เจอข่าวนี้น่ะค่ะ ตั้งแต่เดือนตุลาปีที่แล้ว
กฎ กกต.ห้าม ส.ส.ใส่ซองช่วยงานศพ
นาย สุเมธ อุปนิสากร กกต. ด้านการมีส่วนร่วม เปิดเผยว่า กกต. ได้ออกประกาศเรื่องจำนวน หลักเกณฑ์และวิธีการให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงิน ได้ตามปกติประเพณีของพรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองและสมาชิกซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นไปตามบทเฉพาะกาลมาตรา 133 ของ พ.ร.บ. พรรคการเมือง พ.ศ. 2550 ที่ให้มีผลบังคับใช้เมื่อครบ 1 ปี นับจาก วันที่มี พ.ร.บ. ดังกล่าวบังคับใช้ ทั้งนี้ตามมาตรา 90 ของ พ.ร.บ. พรรคการเมืองที่ห้ามมิให้บุคคลคณะบุคคลหรือนิติบุคคล ขอรับบริจาคหรือขอสนับสนุนทางการเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากพรรค ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองหรือสมาชิกซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง "ต่อไปเรื่องนี้จะเป็นคดีอาญาหาก ส.ส. คนไหนถูกเรี่ยไรก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ถือเป็นเรื่องที่กฎหมายบัญญัติ ไว้เพื่อช่วย ส.ส. ไม่ให้มีภาระทางการเงินมากจนนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชั่น" นายสุเมธกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ประกาศดังกล่าวที่นายอภิชาตลงนามมีผลบังคับใช้ตั้งแต่
วันที่ 8 ต.ค. 2551 ทั้งนี้ กกต. ได้ออกเป็นหนังสือเวียนให้กับ ผอ.กต.จว.
ทุกจังหวัดรวมถึงพรรคการเมืองทุกพรรคได้รับทราบแล้ว
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเจตนาในการเขียนกฎหมายเพราะ ส.ส. อ้างว่ามีประชาชนมักจะใช้เหตุการณ์จัดงานต่าง ๆ มาเรี่ยไรเงินเช่น งานบุญ งานกุศลหรือการจัดงานของชุมชน ซึ่งไม่ให้ก็ไม่ได้เพราะเกรงจะเสียคะแนนนิยม ทำให้เป็นภาระทางการเงินอย่างมาก ดังนั้นเมื่อประกาศกกต.ฉบับนี้ออกมามีผลบังคับใช้ต่อไปไม่ว่าจะเป็นบุคคล สถาบันหรือมูลนิธิก็จะไม่สามารถมาขอหรือเรี่ยไรเงินได้เว้นส.ส. ให้เอง ส่วนงานที่เป็นไปตามประเพณีนิยม เช่นงานบวช งานแต่ง ผ้าป่า กฐิน งานศพ ฯลฯ เงินที่ให้จะต้องมีราคาหรือมูลค่าไม่เกิน 3,000 บาท แต่หากเกินให้รวมคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเพราะเป็นการ หาเสียงล่วงหน้า
สำหรับการนับระยะเวลาในการนำมูลค่าของการให้เงินไป คำนวณเป็นรายจ่ายในการ เลือกตั้งครั้งต่อไป แบ่งเป็น 2 กรณีคือกรณีเลือกตั้งทั่วไปเนื่องจากการครบอายุของสภาให้นับหลังจากวันเลือก ตั้งครั้งหลังสุดจนถึง 90 วันก่อนวันครบอายุสภาครั้งต่อไปเช่น สภาเลือกตั้งเข้ามาวันที่ 23 ธ.ค. ก็นับไป 4 ปีที่จะครบวาระแล้วนับย้อนขึ้นมา 90 วัน แต่ในกรณีก่อนครบอายุสภา ให้นับหลังจากวันเลือกตั้งครั้งสุดท้ายจนถึงที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการ เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้กฎหมายไม่ได้กำหนดโทษแต่หากมีผู้ร้องก็อาจจะเข้าข่ายความผิดกฎหมายเลือก ตั้ง ส.ส. ส.ว. มาตรา 53 ที่ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มี สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งอาจจะต้องโดนใบเหลืองใบแดงได้เช่นกัน.
นาย สุเมธ อุปนิสากร กกต. ด้านการมีส่วนร่วม เปิดเผยว่า กกต. ได้ออกประกาศเรื่องจำนวน หลักเกณฑ์และวิธีการให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงิน ได้ตามปกติประเพณีของพรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองและสมาชิกซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นไปตามบทเฉพาะกาลมาตรา 133 ของ พ.ร.บ. พรรคการเมือง พ.ศ. 2550 ที่ให้มีผลบังคับใช้เมื่อครบ 1 ปี นับจาก วันที่มี พ.ร.บ. ดังกล่าวบังคับใช้ ทั้งนี้ตามมาตรา 90 ของ พ.ร.บ. พรรคการเมืองที่ห้ามมิให้บุคคลคณะบุคคลหรือนิติบุคคล ขอรับบริจาคหรือขอสนับสนุนทางการเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากพรรค ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองหรือสมาชิกซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง "ต่อไปเรื่องนี้จะเป็นคดีอาญาหาก ส.ส. คนไหนถูกเรี่ยไรก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ถือเป็นเรื่องที่กฎหมายบัญญัติ ไว้เพื่อช่วย ส.ส. ไม่ให้มีภาระทางการเงินมากจนนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชั่น" นายสุเมธกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ประกาศดังกล่าวที่นายอภิชาตลงนามมีผลบังคับใช้ตั้งแต่
วันที่ 8 ต.ค. 2551 ทั้งนี้ กกต. ได้ออกเป็นหนังสือเวียนให้กับ ผอ.กต.จว.
ทุกจังหวัดรวมถึงพรรคการเมืองทุกพรรคได้รับทราบแล้ว
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเจตนาในการเขียนกฎหมายเพราะ ส.ส. อ้างว่ามีประชาชนมักจะใช้เหตุการณ์จัดงานต่าง ๆ มาเรี่ยไรเงินเช่น งานบุญ งานกุศลหรือการจัดงานของชุมชน ซึ่งไม่ให้ก็ไม่ได้เพราะเกรงจะเสียคะแนนนิยม ทำให้เป็นภาระทางการเงินอย่างมาก ดังนั้นเมื่อประกาศกกต.ฉบับนี้ออกมามีผลบังคับใช้ต่อไปไม่ว่าจะเป็นบุคคล สถาบันหรือมูลนิธิก็จะไม่สามารถมาขอหรือเรี่ยไรเงินได้เว้นส.ส. ให้เอง ส่วนงานที่เป็นไปตามประเพณีนิยม เช่นงานบวช งานแต่ง ผ้าป่า กฐิน งานศพ ฯลฯ เงินที่ให้จะต้องมีราคาหรือมูลค่าไม่เกิน 3,000 บาท แต่หากเกินให้รวมคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเพราะเป็นการ หาเสียงล่วงหน้า
สำหรับการนับระยะเวลาในการนำมูลค่าของการให้เงินไป คำนวณเป็นรายจ่ายในการ เลือกตั้งครั้งต่อไป แบ่งเป็น 2 กรณีคือกรณีเลือกตั้งทั่วไปเนื่องจากการครบอายุของสภาให้นับหลังจากวันเลือก ตั้งครั้งหลังสุดจนถึง 90 วันก่อนวันครบอายุสภาครั้งต่อไปเช่น สภาเลือกตั้งเข้ามาวันที่ 23 ธ.ค. ก็นับไป 4 ปีที่จะครบวาระแล้วนับย้อนขึ้นมา 90 วัน แต่ในกรณีก่อนครบอายุสภา ให้นับหลังจากวันเลือกตั้งครั้งสุดท้ายจนถึงที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการ เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้กฎหมายไม่ได้กำหนดโทษแต่หากมีผู้ร้องก็อาจจะเข้าข่ายความผิดกฎหมายเลือก ตั้ง ส.ส. ส.ว. มาตรา 53 ที่ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มี สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งอาจจะต้องโดนใบเหลืองใบแดงได้เช่นกัน.
แล้วการเป็นเจ้าภาพเนี่ย ตีเป็นมูลค่า เท่าไหร่คะ การเป็นพรรครัฐบาลไปงานศพออกข่าวใหญ่โตขณะที่
กำลังจะมีการเลือกตั้ง ถือเป็นการหาเสียงซ่อนรูปหรือไม่ กกต. ทำงานหนักๆหน่อย ตรงๆหน่อย
อย่าดีแต่พูด จ้องจับผิดพรรคอื่น แต่หากเป็นพรรคนี้ทำเงียบ ประชาชนเขาจ้องอยู่ แล้วต้องมีคนร้องไหม
จะได้ขอแรงใครที่อยู่แถวนั้นร้องเรียนหน่อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น