วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2551

ขอโทษที ถอดปลั๊กไม่ได้..ตาแก่เขาว่าต้องช่วยกัน

ID # 723575 - โพสต์เมื่อ : 2008-09-27 09:29:33 _ ปิดข้อความ แก้ไข


ต้องช่วยกันจริงๆค่ะ ไม่งั้นเราเงียบเรายอมเราก็จะเจอไอ้คนแกบ้าๆ
มาปลุกปั่นอย่างนี้ เอ้อเฮอ มางวดนี้ ปลุกระดมมวลชน เรียกร้องให้ไป
ทำเนียบเอาเลยทีเดียว

วันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11158 มติชนรายวัน




การเมืองเก่าเน่าหนอนชอนไช การเมืองใหม่อารยะประชาธิปไตย
[/color]

โดย ประเวศ วะสี




การ เมืองเก่าเน่าหนอนชอนไชเป็นที่เอือมระอาน่ารังเกียจเบื่อหน่ายแก่ผู้รู้เห็น
ทั้งแผ่นดิน จึงพากันพูดถึงการเมืองใหม่ คนไทยทุกภาคส่วนทุกองค์กร
ควรเคลื่อนไหวทำความเข้าใจว่าการเมืองใหม่ที่เป็นอารยะประชาธิปไตย
นั้นเป็น อย่างไร

ในการมองระบบการเมืองเก่าและใหม่ควรมองทั้งระบบ เหมือนมองคน
ทั้งคนจะไปมองเฉพาะอวัยวะอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นไม่ได้
การมองทั้งระบบต้องมองทั้งที่เป็นนามธรรม (จิต) รูปธรรม รูปลักษณ์
การทำหน้าที่และผลลัพธ์

ก.เปรียบเทียบการเมืองเก่ากับการเมืองใหม่

(1) จิตสำนึกประชาธิปไตย ประชาธิปไตยต้องมีรากลึกอยู่ในจิตสำนึกที่ดีงาม
จะมีแต่กลไกไม่ได้ คนเราต้องมีจิตสำนึกแห่งศักดิ์ศรีและคุณค่าแห่งความเป็นคน
เคารพความถูกต้องดีงาม มีคุณธรรมจริยธรรม ไม่ใช่มี*****นจิตหรือจิตคับแคบ
ต่ำทราม มีอกุศลมูลที่เป็นที่ตั้งอันเป็นบ่อเกิดของการเมืองเก่าเน่าหนอนชอนไช

(2) ลักษณะสังคมประชาธิปไตย เป็นสังคมเปิด เป็นสังคมธรรมนิยม
ใช้ความรู้ ใช้เหตุผล ทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่สังคมปิดและสังคมอำนาจนิยม
ซึ่งเป็นเผด็จการไม่ใช่ประชาธิปไตย

(3) ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองสูง ระบอบเผด็จการจะปิดบทบา
ททางการเมืองของประชาชน ให้มีแต่การเลือกตั้งจอมปลอมในระบอบประชาธิปไตย
ประชาชนต้องมีจิตสำนึกทางการเมืองสูง และมีส่วนร่วม
ทางการเมืองในการกำหนดนโยบายทิศทางการพัฒนา และตรวจสอบ
อำนาจรัฐทุกระดับ การเมืองภาคประชาชนต้องเป็นวิสัยของระบอบ
ประชาธิปไตย



(4) องค์กรทางการเมือง ในการเมืองเก่าที่เน่าหนอนชอนไช องค์กร
ทางการเมืองเป็นองค์กรอัปลักษณ์ ประกอบด้วยเสือสิงห์กระทิงแรดอันธพาล
คนขี้คุกขี้ตะราง ขาดความรู้ขาดความสุจริตและการอุทิศเพื่อบ้านเมือง
เพราะถูกบงการโดยคนคนเดียวหรือกลุ่มเล็กๆ เป็นคณาธิปไตย หาใช่
ประชาธิปไตยไม่ ในระบอบอารยะประชาธิปไตย องค์กรทางการเมือง
ต้องเป็นองค์กรศุภลักษณ์ไม่ใช่องค์กรอัปลักษณ์

(5) หน้าที่ขององค์กรทางการเมือง ในการเมืองเก่าเป็นองค์กรแสวงประโยชน์
ในการเมืองใหม่เป็นองค์กรทำประโยชน์

(6) ลักษณะการทำงานขององค์กรทางการเมือง
ในการเมืองเก่าจะขัดขวาง
การมีส่วนร่วมของประชาชน แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ไม่โปร่งใส
ปิดบังการตรวจสอบ พัฒนาผิดๆหรือมิจฉาพัฒนา ในการเมืองใหม่จะ
ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ส่งเสริมความเข้มแข็งของกระบวน
การยุติธรรม มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ ทำการพัฒนาที่ถูกต้องหรือ
สัมมาพัฒนา


โอ้แม่เจ้า มันหลงไปแล้วจริงๆด้วย ไหนใครที่ไหน
ไปตรวจสอบใครได้ ไอ้พวกที่คัดกันมาน่ะ ไม่เห็นมันตรวจสอบได้สักคน
พอรุกหนักๆก็หายหัวไปนั่นไง

(7) ผลลัพธ์ของการเมืองเก่ากับใหม่ เนื่องจากการเมืองเก่านำไปสู่มิจฉาพัฒนา
[b]จึงแก้ความยากจนของประชาชนไม่ได้ ขาดความเป็นธรรม
นำไปสู่ความขัดแย้งและความรุนแรง ส่วนการเมืองใหม่อารยะประชาธิปไตยนำไปสู่สัมมาพัฒนา
ทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขแก้ความยากจนได้ สร้างความเป็นธรรม
จึงนำไปสู่สมานฉันท์และสันติภาพ

ตายๆ มันพูดได้ไงวะเนี่ย ไอ้การไปกระทำการ
อุบาทว์ชาติชั่ว ทั้งในและนอกทำเนียบเนี่ยนะ ยังเห็นว่าเป็นการ
นำไปสู่ ความเป็นธรรม ที่จะนำไปสู่สมานฉันท์และสันติภาพ

ที่กล่าวข้างต้นเป็นตัวอย่างของการ มองการเมืองใหม่ทั้งระบบ
โดยยังไม่ได้ลงไปสู่กลไกขององค์กรทางการเมือง ควรจะระดม
ความคิดกันอย่างกว้างขวางว่าการเมืองใหม่อารยะประชาธิปไตย
นั้นคือ อย่างไร ควรเริ่มด้วยจินตนาการใหญ่ ซึ่งจะให้พลังมาก
อย่าลงไปสู่กลไกเร็วเกินไปซึ่งจะทำให้แคบ

ข.คนไทยทุกภาคส่วนร่วมสร้างการเมืองใหม่อารยะประชาธิปไตย

คน ไทยเป็นคนดี แต่ระบบการเมืองเก่าที่เน่าหนอนชอนไช
ทำให้บ้านเมืองเศร้าหมองหมดสง่าราศี เต็มไปด้วยความชั่วร้าย
และวิกฤตมากขึ้นๆ ทุกๆ ทาง ถึงเวลาที่คนไทยทั้งมวลจะต้อง
ลุกขึ้นจับมือกันสร้างความความเป็นอารยะ ประชาธิปไตย

นี่แสดงว่ามันไม่เคยแหกตาดูเลนสิท่าว่าอะไร
หรือใครที่นำไปสู่ความแตกแยก นำไปสู่ความเสื่อม หมดสง่าราศรี
ไปทั้งประเทศ ตราบใดที่แกยังไม่กล้าที่จะคิดให้ตรง มองไม่ถูก
แกอย่าได้สะเออะมาเสนอความคิดอะไรเลย ขอร้อง ฉันอายแทนญาติๆ
ของแกจังเลย ทำไมไม่เตือนหรือห้ามกันบ้างน้อ ออกมาทีไรโดนเขาด่ากันยับ
ไม่เข็ดสักที นึกว่าคนชอบหรือไง เฮ้อ

คนไทยทุกภาคส่วน ทุกองค์กร ต้องเคลื่อนไหวคุยกันว่าอารยะประชาธิปไตย
นั้นคืออย่างไร ควรมีการสื่อสารทุกรูปแบบให้มีความตื่นตัวทางการเมือง
การเมืองไม่ใช่เรื่องของคนกลุ่มน้อยอีกต่อไป การเมืองต้องเป็นเรื่องของ
คนไทยทุกคน เมื่อประชาชนมีจิตสำนึกทางการเมืองสูง เคลื่อนไหวรวมตัว
อ้าว มาชวนไปรวมตัวกับพวกกบฎในทำเนียบหรือเปล่าเนี่ย
สถาปนาอารยะประชาธิปไตย ขบวนการมหาประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
จะเป็นกรอบหรือระบอบประชาธิปไตยที่ทำให้ รัฐธรรมนูญและองค์กร
ทางการเมืองเป็นประชาธิปไตย

ประชาธิปไตยไม่ได้ เกิดจากนักการเมือง ประชาธิปไตยเกิดจากประชาชน
ประชาธิปไตยต้องมาก่อนรัฐธรรมนูญ นักการเมืองเป็นผู้ปฏิบัติตามกรอบ
ที่ประชาชนวางไว้และกำกับให้มีความถูกต้อง ควรระดมความคิดว่าองค์กร
ทางการเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยได้มาอย่างไร จึงจะเป็นองค์กร
ศุภลักษณ์ การเมืองภาคประชาชนเป็นปัจจัยชี้ขาดให้การเมืองมีคุณภาพ

ศิลปินทั่ว ประเทศควรเข้ามารณรงค์สร้างจินตนาการและจิตสำนึกประชาธิปไตย
มหาวิทยาลัยทั้งหมด นิสิตนักศึกษาทั้งหมด ผู้ใช้แรงงาน องค์กรภาคธุรกิจ
สื่อมวลชนทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรทางการแพทย์และสาธารณสุข
แม่บ้าน และคนไทยอื่นใดที่ต้องการเป็นความผาสุกในบ้านเมือง ต้องร่วม
รณรงค์อารยะประชาธิปไตย

ชัดเลย ปลุกระดมมวลชน น่าจะไปฟ้องร้องเอาผิด
ให้ไปตายในคุกจริงๆ

การเคลื่อนไหวเพื่ออารยะประชาธิปไตย ควรมีความหลากหลาย หลายรูปแบบ
หลายระดับ หลายผู้นำ แต่เมื่อเคลื่อนไหวไปๆ อะไรที่เป็นสัจจะและความถูกต้อง
ก็จะเข้ามาเชื่อมกันเอง อะไรที่ไม่ใช่ของจริงของแท้ก็จะตกหล่นไปตามทาง
อะไรที่เป็นกระบวนการสาธารณะจะทำให้เห็นแก่ตัวได้ยาก

พลังแห่งการ รวมตัวของมหาชนจะยุติความชั่วร้ายทั้งปวง เมื่อประชาชน
สถาปนาระบอบประชาธิปไตย และอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนอย่าง
แท้จริง รัฐธรรมนูญและองค์กรทางการเมืองทั้งหลายก็จะเป็นระบบภายใต้
ระบอบประชาธิปไตย ของมวลชน เกิดศีลธรรมทางการเมือง

เมื่อการเมืองเป็นอารยะประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ศีลธรรม ความเจริญ
ความเข้มแข็ง ความผาสุกก็จักเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา

คน ไทยทั้งมวลจึงต้องรณรงค์สร้างอารยะประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง
เป็นกระบวนการที่ใจกว้าง รวมคนทั้งหมดเข้ามาด้วยกัน ไม่แยกข้างแยกขั้ว
ไม่มีการโค่นล้มอะไร เพราะเป็นการสร้างเหมือนการสร้างบ้านที่สวยงามน่าอยู่
ที่ทุกคนร่วมกันสร้าง

ระบอบอารยะประชาธิปไตยคือบ้านของเรา ที่เราจะอยู่ร่วมกันด้วยความผาสุก

ไม่มีความคิดเห็น: