. เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายวิทยา แก้วภราดัย), นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายวิฑูรย์ นามบุตร), นายก้องศักดิ์ ยอดมณี เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายกรณ์ จาติกวณิชย์), นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ลูกเขยคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนาย นาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม(นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค)
ข่าวแจ้งว่า ในส่วนของรัฐมนตรีหน้าใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน จะมีผู้บริหารพรรคโดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนคัดสรรบุคคลที่จะเข้ามานั่งในตำแหน่งที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรี ซึ่งมีหลายคนที่เมื่อถูกเสนอชื่อในที่ประชุม ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากบรรดารัฐมนตรี อาทิ นายประพันธ์ คูณมี นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ และนายสำราญ รอดเพชร อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เพราะรัฐมนตรีหลายคนหวั่นว่า จะมีภาพของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา เช่น เดียวกับการ เชิญนายนาม ยิ้มแย้ม เข้ามาเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรนีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ถูกแกนนำพรรคหลายคนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะแกนนำพรรคหลายคนหวั่นว่าจะกลายเป็นเป้าถูกโจมตีจากฝั่งตรงข้าม ที่สำคัญก่อนหน้านี้นายนาม เคยถูกกล่าวหาว่าพยายามช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์จากการทำสำนวนคดียุบพรรค ไทยรักไทย และคดีรถดับเพลิง ที่มีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตกเป็นจำเลย
รายงาน ข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์แจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 6 มกราคม จะมีนำรายชื่อที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรีบางส่วนเข้าสู่ที่ประชุมครม. เพื่อพิจารณา อาทิ นางอัญชลี วานิช เทพบุตร เป็นรองเลขานุการนายกรัฐมนตรี (นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี), น.พ.พิทักษ์ ฐานบัญชา อดีตผู้สมัครส.ส.เขต 5 กทม. เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายวิทยา แก้วภราดัย), นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายวิฑูรย์ นามบุตร), นายก้องศักดิ์ ยอดมณี เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายกรณ์ จาติกวณิชย์), นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ลูกเขยคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนาย นาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม(นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค)
ข่าวแจ้งว่า ในส่วนของรัฐมนตรีหน้าใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน จะมีผู้บริหารพรรคโดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนคัดสรรบุคคลที่จะเข้ามานั่งในตำแหน่งที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรี ซึ่งมีหลายคนที่เมื่อถูกเสนอชื่อในที่ประชุม ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากบรรดารัฐมนตรี อาทิ นายประพันธ์ คูณมี นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ และนายสำราญ รอดเพชร อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เพราะรัฐมนตรีหลายคนหวั่นว่า จะมีภาพของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา เช่น เดียวกับการ เชิญนายนาม ยิ้มแย้ม เข้ามาเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรนีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ถูกแกนนำพรรคหลายคนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะแกนนำพรรคหลายคนหวั่นว่าจะกลายเป็นเป้าถูกโจมตีจากฝั่งตรงข้าม ที่สำคัญก่อนหน้านี้นายนาม เคยถูกกล่าวหาว่าพยายามช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์จากการทำสำนวนคดียุบพรรค ไทยรักไทย และคดีรถดับเพลิง ที่มีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตกเป็นจำเลย
โอ้โห ยืดยาวนะคะ แต่น่าสนใจอย่างยิ่ง ขอขอบคุณที่อ่านมาจนบรรทัดสุดท้ายค่ะ
ขอฝากบทความจากไทยรัฐมาให้อ่านเพิ่มเติมค่ะ เผื่อจะเข้าใจสันดานพรรคนี้ดีขึ้น
ประทับตรา 'ตัวโกง' [6 ม.ค. 52 - 03:15]
ถึงตอนนี้ให้มันรู้กันซะว่า "ดาวพระศุกร์" ภาคของประชาธิปัตย์ ไม่ได้นุ่มนิ่ม เชื่องช้า
แสนดีเหมือนในละครน้ำเน่า
กว่า ที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร จะเยื้องย่างออกมาปฏิเสธ เพิ่งโทรศัพท์คุยกับอดีตนายกฯทักษิณเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา ได้รับการยืนยันว่า "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ยังไม่ได้ติดต่อไป
และไม่เคยรับทราบว่าติดต่อผ่านคนใกล้ชิดด้วย
กว่า ที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย จะตั้งหลักแถลงข่าว จี้ให้ "เทพเทือก" หยุดปั่นกระแสต่อสายเจรจา "นายใหญ่" สร้างข่าวให้สังคมเห็นว่า อดีตนายกฯทักษิณอยู่เบื้องหลังม็อบเสื้อแดง
อัดรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์สร้างฉากสมานฉันท์เพื่อสร้างภาพให้ตัวเอง
เดินแต้มตามไม่ทัน
โดย เกมที่โดนเซียนยี่ห้อประชาธิปัตย์ทิ้งห่างหลายช่วงตัว เครือข่าย "นายใหญ่" หลงเข้าโปรแกรมที่นายกฯอภิสิทธิ์ เล่นบท “ดาวพระศุกร์” ออดอ้อน วิงวอนให้ "ทักษิณ" เห็นแก่บ้านเมือง
ต่อมาก็เป็นช็อตเซอร์ไพรส์ปีใหม่ นายกฯอภิสิทธิ์กับ "เทพเทือก" ช่วยกันประโคมข่าวพยายามต่อสายอดีตนายกฯทักษิณเพื่อเจรจาสงบศึก เจรจาขอให้หยุดความเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวายในประเทศ
ประชาธิปัตย์ชิงเล่นบท "ตัวดี" ยัดบท "ตัวร้าย" ให้อดีตนายกฯทักษิณ
ตีกินนิ่มๆไปแล้ว
และล่าสุดก็เป็นฉาก "ประทับความชั่วร้าย" นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งโต๊ะแถลงอย่างเป็นการเป็นงาน
แฉแผน "โลกล้อมประเทศไทย"
กล่าว หาอดีตนายกฯทักษิณจ้างล็อบบี้ยิสต์ต่างชาติแพร่ข่าวสารโจมตีรัฐบาล กระบวนการยุติธรรม ไปยันสถาบัน โดยผ่านคนใกล้ชิด 3 รายคือ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และนายภูมิธรรม เวชชยชัย
โยนถ่านร้อนๆเข้าใส่
แล้วก็เป็นนายกฯอภิสิทธิ์ที่เล่นบทเข้ม ประกาศเสียงแข็ง ยอมไม่ได้ที่อดีตนายกฯทักษิณจ้างล็อบบี้ยิสต์ทำร้ายสถาบัน และประเทศชาติ
โดยอารมณ์ของคอละครน้ำเน่าพอจับทางกันได้ เบื้องหลังฉาวๆของตัวโกงทยอยโดนแฉ ความจริงที่ซ่อนอยู่เริ่มปรากฏ
"ตัวร้าย" ใกล้ตายตอนจบ
" นายใหญ่" เจอบท "ดาวพระศุกร์" ภาคประชาธิปัตย์ ยัดบทร้ายประทับตรา "ตัวโกง" ให้เนียนๆ เล่นเอาเซียนการตลาดยี่ห้อ "ทักษิณ" ที่ว่าแน่ๆ
เปิดตำราแก้เกมไม่ทันก็แล้วกัน
และ ก็เป็นอะไรที่หวังผลได้หลายช็อต กับยุทธศาสตร์ยัดบทร้ายให้ "นายใหญ่" ชี้เป้าให้สังคมเห็นกันเป็นนัยว่า อยู่เบื้องหลังเกมป่วนประเทศไทย ตีปี๊บ "ทักษิณ" จ้างล็อบบี้ยิสต์ฝรั่งโจมตีรัฐบาล กระบวนการยุติธรรม และสถาบัน
ลูบหลังแล้วตบหัว "ทักษิณ" ตีกินโบนัสปีใหม่กันสบายใจ
เกม นี้ยังได้จังหวะเบนเป้าสนใจ เบียดแย่งพื้นที่หน้าหนังสือพิมพ์จากคิวที่ฝ่ายค้านเปิดเวทีซักฟอกนอกสภา โดยเฉพาะกับคำถามร้อนๆ 9 ข้อ ของ "สารวัตรเหลิม" ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย
1. จะดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่ 2. จะให้สิทธิการชุมนุมของคนเสื้อแดง เหมือนคนเสื้อเหลืองหรือไม่ 3. ยอมรับหรือไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ร่วมมือกับพันธมิตรฯ ส่งนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ไปขึ้นเวทีม็อบพันธมิตรฯ 4. ขอให้พิสูจน์ว่า น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์ เสียชีวิตที่ไหน เพราะทราบว่าไม่ได้เสียชีวิตที่หน้ารัฐสภา แต่เป็นที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล
5. พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี หรือสารวัตรจ๊าบ เสียชีวิตในรถเชโรกี แพทย์หญิงจากโรงพยาบาลรามาได้ชันสูตรศพแล้วว่าเสียชีวิตเพราะระเบิดในรถ ตรงนี้ต้องพิสูจน์ว่า จริงหรือไม่ 6. ถ้าไม่เป็นความจริงรัฐบาลจะต้องปูนบำเหน็จให้เป็นวีรบุรุษ วีรสตรี
7. คดีบุกรุกที่ดินเขากระโดง และที่ดินสตึก อยู่ระหว่างการสอบสวน คดียังไม่เสร็จสิ้น รัฐบาลจะต้องพิสูจน์เรื่องนี้ว่าผิดหรือไม่ ถ้าไม่ผิดต้องแถลงให้สังคมรู้ แต่ถ้าผิดต้องดำเนินคดี 8. บริษัทแอร์พอร์ตลิงค์ ดำเนินการโดยบริษัทชิโนไทย ที่เป็นของ รมว.มหาดไทย เคยขอเงิน 455 ล้านบาท สมัยที่พรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล แต่ไม่อนุมัติ วันนี้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯจะให้หรือไม่
9. นายอภิสิทธิ์อย่าไปตอบโต้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เรื่องการหนีทหาร อย่าอิดออดสำออยว่าคดีขาดอายุความ ส่วนกรณีที่เข้ารับราชการแล้วได้รับพระราชทานยศร้อยโทนั้น เหตุใดนายอภิสิทธิ์จึงไม่ใช้ยศนำหน้าชื่อ การไม่ใช้หมายความว่าอย่างไร เพราะในวงการทหาร ตำรวจ การทำอย่างนี้จะถูกกล่าวหาทันทีว่าขาดความจงรักภักดีอย่างแน่นอน
ถ้าปล่อยให้ถามดังๆ ประชาธิปัตย์เคลียร์ลำบาก.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
ถึงตอนนี้ให้มันรู้กันซะว่า "ดาวพระศุกร์" ภาคของประชาธิปัตย์ ไม่ได้นุ่มนิ่ม เชื่องช้า
แสนดีเหมือนในละครน้ำเน่า
กว่า ที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร จะเยื้องย่างออกมาปฏิเสธ เพิ่งโทรศัพท์คุยกับอดีตนายกฯทักษิณเมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา ได้รับการยืนยันว่า "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ยังไม่ได้ติดต่อไป
และไม่เคยรับทราบว่าติดต่อผ่านคนใกล้ชิดด้วย
กว่า ที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย จะตั้งหลักแถลงข่าว จี้ให้ "เทพเทือก" หยุดปั่นกระแสต่อสายเจรจา "นายใหญ่" สร้างข่าวให้สังคมเห็นว่า อดีตนายกฯทักษิณอยู่เบื้องหลังม็อบเสื้อแดง
อัดรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์สร้างฉากสมานฉันท์เพื่อสร้างภาพให้ตัวเอง
เดินแต้มตามไม่ทัน
โดย เกมที่โดนเซียนยี่ห้อประชาธิปัตย์ทิ้งห่างหลายช่วงตัว เครือข่าย "นายใหญ่" หลงเข้าโปรแกรมที่นายกฯอภิสิทธิ์ เล่นบท “ดาวพระศุกร์” ออดอ้อน วิงวอนให้ "ทักษิณ" เห็นแก่บ้านเมือง
ต่อมาก็เป็นช็อตเซอร์ไพรส์ปีใหม่ นายกฯอภิสิทธิ์กับ "เทพเทือก" ช่วยกันประโคมข่าวพยายามต่อสายอดีตนายกฯทักษิณเพื่อเจรจาสงบศึก เจรจาขอให้หยุดความเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวายในประเทศ
ประชาธิปัตย์ชิงเล่นบท "ตัวดี" ยัดบท "ตัวร้าย" ให้อดีตนายกฯทักษิณ
ตีกินนิ่มๆไปแล้ว
และล่าสุดก็เป็นฉาก "ประทับความชั่วร้าย" นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งโต๊ะแถลงอย่างเป็นการเป็นงาน
แฉแผน "โลกล้อมประเทศไทย"
กล่าว หาอดีตนายกฯทักษิณจ้างล็อบบี้ยิสต์ต่างชาติแพร่ข่าวสารโจมตีรัฐบาล กระบวนการยุติธรรม ไปยันสถาบัน โดยผ่านคนใกล้ชิด 3 รายคือ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และนายภูมิธรรม เวชชยชัย
โยนถ่านร้อนๆเข้าใส่
แล้วก็เป็นนายกฯอภิสิทธิ์ที่เล่นบทเข้ม ประกาศเสียงแข็ง ยอมไม่ได้ที่อดีตนายกฯทักษิณจ้างล็อบบี้ยิสต์ทำร้ายสถาบัน และประเทศชาติ
โดยอารมณ์ของคอละครน้ำเน่าพอจับทางกันได้ เบื้องหลังฉาวๆของตัวโกงทยอยโดนแฉ ความจริงที่ซ่อนอยู่เริ่มปรากฏ
"ตัวร้าย" ใกล้ตายตอนจบ
" นายใหญ่" เจอบท "ดาวพระศุกร์" ภาคประชาธิปัตย์ ยัดบทร้ายประทับตรา "ตัวโกง" ให้เนียนๆ เล่นเอาเซียนการตลาดยี่ห้อ "ทักษิณ" ที่ว่าแน่ๆ
เปิดตำราแก้เกมไม่ทันก็แล้วกัน
และ ก็เป็นอะไรที่หวังผลได้หลายช็อต กับยุทธศาสตร์ยัดบทร้ายให้ "นายใหญ่" ชี้เป้าให้สังคมเห็นกันเป็นนัยว่า อยู่เบื้องหลังเกมป่วนประเทศไทย ตีปี๊บ "ทักษิณ" จ้างล็อบบี้ยิสต์ฝรั่งโจมตีรัฐบาล กระบวนการยุติธรรม และสถาบัน
ลูบหลังแล้วตบหัว "ทักษิณ" ตีกินโบนัสปีใหม่กันสบายใจ
เกม นี้ยังได้จังหวะเบนเป้าสนใจ เบียดแย่งพื้นที่หน้าหนังสือพิมพ์จากคิวที่ฝ่ายค้านเปิดเวทีซักฟอกนอกสภา โดยเฉพาะกับคำถามร้อนๆ 9 ข้อ ของ "สารวัตรเหลิม" ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย
1. จะดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่ 2. จะให้สิทธิการชุมนุมของคนเสื้อแดง เหมือนคนเสื้อเหลืองหรือไม่ 3. ยอมรับหรือไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ร่วมมือกับพันธมิตรฯ ส่งนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ไปขึ้นเวทีม็อบพันธมิตรฯ 4. ขอให้พิสูจน์ว่า น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์ เสียชีวิตที่ไหน เพราะทราบว่าไม่ได้เสียชีวิตที่หน้ารัฐสภา แต่เป็นที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล
5. พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี หรือสารวัตรจ๊าบ เสียชีวิตในรถเชโรกี แพทย์หญิงจากโรงพยาบาลรามาได้ชันสูตรศพแล้วว่าเสียชีวิตเพราะระเบิดในรถ ตรงนี้ต้องพิสูจน์ว่า จริงหรือไม่ 6. ถ้าไม่เป็นความจริงรัฐบาลจะต้องปูนบำเหน็จให้เป็นวีรบุรุษ วีรสตรี
7. คดีบุกรุกที่ดินเขากระโดง และที่ดินสตึก อยู่ระหว่างการสอบสวน คดียังไม่เสร็จสิ้น รัฐบาลจะต้องพิสูจน์เรื่องนี้ว่าผิดหรือไม่ ถ้าไม่ผิดต้องแถลงให้สังคมรู้ แต่ถ้าผิดต้องดำเนินคดี 8. บริษัทแอร์พอร์ตลิงค์ ดำเนินการโดยบริษัทชิโนไทย ที่เป็นของ รมว.มหาดไทย เคยขอเงิน 455 ล้านบาท สมัยที่พรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล แต่ไม่อนุมัติ วันนี้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯจะให้หรือไม่
9. นายอภิสิทธิ์อย่าไปตอบโต้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เรื่องการหนีทหาร อย่าอิดออดสำออยว่าคดีขาดอายุความ ส่วนกรณีที่เข้ารับราชการแล้วได้รับพระราชทานยศร้อยโทนั้น เหตุใดนายอภิสิทธิ์จึงไม่ใช้ยศนำหน้าชื่อ การไม่ใช้หมายความว่าอย่างไร เพราะในวงการทหาร ตำรวจ การทำอย่างนี้จะถูกกล่าวหาทันทีว่าขาดความจงรักภักดีอย่างแน่นอน
ถ้าปล่อยให้ถามดังๆ ประชาธิปัตย์เคลียร์ลำบาก.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
มิน่าเลยต้องสร้างข่าวมากลบข่าวเหม็นๆที่กระทบตัวเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น