วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ความเชื่อ...พลังจิต

ID # 844856 - โพสต์เมื่อ : 2009-10-14 07:13:31 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


เขาว่าความเชื่อ เมื่อเกิดขึ้นในหมู่คนมากๆ เรียกว่าคิดอย่างเดียวกัน
ก็จะทำให้เกิดเป็นพลังจิต ซึ่งพลังจิตนี้เองจะกลายเป็นพลังงานที่มีอนุภาพ
สามารถผลักดันให้เกิดตามที่คิดกันได้

ไม่ว่าในทางที่ดีหรือร้าย คนอเมริกันคงเชื่อในเรื่องนี้มากกว่าใคร
เพราะพ่อแม่มักจะสอนลูกให้คิดในทางดีกับตัวเสมอ เช่นว่าบอก
ลูกว่าลูกดีที่สุด หล่อที่สุด สวยที่สุด เก่งที่สุด จนเป็นเหมือนการสะกดจิต
เมื่อคิดอย่างไรเราก็จะกลายเป็นอย่างนั้น

ความคิดความเชื่อนี้ไม่ได้มีผลกับตัวเองเท่านั้น แต่หากคิดเหมือนๆกันทั้ง
ประเทศก็จะกลายเป็นพลังมหาศาล สามารถดลบันดาลให้เกิดอะไรก็ได้ดังคิด

อ๊ะๆ....ไม่ใช่อย่างที่คิดกันนะคะ ไม่ได้มาชวนคิดอย่างนั้น เรื่องนั้นแอบคิด
กันในใจก็ได้ อย่าเอะอะไปล่ะ จุ๊ๆ

แต่ที่จะเขียนวันนี้ คือความคิด ความเชื่อที่มีมานานนมแล้วในประเทศ
คือความเชื่อที่ว่า"นักการเมืองเลว" ไม่ทราบใครเป็นคนต้นคิด แต่จำ
ได้ว่าได้ยินเรื่องนี้มาตั้งแต่เป็นเด็ก เขาว่าคนดีๆไม่มีใครเล่นการเมืองหรอก

เออหนอ จริงอย่างนั้นหรือ ถ้าความจริงคือไม่ว่าในหมู่ใด สังคมใด
ย่อมมีทั้งคนดีและไม่ดีปะปนกัน แล้วทำไมสังคมการเมืองจึงมีแต่คนเลว

ไม่จริงหรอกค่ะ นักการเมืองก็ต้องมีคนดีอยู่ด้วย จะมีแต่คนเลวได้ไง
แต่พอพูดกันมากๆ พูดกันติดปาก สอนลูกสอนหลานอย่างนั้น มันก็
เป็นเหมือนพลังจิตสาบแช่งนัการเมืองและการเมืองไปในตัว ยิ่งทำให้
ทุกสิ่งเลวร้ายไปตามที่คิดที่พูด พระท่านถึงได้สอนว่าให้"คิดแต่ดี
ทำแต่ดี และพูดแต่ดี"ไงคะ

เลิกเถิดค่ะความคิดตราหน้าว่านักการเมืองเลว เพราะคนต้นคิดเรื่องนี้
ต้องเป็นคนที่ไม่ต้องการเห็นความก้าวหน้าของประชาธิปไตยในประเทศนี้
แน่นอน เพราะการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะต้องมี
นักการเมือง การปกครองระบอบเผด็จการในรูปแบบต่างๆไม่ต้องมี
นักการเมืองหรอกค่ะ เพราะเขาใช้วิธืแต่งตั้ง แน่นอน ใครจะไปตั้งคนที่มี
ความเห็นต่างจากตัวให้ไปทำงาน เดี๋ยวได้เถียงกันตาย ก็ต้องตั้งแต่พวก
ประจบสอพลอ เอออวยไปเสียทุกเรื่อง แล้วประเทศจะเจริญก้าวหน้า
ได้อย่างไร จริงอยู่หากผู้นำเผด็จการรักชาติจริง ความเด็ดขาดอาจช่วย
ให้การผลักดันนโยบายทำได้สะดวกขึ้น การทำงานก็ปราศจากคนขัดขวาง

แต่ในความเป็นจริงผู้นำเผด็จการที่ดีจริงๆเคยมีหรือคะ แล้วการรวบ
อำนาจการตัดสินใจในชะตาชีวิตของคนในชาติไปอยู่กับคนเพียงคน
เดียวกลุ่มเดียวมันดีหรือคะ นั่นคือเหตุผลที่การปกครองระบอบประชา
ธิปไตยเบ่งบานไปทั่วโลก เพราะการมีหลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว
นักการเมืองคือตัวแทนของเรา เข้าไปมีสิทธิ์มีเสียงที่จะเห็นด้วยหรือคัดค้าน
ซึ่งเราไม่มีโอกาสไปทำอย่างนั้นได้ทุกคน

แต่เขาก็ฝังหัวเราทุกคนในประเทศนี้ว่า นักการเมืองเลว นักการเมืองโกงกิน
จริงอยู่อาจมีบ้าง แต่ถ้าประชาชนรู้ เราก็สั่งสอนลงโทษได้ ด้วยวิถีทางการ
เลือกตั้ง เพราะถ้าไม่ดีจริงครั้งต่อไปก็หมดสิทธิ์ นี่คือระบอบประชาธิปไตย

ทำไมเราไปคิดว่านักการเมืองเลว เลยต้องยกเลิกการเลือกตั้งเสียล่ะคะ
เรากำลังตกเป็นเครื่องมือของคนที่คิดจะรวบอำนาจหรือเปล่า ที่ชักนำ
ให้เราเชื่อโดยสนิทใจว่านักการเมืองเลวทุกคน เมื่อเชื่ออย่างนั้นก็เหมือน
กับการสาบแช่ง จนในที่สุดคนดีเองก็ท้อใจที่จะลงเล่นการเมือง
เพราะหากลงไปเกลือกกลั้ว ความดีที่สะสมมาจะละลายหายสูญ
กลายเป็นคนชั่วไปในพริบตา

เราเองนั่นแหละที่ถูกหลอก แล้วยังไปสอนลูกสอนหลานต่อๆกันไปว่า
นักการเมืองเลว ไม่เชื่อลองดูผลการสำรวจนี้ดูสิคะ

เด็กไทย90%เบื่อการเมือง


กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ 11 องค์กรจัด "มหกรรมพลังเยาวชน พลังสังคม" ครั้งที่ 1 มีการเสวนา .มอง พ.ร.บ.เด็กแบบเด็กๆ" โดยนายรัชฏะ ศรีบุญรัตน์ ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แม้สภาเด็กและเยาวชนฯก่อตั้งขึ้นมาไม่ถึง 1 ปี แต่มีเครือข่ายครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศและมีการประชุมแลกเปลี่ยนความ คิดเห็นของแต่ละพื้นที่อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ ตั้งแต่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2550 มีผลบังคับใช้ในปี 2551 ที่ให้เด็กมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยที่ไม่มีบทลงโทษหรือข้อ กฎหมายเอาผิดกับเด็ก ซึ่งเด็กจะได้มีกระบอกเสียงส่งผ่านไปถึงผู้ใหญ่ในหันมายอมรับและสนับสนุน เพราะสาเหตุหลักที่เด็กไม่มีแรงบัลดาลใจในการทำประโยชน์ให้สังคมเพราะ ผู้ใหญ่ไม่ให้ความสำคัญ จึงทำให้เด็กขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง มีการก้าวร้าว แสดงออกในทางที่ผิด เช่น แก๊งรถแข่ง แก๊งปาหิน สร้างความเดือดร้อนให้สังคม

"จากการสำรวจความคิดเห็นของเยาวชนจำนวน 1,700 ราย ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาพบว่า เยาวชนร้อยละ 80 มองว่าผู้ใหญ่ไม่ให้ความเคารพในการแสดงออกทางความคิดและการปกป้องสิทธิให้ กับเด็ก นอกจากนี้ยังมีการ สำรวจความคิดเห็นในเรื่องการเมือง โดยเยาวชนร้อยละ 90 ไม่มีความรู้เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และไม่อยากรับรู้เรื่องการเมืองเพราะเป็นเรื่องที่ไกลตัวเกินไป มองว่าการเมืองเป็นเรื่องต้องห้าม เลวร้าย วุ่นวาย น่าเบื่อ น่ารำคาญ เด็กส่วนใหญ่จึงไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องการเมืองและไม่อยากแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการเมือง สิ่งที่เด็กต้องการให้เกิดเป็นรูปธรรมจริงๆคือการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งรัฐบาลต้องเข้ายื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงจัง เด็กทุกคนจะต้องได้รับการศึกษาที่ดี เป็นผู้รู้ที่แท้จริง" นายรัชฎะกล่าว


ดูเอาเถิดค่ะ มันตลกไหมคะ มีการตั้งสภาเด็ก แต่กลับทำให้เด็กคิดเห็นว่าการเมือง
เลวร้ายวุ่นวาย ใครกันที่ปลูกฝังความคิดนี้ให้กับเยาวชนของชาติ เลวร้ายกว่านักการเมือง
อีก เลิกเสียทีนะคะ อย่าคิด อย่าพูดว่านักการเมืองเลว ถ้าพบเห็นว่านักการเมือง
คนไหนทำผิด คิดร้าย ก็ให้นึกว่ามันเลว อาจเลวคนเดียว หรือเลวทั้งพรรค แต่ไม่ใช่
นักการเมืองทั้งหมดที่เลวนะคะ หวังเพียงว่าการคิดดีๆต่อนักการเมืองจะกลาย
ไปเป็นพลังจิต ชักนำให้นักการเมืองส่วนใหญ่กลายเป็นคนดี และทำเพื่อชาติและประชาชน

ไม่มีความคิดเห็น: