วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ขอนำเสนอบทความน่าสนใจ

ลองอ่านกันดูนะคะ จากนสพ.โลกวันนี้ ประจำวันที่22กค.2553 คอลัมน์"นิ้วกลมระดมความคิด"
เขียนโดย ชมเพลิน อยู่เพลิน

การขุดแฉและจับโจรสลัดครองเมืองย่อมไม่ใช่การยุยงสร้างให้แตกแยก



ได้ข่าวว่าพรรค เพื่อไทยจะเดินสายในจังหวัดที่ไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยมุ่งเป้าหมายในการแฉกลโกงต่างๆของรัฐบาล...พลันที่ได้ยินข่าวนี้คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ออกโรงมาเตือนว่าให้ระวังกิจกรรมที่จะกระทำควบคู่ระหว่างการจัดคอนเสิร์ต กับการปราศรัยตามโครงการ...โดยสำทับว่า “...ขอให้ทุกอย่างอยู่ในกรอบของกฎหมาย ถ้าไปยุยงให้คนเกลียดชังจนเกิดความแตกแยกก็ถือว่าผิด”

นี่เป็นเรื่องน่าพิจารณาเหมือนกันสำหรับการปราศรัยและจัดนิทรรศการ เคลื่อนที่เพื่อแสดงข้อมูลการทุจริตในโครงการต่างๆของรัฐบาล ตลอดจนรายละเอียดของการบังคับใช้กฎหมายสองมาตรฐาน ซึ่งเข้าใจว่าเป็นการจัดเวทีที่ไม่เกี่ยวกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ “คนเสื้อแดง”...กิจกรรมเหล่านี้มันจะเข้าข่ายสร้างความแตกแยกและยุให้เกลียด ชังตามที่คุณสุเทพได้กล่าวถึงหรือเปล่า?...และก็ไม่รู้ว่าเมื่อกิจกรรม ดำเนินไปทางฝ่ายรัฐบาลหรือ ศอฉ. จะคิดอ่านจัดการอย่างไรหรือไม่? เพราะปัญหาทุจริตคอร์รัปชันมันย่อมเป็นเรื่องใหญ่ของทุกฝ่ายที่ต้องช่วยกัน จัดการ?

รัฐบาลเองคงต้องใจกว้างและหนักแน่นพอ ยกเว้นเสียแต่ว่าทำตัวเองให้เป็นวัวสันหลังหวะ...มีบางคนวิพากษ์วิจารณ์ กลุ่มคนในชาวคณะที่ประกอบกันเป็นรัฐบาล ซึ่งตรงนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องถูกกล่าวหาเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสให้ กลายเป็น “พวกสันดานโจรสลัดเสียจนหมดทุกคน” แต่เมื่อเราย้อนไปมองในหลายๆโครงการที่มีพิรุธและเบื้องหลัง คงปฏิเสธไม่ได้สำหรับรัฐมนตรีหรือคนแวดล้อมในหลายกระทรวงที่กำลังใช้ พฤติกรรมของตัวเองในการแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งไม่ได้แตกต่างอะไรกับกองเรือของพวกโจรสลัดตระเวนปล้น?

เรื่องของโจรสลัดนั้นมีอยู่มากมาย เป็นมาตั้งนานแล้ว คาดหมายถึงตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ ถัดจากสมัยของโจรสลัดอียิปต์ก็ถึงยุคโด่งดังสำหรับพวกโจรสลัดไวกิ้ง โดยเป็นกลุ่มคนจากแถบประเทศเดนมาร์ก, นอร์เวย์ และสวีเดน ช่วงนั้นอยู่ระหว่างศตวรรษที่ 8-11 พวกไวกิ้งสามารถครองน่านน้ำยุโรป ปล้นออกไปกว้างขวางจากทะเลบอลติกจนถึงช่องแคบยิบรอลต้า...แต่โจรสลัดที่มี ชื่อเสียงมากเห็นจะเป็นกลุ่มในศตวรรษที่ 16 เป็นกลุ่มโจรสลัดอิสระในแถบทะเลอีเจียนและเมดิเตอร์เรเนียน...โจรสลัด อิสระเหล่านี้เป็นประเภทโจรรับสัมปทาน โดยทำความตกลงกับรัฐบาลหรือประเทศซึ่งตัวเองสังกัดอยู่ จะต้องแบ่งทรัพย์สินจากการปล้นให้เพื่อแลกเปลี่ยนกับความคุ้มครอง ไม่โดนรบกวนจากเจ้าหน้าที่รัฐ...โจรอาชีพจริงๆเป็นอย่างนี้?

พวกโจรที่มีปลอกคอน่ากลัวมากกว่าโจรไร้สังกัด เหมือนกับ “สองพี่น้องบาร์บารอสซ่า” ซึ่งพวกเขาเป็นประเภทโจรสลัดที่มีข้อตกลงกับ “สุลต่านตูนีเซีย” คือโจรจ่ายค่าต๋งในการปล้นเป็นจำนวน 1 ใน 5 ให้กับองค์สุลต่าน เป็นข้อคิดของความสัมพันธ์ในระหว่างโจรและเจ้า ซึ่งเกิดขึ้นในราว พ.ศ. 2053...แต่ในราว พ.ศ. 2215 ก็มีอีกกลุ่มโจรสลัดที่เจ็บไม่น้อยกว่ากัน ได้เกิด “จอมโจรแห่งแคริบเบียน” ขึ้นมาแทนตำแหน่ง โจรสลัดกลุ่มนี้มีชื่อเสียงโด่งดังแถบน่านน้ำสเปน พวกนี้มีมากมายหลายก๊วนที่ออกอาละวาดปล้นสะดมผู้อื่นเป็นประจำ ต่างล้วนเป็นโจรได้รับอนุญาต ถือเป็นโจรสลัดของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ คือเส้นแข็งกันขนาดนี้จึงสามารถคงอยู่และปล้นได้อย่างลอยนวล มีจำนวนมากที่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็น “เซอร์” เช่น เซอร์จอห์น ฮอว์คินส์, เซอร์เฮนรี่ มอร์แกน และกัปตันวิลเลี่ยม คิดด์ เป็นต้น

ทางด้านเอเชียของเราก็มี "กองทัพโจรสลัดของเจิ้งอี้" เขามีกองทัพเรือถึง 400 กว่าลำ ใช้พลพรรคสมุนโจรร่วม 70,000 คน สร้างอาณาจักรกว้างใหญ่ไพศาลไปทั่วทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ใน พ.ศ. 2350...สืบต่อมาถึงรุ่นทายาท “จางเป่า” ก็เป็นโจรสลัดเชื้อไม่ทิ้งแถวเหมือนพ่อของเขา ใช้ชีวิตเยี่ยงโจรจนเบื่อ ต่อจากนั้นในภายหลังหันไปเป็นข้าราชสำนักให้แก่ฮ่องเต้จีน ซึ่งเรื่องราวของจางเป่าได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อยู่หลายเรื่องเหมือน กัน?

โจรสลัดในยุคปัจจุบันยังมีอยู่ เคยโด่งดังในแถบชายฝั่งทะเลอเมริกาใต้ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่ตอนหลังเหตุการณ์ซาลง มาโด่งดังเอาในมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ระหว่างช่องแคบมะละกากับประเทศสิงคโปร์ นอกจากนั้นก็ยังมีย่านบังกลาเทศ บราซิล ไนจีเรีย โซมาเลีย...กระทั่งฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทยก็มีโจรสลัดปล้นอยู่เหมือน กัน?

โจรสลัดไทยในฝั่งอันดามันมันไม่น่ากลัวนัก ไอ้ที่น่ากลัวคงเป็นโจรสลัดที่ใส่เสื้อสูทอยู่ในหลายกระทรวง เพราะพวกนี้มันเป็นโจรที่ส่งส่วยและได้รับความคุ้มครองเหมือนโจรสลัดในสมัย สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ...ดังนั้น การเดินสายแฉทุจริตจึงไม่ใช่การทำให้แตกแยกหรือยุให้เกลียดชัง ทั้งยังเป็นการช่วยจับโจรสลัดเสียด้วย เพราะบ้านเมืองมันชุกชุมด้วยโจรเหลือเกิน เป็นโจรสลัดในระบบอุปถัมภ์อำมาตย์ที่ปล้นเพื่อส่งส่วย?

อ่านแล้ว คิดแล้วเห็น เห็นแล้วจึงร้องอ๋อ

ไม่มีความคิดเห็น: