อ๊ะ ออกเสียงของกิ๋นก็ต้องของกินเมืองเหนือสิคะ
บ้านเมืองน่าเบื่อ วุ่นวาย ควายไม่รู้จักอาย(เดินแก้
ผ้ากันล่อนจ้อน)
เลยหนีไปแอ่วเมืองเหนือ วันที่เขาปิดประเทศปล้นนั่นแหละค่ะ
ขับรถกันไปทั้งบ้าน (7ชีวิต) เอารถไปสองคัน ลูกๆขับไปทั้งนั้น
คนโตเอารถตัวเองไป มีภรรยาและน้องชายนั่งไปด้วยรวมสี่ชีวิต
คันที่ป้าไป ก็ลูกสาวขับไปกันพ่อ-แม่ลูก อีกสามชีวิต
เลือกเดินทางวันศุกร์ เพื่อหนีสภาพการจราจร ซึ่งคาดว่า(เชื่อได้ว่า)
โหทันสมัยซะไม่มี อันว่าวันเสาร์คนคงจะเดินทางมากเพราะเป็นการหยุด
ติดต่อกันสามวัน ได้ผลดีตามคาด รถราไม่มาก ขับได้สบายๆ(เร็วมาก
เวลาไม่เจอตำรวจตั้งด่านตรวจ)
ใช้เวลาอยู่ที่เชียงใหม่(เมืองหลวงของคนเสื้อแดง) สี่วันสามคืน
อากาศยังไม่ร้อนเท่าใด ผิดกับเมืองนนท์ร้อนเป็นบ้า อุตส่าห์เลือก
เดินทางวันตัดสิน เพื่อที่จะไม่ต้องรับรู้รับฟังอะไรที่เดาได้แล้ว
ไม่น่าเชื่อ โทรศัพท์ดังเป็นระยะ เมื่อเย็นๆ ต่างโทร.มาถามกันว่าผลเป็น
อย่างไร(ป้าดโธ่ ป้าไม่ได้เขียนคำตัดสินให้สักหน่อย มาถามได้)
ได้ความว่า ต่างคนต่างอยากรู้(แม้จะคาดเดาเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว)
แต่ไม่มีใครยอมฟังเอง ทั้งๆที่เขาอุตส่าห์ออกอากาศให้ตั้งสี่พัน
กว่าสถานี แปลกแฮะ ไม่ยักมีคนฟัง เอาเป็นว่าผลออกมาไม่เกิน
ความคาดหมาย ลืมๆไปเถอะ เล่าเรื่องของกินดีกว่า
คืนแรก เราเดินไปหาร้านกินเอาแถวๆที่พักนั่นแหละค่ะ(นิมมานเหมินทร์)
ไปเจอร้านพิซ่าเกาะลันตา อะฮ้าร้านนี้แหละ ง่ายดี พิซ่าอร่อยพอใช้ได้
เส้นไม่ได้เรื่องสักอย่าง ที่อร่อยพอคุยก็เห็นจะมีแต่ซีซาส์สลัด (ตัวชี้
วัดฝีมือ) ไปร้านอิตาเลี่ยนที่ไหน เป็นต้องสั่งมาลอง พบว่ารสชาติดี
เลยสั่งเสียสองจาน
เช้าขึ้นมาคุณลุงพาไปกินโจ๊ก กะต้มเลือดหมูที่กาดต้นพยอม (ป้าไม่ได้ไป มัวไปทำผม อิอิ)
กลางวันไปกินกันที่ร้านกาแล(ข้างอ่างเก็บน้ำ) ที่นี่แกงโฮะอร่อยมาก
อันว่าแกงโฮะก็คือจับฉ่ายเมืองเหนือละม้าง เห็นว่ามีอะไรก็ใส่ๆลงไป
ลูกว่าแล้วแต่ว่าเมื่อวานคนกินอะไรเหลือมาก แฮ่ๆไม่ใช่อย่างนั้นมั้ง
อย่างอื่นๆก็พอกินได้ทั้งสิ้น ได้ลิ้มรสอาหารเมืองเหนือครบถ้วน
พอบ่าย ไฟต์บังคับต้องไปกินเค้กกันที่ Love At First Bite ไม่รู้ทำไม
ใครมาเชียงใหม่ต้องไปกิน เดี๋ยวนี้ขนาดซื้อที่เอาไว้ให้ลูกค้าจอดรถได้เลย
ก็แล้วกัน(น่าชื่นใจ) นึกไปถึงคำว่า"รู้อะไรให้เชี่ยวเถิดจะเกิดผล"ขึ้นมาทันที
ตกค่ำ อ๊ะๆ ต้องไปเดินถนนคนเดินสิคะ วันเสาร์เขามีที่ถนนวัวลาย
ข้าวของเยอะแยะ แต่ที่สำคัญเขาไปเดินกินกัน ไปเจอ"ข้าวจี่" ติดใจมากๆ
อร่อยขนาดต้องกลับมาเปิดหาวิธีทำกันเลยทีเดียว วิธีทำก็ง่ายๆไม่มีอะไรยุ่งยาก
แค่เอาข้าวเหนียวคลุกกับน้ำกะทิละลายเกลือ แล้วปั้นเป็นก้อน เสียบไม้แล้วกดให้แบน
เอาไปปิ้งพอเหลืองๆก็เอามาชุบไข่ แล้วเอากลับไปปิ้งต่อจนหอมเหลือง
อร่อยดี เป็นของกินเล่นเวลาเดิน(แต่ที่เจอ เดี๋ยวนี้เขาไม่ได้เสียบไม้แล้ว
เห็นทำเป็นก้อนแบนๆ ใหญ่กว่าขนมแป้งจี่เพียงเล็กน้อย ก็กินพอดี ไม่ใหญ่
จนเกินไป)
ของกินอื่นๆที่เห็นก็มีไข่ป่าม แปลว่าอะไรไม่รู้ แต่ใส่สารพัด(เลือกได้)
มาเมืองเหนือทั้งทีก็ต้องนี่เลย ใส่ไข่มดแดง ใส่ตัวอ่อนผึ้ง (ช่างสรรหา
มากินโดยแท้) ลักษณะเป็นเหมือนไข่เจียว(เพราะใส่ไข่) แต่เขาเอา
ไปปิ้งแทน ใส่อยู่ในกระทงใบตอง อร่อยแปลกๆล่ะค่ะ
ส่วนอื่นๆก็มีให้เห็นทั่วไปไม่แตกต่าง เลยไม่ต้องเล่า บนถนนวัวลาย คนไม่มาก
ร้านรวงก็ไม่เยอะ เดินสบายๆ แต่ที่ไหนได้ วันอาทิตย์เขามีต้นตำรับถนนคนเดินที่ท่าแพ
โอ้โห ตรงกับวันมาฆะบูชาด้วยมั้ง คนมาเวียนเทียน ตามวัดที่อยู่ข้างทาง กันมากมาย
ร้านก็เยอะมากๆ พอคนแน่นก็เลยไม่ต้องดูอะไรกัน เพราะอาศัยไหลไปอย่างเดียว
ถนนก็ไกลเสียเหลือเกิน รถตู้เอามาส่งที่ประตูท่าแพ นัดมารับที่วัดสิงห์ โอ้แม่เจ้า
เดินกันขาแทบหลุด ร้อนก็ร้อน คนก็เยอะ จะถอยกลับก็ไม่ได้ ต้องไหลตามกันไป
เฮ้อ เหนื่อย อ้อ ไข่ป่ามลุงคำปัน น่าจะเป็นแฟรนไชส์ เพราะเห็นมีขายทั่วๆไป
ใช้ชื่อเดียวกันหมด น่าเสียใจที่ไม่มีข้าวจี่ให้กิน หาไม่ได้เลย นอกนั้นมีเหมือนๆกัน
อันนี้ไม่ใช่จากถนนคนเดินนะคะ เป็นภาพประกอบให้ดูหน้าตาเฉยๆ
เล่าข้ามไป วันอาทิตย์ เช่ารถตู้มาหนึ่งวัน เช้าเลยไปกินโจ๊กสมเพชร อร่อยดี
กลางวันขึ้นไปกินที่"โป่งแยงแอ่งดอย" ขอแนะนำ ยำแฮม อร่อยมากๆ
บ่ายๆขับขึ้นไปถึงสะเมิงไปเที่ยวชมไร่สตรอว์แบรี่ ร้อนตับแล่บ
นึกไปถึงว่าจะให้ลงไปเก็บกินเองแบบที่ญี่ปุ่นหรืออังกฤษได้อย่างไร เห็นแดดก็ลาแล้ว
เลยได้แต่ซื้อที่เขาเก็บมาวางขาย อ้อ เขาขายที่ด้วยนะคะ ไร่ละสี่แสนเอง
แต่เอ่อ กว่าจะขึ้นมาถึง ขอโทษโคตรไกลเลย
ลงเขามาก้นี่เลยแวะดื่มกาแฟวาวี สาขาแม่ริม ร้านสวยบรรยากาศดี
เค็กก็อร่อยใช้ได้ แล้วไปจบวันที่ถนนคนเดิน อย่างที่เล่า วันจันทร์วันเดินทางกลับ
สายๆก็ไปกินอาหารที่"เฮือนเพ็ญ" สั่งมาเต็มโต๊ะ ราคา500บาท
ลูกๆงงคิดเป็นเงินยูโรแค่ 10ยูโร ที่สเปน แค่นี้ แมคโดแนลยังแทบกินไม่พอ
เหอๆ เมืองไทยนี้ดี มีดินสมเป็นนาสวน อาหารการกินเพรียบพร้อมสมบูรณ์
ราคาไม่แพง ฝรั่งถึงได้มาเต็มเมือง เสียอย่างเดียวผู้บริหารมันห่วย(อิอิ เอาเสียหน่อย)
ตกลงทริปไปเที่ยวเชียงใหม่งวดนี้ ไม่ได้พบแกนนำ(ก็ไปกับครอบครัว)
กะจะไปซื้อที่ แต่ลูกๆไม่เอา เราจะไปซื้อทำไมถ้าลูกเขาไม่มา สิ่งที่ได้มาก็เลยมีแต่น้ำหนัก
เพราะกินตลอดวัน ที่ยังไม่ได้เล่าอีกเยอะแยะ แล้วจะกลับไปอีกค่ะ ยังไม่ได้ไปกิน
ข้าวซอย"เสมอใจ"เลย อดนั่งสบตากับท่านายกฯ ก็ที่ร้านนี้เขาติดรูปคุณทักษิณ
ไว้เต็มฝา ไปกินแล้วมีความสุขมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น