ไปร่วมชุมนุมกับเขามาด้วย พลาดได้ไงคะ
แต่กว่าจะไปก็บ่ายคล้อยใกล้เย็นแล้ว ก็แหม
อายุมาก ผิวก็บาง หน้าไม่ทน กลัวแดด
เื่พื่อนสามีมารับออกจากบ้านประมาณ3โมงกว่าๆ
ทำไมต้องให้เขามารับ (งงกันใช่ไหมล่ะ เดี๋ยวเฉลย)
ครั้งแรกว่าจะไปโดยแท้กซี่ ไปๆมามีรถมารับถึงบ้าน
ดีเหมือนกัน แต่ต้องเสียเวลาเอารถไปจอดถึงบ้านเขา
แหะๆ ไม่ใกล้ไม่ไกล โน่นเอกมัยโน่น มาค่ะ เดี๋ยวเล่าให้ฟังว่าทำไม
เหตุก็เป็นเพราะ เพื่อนคนนี้(เพื่อนเจ้าบ่าวเลยนะคะ รู้จักกันมานาน
แต่สงสัยกันล่ะซี้ว่าทำไมไม่ไปกับสามี ก็สามีไม่อยู่ค่ะ ไปเดิน
ตามหาลูกกอล์ฟอยู่โน่นพัทยา)
ออกจากบ้านไปกับเพื่อนสามีและลูกชายอีก2คน ไปถึงบ้านเขา
พบว่าสามีมาถึงเรียบร้อยแล้ว จอดรถกันเอาไว้ที่บ้านเขา นั่งแท็กซี่
ไปกันห้าคน เบียดกันดีพิลึก แต่แหมน่ะนะ ไปคนละคันเดี๋ยวก็หลงกันพอดี
ขึ้นทางด่วนกะว่าจะไปลงยมราชแล้วไปทางเก่าที่เคยไปวันก่อน
คือที่ผ่านสะพานผ่านฟ้า แต่แท็กซี่รู้ดี บอกว่าทางนั้นเข้าไม่ได้
วันนี้พาไปสองรายแล้ว แหมไอ้เราก็เชื่อใจคิดว่าคงรู้ทางดี
พอลงยมราช โน่นเลยพาตรงไปเลยไม่เบี่ยงซ้าย โน่นไปปล่อย
ข้างทำเนียบ โอ้โห เดินกันเมื่อยเลย
พบว่าทำเนียบถูกยึดไว้เรียบร้อยแล้ว รั้วลวดหนามพันทธนาการไว้แน่นหนา
ยังมีทหารยืนเฝ้า กันทำเนียบหนีไปชุมนุมอีก ดูไปดูมา เหมือนทหารเองนั่น
แหละที่ถูกขังไว้
อ้อลืมเล่าว่าทำไมต้องไปจอดรถไกลถึงเอกมัย ก็เพื่อนคนนี้เขา
เพิ่งไปร่วมชุมนุมเป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่ดีนัก ก็โหโต
แล้วนี่นา ไยต้องประคบประหงมไปด้วยกันขนาดนั้น ไปถึงได้รู้ว่า
ที่บ้านผู้ปกครองเขา(ทั้งเมียและแม่ยาย ไม่อยากให้ไป เดี๋ยวตั้งอีกกระทู้
จะเล่าให้ฟังว่าทำไม) ต้องเอาป้าไปยืนยันว่าการชุมนุมไม่มีอะไร
ไม่น่ากลัว ไปไม่นานเดี๋ยวก็กลับ จริงๆ หากล่ามไว้ได้ เขาก็คงทำแล้ว
แต่นี่เกรงใจเพื่อนสามี เลยทำไม่ได้ ในที่สุดก็ออกมาจนได้
กลับมาเล่าต่อ ลงที่ข้างทำเนียบ ก็เดินไปเรื่อย คนไม่หนาแน่นนัก
ไม่ได้ยินเสียงจากเวที พี่น้องเราที่อยู่แถวนั้น ส่วนใหญ่มาจากทางภาคเหนือ
เพราะเหนทะเบียนรถเช่น น่าน เห็นป้ายประเภท หางดง เชียงใหม่
เห็นกำลังตำส้มตำกันสนุกสนาน
แถบลานพระรูปก็คนไม่มากนะคะ มีแต่รถจอดกันอยู่เกือบเต็มพื้นที่
เพื่อนที่มาก่อนหน้านี้ โทร.ว่าเขาได้ชัยภูมิดีที่ไม่ร้อน ฟังเสียงจากเวทีชัดเจน
เสียแต่ไม่เห็นหน้าเท่านั้นเอง เขาว่าเขาอยู่หน้าเวทีเลย(ในร้านกาแฟ
ที่อยู่เชิงสะพานผ่านฟ้า) คิดดูสิคะ เดินมาจากทำเนียบ ไกลไหมล่ะคะ
(ก็แหม เคยเดินทางไกลขนาดนี้เสียที่ไหนล่ะ โชคดีใส่ผ้าใบไป นานๆใส่ที
เพราะมันไม่เอื้ออำนวยต่อความสูง ดีใจที่ไม่ได้ใส่รองเท้าซ่นสูงมา
ไม่งั้นคงหันหลังกลับเสียแล้ว)
ยิ่งเดินมาใกล้เวที พอได้ยินเสียง คนยิ่งแน่นขึ้น (แกนนำน่าแก้ไขนะคะ
เพราะถ้าเสียงไปถึง เขาก็จะได้ไม่ต้องไปแออัดยัดเยียดกันหน้าเวที)
เพื่อนเขาอยู่ในทำเลที่ดีจริงๆค่ะ เดี๋ยวจะบอกให้ว่าอยู่ตรงไหน
ขอยืมรูปมาจากคุณRED MEMBER
เห็นตึกสีครีมๆสี่ชั้นด้านขวามือของรูปไหมคะ ตรงนั้นแหละค่ะ
มีร้านกาแฟ ไม่เห็นป้ายชื่อ อยู่ตรงหัวมุม แต่สงสัยเจ้าของร้าน
จะไม่ใช่พวกเรา แม้จะใส่เสื้อแดง แต่อาการยึกๆยักๆมันพิกล
เดี๋ยวเปิดให้ออกไปนั่งข้างนอก(กลางแจ้ง ในบริเวณร้าน)
เดี่ยวก็ปิด ร้านก็เปิดบ้างปิดบ้าง บ้าที่สุด คนไทยขี้เกรงใจ ใคร
จะเข้าไปนั่งในร้านเฉยๆ เขาก็สั่งกาแฟ ซื้อเค้กกินกันจนเห็นหมดตู้
ทางที่ดี ทำข้าวไข่เจียวขายจานละ25บาทก็ได้ ก็จะขายดิบขายดีไปเสียอีก
นี่อะไร อารมณ์เสียใส่ลูกค้าอยู่เรีือย ห้องน้ำก็ล้อกกลอนไว้ไม่ให้ใช้
บ๊ะ ขายกาแฟ ดื่มเสร็จก็ต้องปวดฉี่ แล้วปิดห้องน้ำ เห็นทั้งหนุ่มทั้งแก่
ไปช่วยรดน้ำต้นไม้กันในสวนเป็นแถว รับรองกลิ่นจรุงใจแน่ๆ
ร้านอยู่ในทำเลดีแท้ๆ ทำให้ดีๆ ขายดิบขายดีไม่รู้เรื่อง อ้อ เดี๋ยวจะ
หาว่าไม่ดีไปหมด ในร้าน(ห้องแอร์)เขาก็เปิดทีวีให้ดูนะคะ คนนั่งดู
กันเต็มไปหมด แต่ด้านนอก(โอเพิ่นแอร์) ยังมีที่ว่างอีกตั้งมาก
หากปล่อยให้คนเข้ามานั่งก็จะดีไม่น้อย
หน้าร้าน มีรถโมบายล์ ถ่ายข่าวของช่องเจ็ดสีจอดอยู่ มีนักข่าวหน้า
เป็นตูดอยู่คน คอยรายงานข่าวไปตอนต้นชั่วโมง ช่วงที่ป้าอยู่
พี่โอ๋ (อดีตนายพลตำรวจ) ตะโกนเสียงนำว่า"อภิสิทธ์)เท่านั้นแหละ
"ออกไป"ก็สนั่นตามมา คนที่ดูทางบ้านคงได้ยิน กิ๊ดกิ้ว
พออีกช่วงไอ้นักข่าวเลยย่องขึ้นไปรายงานบนรถหลังคารถโมบาล์
ฮาเสียไม่มี คงกลัวเสียงไปรบกวน ชอบมาก
ไม่นานนัก ป้าลุงแก่ๆ ก็แยกย้ายกันกลับ แวะไปกินเป็ดพูลสิน
ระลึกความหลังกันหน่อย นั่งแท็กซี่กลับ เขาเปิดวิทยุให้ฟังถ่ายทอดสด
การปราศัยด้วย เป็นอันจบวันชุมนุมอย่างมีความสุขค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น