วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

คืนรอยยิ้ม

จัดรายการต่างๆมามากมาย เชิญชวนให้ยิ้มให้กันหลังการฆ่า
แล้วชวนต่อให้กอดกัน(แอบเอามีดปักหลังกันหรือเปล่าไม่ทราบ)
จนแทบจะเชิญชวนให้อึ๊บกันอยู่รอมร่อชาวบ้านก็ยังยิ้มไม่ออกสักที
มิหนำซ้ำยังพยายามไปรื้อฟื้น ไปชูป้ายไปส่งเสียงว่า"ที่นี่มีคนตาย"
ใส่ชุดแดงไปผูกผ้าแดงอีก

รัฐบวมนำโดยคนปัญญาอ่อนนึกไม่ออกสักทีว่าจะทำอย่างไรดี ในที่สุด
ไม่รู้ว่าใคร ช่วยคิดไอเดียให้ โดยจัดตำรวจตั้ง2-300นายไปยืนล้อมป้าย
เอาไว้ ห้ามเข้าไปผูกผ้าแดงเด็ดขาด จับคนส่งเสียงดังไปปรับก็แล้ว
ยังไม่สำเร็จ ตกดึกก็ยังเข้าไปผูกให้ปรากฎภาพในตอนเช้าอีก

อย่ากระนั้นเลย ขั้นต่อไป เรายกหีบหนี เอ๊ยยกป้ายหนีดีกว่า แค่นั้น
ยังไม่พอ ยังส่งจ่าแก่ๆอ้วนๆที่วิ่งตามผู้ร้ายไม่ไหวแล้ว มายืนเฝ้าเสาไว้
เพราะคาดว่าอย่างไรเสีย เสาคงไม่วิ่งหนีไปไหน ไม่ต้องเปลืองแรงวิ่งไล่

ภาพข่าวที่ปรากฎไปทั่วโลก ไม่น่าเชื่อ เกิดผลสัมฤทธิ์ เชิงสัญญลักษณ์
อย่างไม่เคยเกิดมาก่อน อุตส่าห์เชิญชวนให้ยิ้มมาร่วมสองเดือน ก็มีคราวนี้แหละ
ที่ไม่ว่าใครเห็นภาพข่าวเข้า เป็นต้องอมยิ้ม (เอาน่า จะยิ้มแบบสมเพชก็เถอะ)
ก็ต้องถือว่าทำให้คนยิ้มได้จริงๆแหละ เสียแต่เป็นยิ้มที่ดูถูกดูแคลนการแก้ปัญหา
ของไอ้พวกบ้าและโง่นี่จริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น: