แม่ค้าทำเนียบฯครวญขาดรายได้
ขณะ เดียวกัน นางเกสร รอดเพชรไทย อายุ 51 ปี แม่ค้าขายขนมหวาน ซึ่งเคยเป็นแม่ค้าขายข้าวแกงอยู่ในทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า จากการที่กลุ่มพันธมิตรฯเข้ามายึดในทำเนียบฯ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปขายของได้ เงินทุนที่สะสมมาจึงหมดลง ต้องดิ้นรนทำขนมหวานใส่ รถเข็นออกมาขายรอบทำเนียบฯ หารายได้จุนเจือครอบครัว ยอมรับว่าตอนนี้ขัดสนมาก เมื่อขายของในทำเนียบฯไม่ได้ทำให้ขาดรายได้หลักของครอบครัวไป ส่วนการออก มาเร่ขายขนมหวาน รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ถ้าเป็นไปได้อยากจะกลับไปขายของในที่เดิม ทราบมาว่าพ่อค้าแม่ค้าในทำเนียบฯกว่า 50 คน ก็ประสบปัญหา กลายเป็นคนว่างงานและไม่มีรายได้จุนเจือครอบครัวเช่นเดียวกัน
ขณะ เดียวกัน นางเกสร รอดเพชรไทย อายุ 51 ปี แม่ค้าขายขนมหวาน ซึ่งเคยเป็นแม่ค้าขายข้าวแกงอยู่ในทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า จากการที่กลุ่มพันธมิตรฯเข้ามายึดในทำเนียบฯ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปขายของได้ เงินทุนที่สะสมมาจึงหมดลง ต้องดิ้นรนทำขนมหวานใส่ รถเข็นออกมาขายรอบทำเนียบฯ หารายได้จุนเจือครอบครัว ยอมรับว่าตอนนี้ขัดสนมาก เมื่อขายของในทำเนียบฯไม่ได้ทำให้ขาดรายได้หลักของครอบครัวไป ส่วนการออก มาเร่ขายขนมหวาน รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ถ้าเป็นไปได้อยากจะกลับไปขายของในที่เดิม ทราบมาว่าพ่อค้าแม่ค้าในทำเนียบฯกว่า 50 คน ก็ประสบปัญหา กลายเป็นคนว่างงานและไม่มีรายได้จุนเจือครอบครัวเช่นเดียวกัน
เป็นการกระจายความทุกข์ยากอย่างเท่าเทียมกันจริงๆ
ไอซีจีฟัด พธม.ทำลายประชาธิปไตย
ด้าน อินเตอร์เนชั่นแนล ไครซิส กรุ๊ป (ไอซีจี) องค์กร ระหว่างประเทศที่เฝ้าระวังปัญหาความขัดแย้งและเหตุการณ์ ไม่สงบทั่วโลก เปิดเผยผลการศึกษาสถานการณ์ทางการเมืองไทยเมื่อวันที่ 23 ก.ย. หลังเฝ้าสังเกตการณ์การชุมนุม ประท้วงรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรฯนับจากเดือน พ.ค.เป็น ต้นมา โดยไอซีจีระบุว่า ประชาชนไทยกำลังเผชิญหน้ากับการแบ่งขั้วทางการเมืองที่ไม่อาจประสานรอยร้าว ได้ อย่างง่ายดาย และความตึงเครียดในสังคมไทยอาจนำไปสู่การรัฐประหารครั้งใหม่ เพราะรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยังเป็นรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรมในความ เห็นของกลุ่มพันธมิตรฯ
น. ส.รุ่งระวี เฉลิมศรีภิญโญรัตน์ เจ้าหน้าที่ไอซีจี ประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพีว่า การ ล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นการทำลายล้างระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าผู้ต้องการล้มล้างรัฐบาลจะเป็น ทหารหรือว่าประชาชน ถือเป็นการฉุดให้ระบอบประชา-ธิปไตยย้อนหลังกลับไปด้วยกันทั้งคู่ นอกจากนี้ ผลการศึกษาของไอซีจียังระบุด้วยว่า ธุรกิจท่องเที่ยวและตลาด หลักทรัพย์ของไทยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมือง
ด้าน อินเตอร์เนชั่นแนล ไครซิส กรุ๊ป (ไอซีจี) องค์กร ระหว่างประเทศที่เฝ้าระวังปัญหาความขัดแย้งและเหตุการณ์ ไม่สงบทั่วโลก เปิดเผยผลการศึกษาสถานการณ์ทางการเมืองไทยเมื่อวันที่ 23 ก.ย. หลังเฝ้าสังเกตการณ์การชุมนุม ประท้วงรัฐบาลของกลุ่มพันธมิตรฯนับจากเดือน พ.ค.เป็น ต้นมา โดยไอซีจีระบุว่า ประชาชนไทยกำลังเผชิญหน้ากับการแบ่งขั้วทางการเมืองที่ไม่อาจประสานรอยร้าว ได้ อย่างง่ายดาย และความตึงเครียดในสังคมไทยอาจนำไปสู่การรัฐประหารครั้งใหม่ เพราะรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยังเป็นรัฐบาลที่ไม่มีความชอบธรรมในความ เห็นของกลุ่มพันธมิตรฯ
น. ส.รุ่งระวี เฉลิมศรีภิญโญรัตน์ เจ้าหน้าที่ไอซีจี ประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพีว่า การ ล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นการทำลายล้างระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าผู้ต้องการล้มล้างรัฐบาลจะเป็น ทหารหรือว่าประชาชน ถือเป็นการฉุดให้ระบอบประชา-ธิปไตยย้อนหลังกลับไปด้วยกันทั้งคู่ นอกจากนี้ ผลการศึกษาของไอซีจียังระบุด้วยว่า ธุรกิจท่องเที่ยวและตลาด หลักทรัพย์ของไทยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมือง
ก็นี่แหละวิธีรักชาติ...ทำงานถวายในหลวงของพวกมัน
กลัวว่าถ้าชาติก้าวหน้า เงินทองไหลมา เศรษฐกิจแบบพอเพียงจะไม่มีคน
สนใจ
ม็อบแอบใช้แอร์ตึกบัญชาการ
ผู้ สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงหัวค่ำ บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีผู้ชุมนุมมาฟังการปราศรัยอย่างบางตา การปราศรัยบนเวทีส่วนใหญ่เป็นการโจมตีโผ ครม.ชุดใหม่ที่มีชื่อนางอุไรวรรณ เทียนทอง ร่วมเป็นรัฐมนตรี ทั้งที่ยังติดคดีหวยบนดินอยู่ ขณะที่บริเวณด้านหน้าตึกสันติไมตรี กลุ่มผู้ชุมนุมได้ต่อไฟฟ้าจากแผงหม้อแปลงขนาดใหญ่ เดินสายไฟพาดผ่านต้นปาล์มที่ปลูกไว้บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อนำมาใช้ในพื้นที่ต่างๆบริเวณรอบการชุมนุม นอกจากนี้ ยังพบว่าในช่วงหัวค่ำมีการเปิดใช้เครื่องปรับอากาศและไฟฟ้าตามชั้นต่างๆภาย ในบริเวณตึกบัญชาการด้วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯระบุว่าไม่อนุญาตให้กลุ่มผู้ชุมนุม เข้าไปภายในอาคารต่างๆ
ผู้ สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงหัวค่ำ บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีผู้ชุมนุมมาฟังการปราศรัยอย่างบางตา การปราศรัยบนเวทีส่วนใหญ่เป็นการโจมตีโผ ครม.ชุดใหม่ที่มีชื่อนางอุไรวรรณ เทียนทอง ร่วมเป็นรัฐมนตรี ทั้งที่ยังติดคดีหวยบนดินอยู่ ขณะที่บริเวณด้านหน้าตึกสันติไมตรี กลุ่มผู้ชุมนุมได้ต่อไฟฟ้าจากแผงหม้อแปลงขนาดใหญ่ เดินสายไฟพาดผ่านต้นปาล์มที่ปลูกไว้บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อนำมาใช้ในพื้นที่ต่างๆบริเวณรอบการชุมนุม นอกจากนี้ ยังพบว่าในช่วงหัวค่ำมีการเปิดใช้เครื่องปรับอากาศและไฟฟ้าตามชั้นต่างๆภาย ในบริเวณตึกบัญชาการด้วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯระบุว่าไม่อนุญาตให้กลุ่มผู้ชุมนุม เข้าไปภายในอาคารต่างๆ
ใครจะรับผิดชอบ รัฐบาลอย่าหน่อมแน้มหน่อยเลย เห็นว่ารวยนัก
ก็ให้มันปั่นน้ำไฟใช้เองสิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น