วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อยากเขียนถึงลูกถึงหลาน

คงไม่ผิดที่จะเรียก"น้องเดียร์"ลูกเสธ.แดงว่าเป็นลูกเป็นหลาน
เพราะอายุอานามก็ไล่เลี่ยใกล้เคียงกับลูกๆของตัวเอง

จากข่าวสานต่อพรรคเสธ.แดง'เดียร์'ยืนข้างเสื้อแดง

ลูกสาว "เสธ.แดง" ประกาศเจตนารมณ์สานต่อพรรคขัตติยะธรรม พร้อมกับประกาศตนเป็นคนเสื้อแดงเต็มตัว
เตรียมทำกิจกรรมร่วมกับแฟนคลับของพ่อ เชิญชวนให้ร่วมสมัครเป็นสมาชิกพรรคให้ครบตามข้อกำหนดของ กกต.
ยืนยันส่งผู้สมัคร ส.ส. แน่ ชูนโยบายเปลี่ยนแปลงระบบยุติธรรมในประเทศไทย เล็งนำระบบลูกขุนมาใช้พิจารณาคดี
รู้ว่ายากแต่ต้องการลดความสองมาตรฐาน และหากพรรคได้ ส.ส. จะยืนเคียงข้างพรรคเพื่อไทยไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล

อยากจะเตือนหลานเดียร์ว่า หากอยากเล่นการเมือง ไม่ต้องตั้งพรรคการเมืองหรอกลูก
จริงอยู่พรรคคุณพ่อตั้งเอาไว้ให้แล้ว การสานต่อสิ่งที่คุณพ่อทำไว้มันก็ดีอยู่หรอก
แต่มันไม่ใช่บริษัทห้างร้านนะลูก ไม่ใช่ธุรกิจที่ต้องสานต่อ พรรคการเมืองเป็นเรื่องยุ่งยาก
เป็นแหล่งรวม เสือสิงห์กระทิงแรด ล้วนเข้าการเมืองมาเพื่อหวังกอบโกย ตักตวงทั้งสิ้น

เว้นแต่ว่าลูกหวังจะเป็นพรรคเล็กที่เป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลตามที่เสี่ยสุวัจจน์
กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า'สุวัจน์'ฟันธงเสียงพรรคเล็กชี้ขาดตั้งรัฐบาล

แต่หนูรู้หรือเปล่าว่าการตั้งพรรคการเมืองมันยาก ไม่เชื่อหนูลองไปถามไอ้ลิ้มดูสิลูก
ไหนจะค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ต้องกล่าวถึงการเลือกตั้งหรอกลูก การแค่รักษาพรรคให้คง
อยู่ ก็ใช้แต่เงินทั้งนั้น เขาถึงได้ว่าหากจะเล่นการเมืองมันต้องมีการลงทุน ดังนั้น
เมื่อได้รับเลือกมาแล้วก็ต้องถอนทุน จนกลายเป็นนักการเมืองมูมมามไงลูก

ไม่เถียงหรอกที่มีคนรักเสธ.แดงมาก แล้วความรักก็ส่งต่อมาถึงหนู หากหนูลงรับเลือกตั้ง
ก็อาจได้รับเลือก ด้วยศักยภาพของตัวหนูเอง แต่จะให้ได้มาทั้งพรรค เอาแค่ 10คนน่ะ
ใครๆก็รู้ว่ายากเย็นแสนเข็ญ

หากหนูยืนยันที่จะอยู่เคียงข้างพรรคเพื่อไทยจริง ทำไมไม่ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเขาเลยล่ะลูก
อาจได้รับการเสนอชื่อให้ลงรับเลือกตั้งในนามพรรค ซึ่งทั้งกระแสส่วนตัวของหนูเองและ
กระแสพรรค มันจะช่วยให้หนูได้เป็นสส.สานต่ออุดมการณ์ของพ่อได้เช่นกัน

ที่เขียนมานี่ก็เพียงเพื่อสะกิดเตือนเล็กๆว่า อย่าหลงไปตามกระแส อย่าหลงไปกับ
คนที่มาเชียร์มายุยงให้ตั้งพรรค(ดำรงค์พรรคอยู่ต่อไป)เลยลูก จากประสบการณ์ตรง
เมื่อก่อนคุณพ่อของผู้เขียนก็เคยเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองนะลูก ตั้งกว่า30ปีแล้วมั้ง
ครั้งนั้นก็ได้สส.ร่วมพรรคมา3คนนะลูก แต่หมดเงินไป มากจนไม่อยากจะคิด
ยิ่งรธน.ปัจจุบันที่เอื้อต่อการขายตัวง่ายๆของสส. เพราะเขาสามารถซื้อตัว
ย้ายพรรคได้โดยง่าย แล้วไอ้ที่หนูลงทุนลงแรงไป มันจะคุ้มหรือ เพราะในที่สุด
มันก็กระโดดหนีหนู ย้ายไปอยู่พรรคอื่น ก็เท่ากับว่าที่หนูลงแรงมาเสียเปล่า

ด้วยความรักและห่วงใยเยี่ยงหนูเยี่ยงลูกหลาน จึงเขียนมาติงเพื่อให้ฉุกคิดเท่านั้นเอง
อย่าโกรธ อย่าว่าเลยนะ เป็นเพราะหวังดีจริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น: