ต้องใช้คำว่าอดีตนะคะ เพราะปัจจุบัน หาคนที่จะประกาศตัวว่า
เป็นพันธมิตรยาก ก็ดูเวลาที่ประกาศให้มีการชุมนุมสิคะ พวกเขา
ไม่ได้ใส่เสื้อเหลืองกันอีกต่อไปแล้ว ซึ่่งอาจเป็นเพราะทำชั่วเอาไว้มาก
ใส่ออกไปกลัวคนดักตีหัว หรือไม่ก็อาจถูกห้ามใช้อีกต่อไป หรือไม่
ก็อาจไม่ได้ทำเพื่อใครแล้วก็ได้ อิอิ
พวกนี้ดูว่าลดน้อยลงไป แต่ไม่จริงหรอกค่ะ แม้เขาจะไม่ได้ใช้เสื้อเหลืองแสดงตัว
แม้เขาจะไม่ออกไปชุมนุม แต่ในหัวจิตหัวใจก็ยังเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
การทำให้ความเกลียดอย่าว่าแต่หายไปเลยค่ะ แค่ให้ลดลงยังยากเลย
คนพวกนี้เขาไม่เปิดใจฟังอะไรทั้งนั้น ถูกล้างสมองมาเรียบร้อย
ในสมองไม่มีอะไรนอกจากความเกลียด เขาไม่สนใจฟังความจริง
ขนาดรู้ทั้งรู้ว่าว่าเป็นความจริง เป็นการกระทำที่ผิด เช่นการที่
องคมนตรียึดที่เขายายเที่ยง แม้ในใจจะรู้อยู่เต็มอกว่ามันผิด
แต่การที่จะยอมรับว่าฝ่ายตัวทำผิดก็กระไรอยู่ เลยออกมาแถแทนก็ยังเอา
การทำให้คนพวกนี้หันกลับมารับความจริง มันยากค่ะ เพราะคนไทย
เป็นอะไรก็ได้ แต่เสียหน้าไม่ได้ ใครจะยอมเสียหน้า รับว่าหลงผิด
ไปตั้งนาน ไม่ต้องไปบอกให้เขามาเชียร์ด้วยซ้ำ แค่ให้เห็นถูกเป็นถูก
ผิดเป็นผิด ยังทำไม่ได้เลย เอาสีข้างเข้าถูจนถลอกถลอยไปหมดแล้ว
ดังนั้นวิธีจัดการกับพวกนี้คือ ย้อนรอยค่ะ ทำเหมือนกับที่เขาเคยทำกับเรา
คือจำกัดพื้นที่ในการแสดงออกของเขา เช่นว่าเมื่อก่อนไปไหนก็โวยวาย
ส่งเสียงดัง ด่าทอคุณทักษิณอย่างไม่กระดากปาก ส่วนพวกเราก็ได้แต่เงียบ
ไม่อยากทุ่มเถียง คราวนี้กลับกันค่ะ อย่าปล่อยให้เขาพูดข้างเดียว
ข้อมูลหลักฐานเรามีพร้อมแล้ว เดี๋ยวนี้ จากรายการทีวี จากในเวปบอร์ด
เอาเข้าไปต่อกรเลยค่ะ เวลาคุยกัน อีกหน่อยเขาก็จะเงียบไปกันเอง
การแก้คนมันยาก เพียงแต่อย่าให้ออกมาโวยวายเหมือนเก่าก็พอแล้ว
เชื่อว่าหมดยุคนี้ไป ลูกหลานอาจตาสว่างขึ้นบ้าง (มันคงไม่ได้ฝังไปใน
ดีเอ็นเอ มังคะ) ขาดการกระตุ้นชี้นำ สักพักก็หมดประเทศไปเองล่ะค่ะ
อย่าหวังไปชวนมาเป็นพวกเลย ไม่มีทาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น