วันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2551

If Tomorrow Never Comes

- โพสต์เมื่อ : 2008-12-26 23:04:11 _ แจ้งลบข้อความ


ฟังเพลงยามดึกกันนะคะ เอาว่าคิดจะทำอะไรดีๆ ทำวันนี้เถอะค่ะ เผื่อว่าจะไม่มีพรุ่งนี้
เริ่มต้นจากที่บ้านเลย ใครมีลูกเดินไปหอมแก้มเบาๆ(แม้ว่าจะหลับไปแล้ว)
มีคู่ชีวิต หันไปสบตากัน บอกรักเขาสักที แค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ

If Tomorrow Never ComesRonan Keating

Sometimes late at night
I lie awake and watch her sleeping
She's lost in peaceful dreams
So I turn out the lights and lay there in the dark
And the thought crosses my mind
If I never wake up in the morning
Would she ever doubt the way I feel
About her in my heart

If tomorrow never comes
Will she know how much I loved her
Did I try in every way
To show her every day
That she's my only one
If my time on earth were through
And she must face the world without me
Is the love I gave her in the past
Gonna be enough to last
If tomorrow never comes

'Cause I've lost loved ones in my life
Who never knew how much I loved them
Now I live with the regret
That my true feelings for them never were revealed
So I made a promise to myself
To say each day how much she means to me
And avoid that circumstance
Where there's no second chance
To tell her how I feel

If tomorrow never comes
Will she know how much I loved her
Did I try in every way
To show her every day
That she's my only one
If my time on earth were through
And she must face the world without me
Is the love I gave her in the past
Gonna be enough to last
If tomorrow never comes

So tell that someone that you love
Just what you're thinking of
If tomorrow never comes


โพสต์เมื่อ : 2008-12-26 23:18:24 _ แจ้งลบข้อความ


สำหรับท่านที่อยู่คนเดียว ฟังเพลงนี้แล้วกันค่ะ

คิดถึงเธอทุกที(ที่อยู่คนเดียว)

คิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียว


ตะวันลับฟ้าเมื่อตอนเย็นๆ จะเป็นเวลาที่ใจหาย

ปลายท้องฟ้ากับแดดรำไร ฉันเหมือน ใจจะขาด

ยังกังวล ห่วงใครบางคน ที่ไม่อาจพบและเจอ

คิดถึงเธอทุกที ที่อยู่คนเดียว

*ไม่เคยได้รู้ว่าเธอเป็นไง

ข่าวคราวเงียบหายเมื่อจากกัน

เธอมีใครมาแทนที่ฉัน แล้วเขาดีหรือเปล่า

มีฉันไหม เวลาที่ฝัน หรือว่าลืมทุกเรื่องราว

(ยัง) คิดถึงฉันหรือเปล่า เมื่ออยู่คนเดียว

**ตั้งแต่ครั้งนั้นที่เธอไม่อยู่ ชีวิตดูเปลี่ยนไป

ยังอ้างว้างยังเสียใจ เหลือเพียงแต่ความเงียบเหงา

ยังคิดถึงวันที่ผ่าน วันที่มีแต่เรา

แต่วันนี้มันว่างเปล่าเหงาจับใจ คิดถึงเธอรู้ไหม

(ยัง) คิดถึงเธอทุกที ที่อยู่คนเดียว

(ซ้ำ *, **)
เลยไปเจอเพลงนี้นี้ด้วย ฝากบอกไปถึงคนที่พยายามเหลือเกิน
ที่จะทำให้ลืมคุณทักษิณ คงไม่มีทาง

When I Fall In Love

WHEN I FALL IN LOVE (Nat King Cole)

When I fall in love it will be forever
Or I'll never fall in love
In a restless world like this is
Love is ended before it's begun
And too many moonlight kisses
Seem to cool in the warmth of the sun

When I give my heart it will be completely
Or I'll never give my heart
And the moment I can feel that you feel that way too
Is when I fall in love with you.

[Instrumental interlude first two lines]

And the moment I can feel that you feel that way too
Is when I fall in love with you.



โพสต์โดย : ป้าแปะ
ID # 1488408 - โพสต์เมื่อ : 2008-12-27 00:20:00 _ แจ้งลบข้อความ


และขอลาจากไปด้วยการร้องของพ่อลูก ที่ทำได้ด้วยเทคโนโลยี่สมัยใหม่
ที่ทำให้พ่อลูกได้มาร้องเพลงด้วยกันได้ ทั้งๆที่พ่อตายไปตั้งนานแล้ว
ในขณะที่เมืองไทยยังไล่ปิดเวปอยู่เลย ฝากไปถึงคนไกลที่จะเป็นอย่างนี้
กับคนไทยอีกนับสิบล้านคน UNFORGETABLE ค่ะ และก็ขอร้องว่า
That someone so unforgettable
Thinks that I am unforgettable, too. อย่าลืมคนไทยนะคะ

"Unforgettable"

Unforgettable... that's what you are;
Unforgettable, though near or far.
Like a song of love that clings to me,
How the thought of you does things to me.
Never before has someone been more

Unforgettable in ev'ry way;
And forevermore, that's how you'll stay.
That's why, Darling, it's incredible
That someone so unforgettable
Thinks that I am unforgettable, too.

(Repeat second verse)

หน้าเดียวกันที่ไปเปิดฟังเพลงที่คุณชายนำมาฝาก
เลยไปเจอบัลลาร์ดเพลงนี้ น่ารักจังเลยค่ะ

If You Get There Before I Do.

I read a note my grandma wrote back in 1923
Grandpa kept it in his coat and he showed it once to me
He said boy you might not understand
But a long, long time ago
Grandma's daddy didn't like me none
But I loved your grandma so

We had this crazy plan to meet
And run away together
Get married in the first town we came to and live forever
But nailed to the tree where we were supposed to meet instead
I found this letter
And this is what it said

If you get there before I do
Don't give up on me
I'll meet you when my chores are through
I don't know how long I'll be
But I'm not gonna let you down
Darling wait and see
And between now and then til I see you again
I'll be loving you, love, me

I read those words just hours before my grandma passed away
In the doorway of a church
Where me and grandpa stopped to pray
I know I'd never seen him cry in all my 15 years
But as he said these words to her
His eyes filled up with tears

If you get there before I do
Don't give up on me
I'll meet you when my chores are through
I don't know how long I'll be
But I'm not gonna let you down
Darling wait and see
And between now and then til I see you again
I'll be loving you, love me
Between now and then til I see you again
I'll be loving you, love, me


ฟังไปน้ำตาคลอไปเลยค่ะ

ป้าแปะขอผิดสัญญา นำข่าวจากโลกวันนี้ มาลงทันที

โพสต์เมื่อ : 2008-12-26 15:47:39 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


ก็เห็นแล้วมันจี๊ด ทนไม่ไหวล่ะค่ะ ลองอ่านดูสิคะ



มันอะไรกันนักหนา กระเห ี้ยนกระหือรือ ตั้งกันมาเพื่อการนี้เลยหรือไร บอกตั้งกี่ครั้งแล้วว่า
ต่อให้จับตัวคุณทักษิณมาเผากันสดๆกลางสนามหลวง มันจะทำให้ประเทศนี้หมดปัญหาไปไหม
การออกข่าวเช่นนี้ แล้วกระทำเยี่ยงนี้ คือจองล้างจองผลาญ บี้เขาทุกวีถีทาง ส่วนปากก็ตะโกนว่า
ต้องการมาแก้ปัญหาชาติ ต้องการให้ทุกคนเลิกแล้วต่อกัน ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่มีเสื้อแดงเสื้อเหลือง
เราเป็นไทยด้วยกัน จะพยายามนำความรักสามัคคี ความสมานฉันท์กลับคืนมา

แล้วที่กระทำอยู่มันคืออะไร คุณทักษิณเป็นปัญหาใหญ่ของใคร ได้ไปถามชาวบ้านร้านช่องเขาดู
บ้างหรือยังว่าเขาอยากให้จัดการอย่างนี้กับคุณทักษิณหรือเปล่า แล้วดูข้อหาแต่ละข้อหาสิคะ
ไปขุดมาแต่ครั้งไหน ตั้งแต่ก่อนเขาเป็นนายกฯอีก แล้วมาแอบด่าว่าว่าเขาโกงกินประเทศ
โกงบิดาทั่นสิ เงินถึงได้เหลือคงคลังบานเบอะ ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ มีชีวิตที่ดีขึ้น

พวกแกปฏิวัติยึดอำนาจเขามา แล้วมีอะไรดีขึ้นไหม หลอกให้เลือกตั้งก็แล้ว พอไม่ได้สมใจ
ก็กลั่นแกล้งรัฐบาลจนไม่ต้องบริหารอะไร จนต้องรัฐประหารซ่อนรูปใหม่ หวังจะมาตามล้างตามเช็ด
เขา ช่างหน้าไม่อายเลยจริงๆ รัฐบาลนี้ ทำอะไรต่างจากรัฐบาลสุรยุทธ์บ้าง แล้วมาอ้างว่า
ไม่ได้แย่งเอาอำนาจเขามาอย่างนั้นหรือ

มันโกรธนะคะ โกรธที่ความยุติธรรมมันหาไม่ได้ในประเทศนี้ คุณทักษิณบริหารประเทศ
มาห้าปี หามูลค่าความเสียหายไม่ได้ แต่ที่พวกมันทำกัน เพียงไม่กี่เดือนกี่วัน ทำชาติสูญเสียไป
เป็นล้านล้านบาท ยังไม่ได้คำนวณมูลค่าการเสียโอกาสที่ยังนึกไม่ออกว่าจะกู้คืนกลับมาได้
อย่างไร ความผิดอย่างนี้เห็นๆ ชัดเจน แต่กลับไม่มีหมาสักตัวออกมาเห่าว่าจะทำอย่างไรกับ
ไอ้พวกเลวที่ก่อให้เกิดความเสียหายมากมายมหาศาล มิหนำซ้ำ กลับยังปูนบำเหน็จ ให้เข้ามาไล่บี้
เขาอีก ไม่รู้จะด่าว่าอย่างไรแล้วค่ะ มันอัดอั้นตันใจจริงๆ

การไล่บี้คุณทักษิณ คุณทักษิณ อาจไม่เดือดร้อน เท่ากับประชาชนในประเทศนี้ที่ต้องกล้ำกลืนฝืนทน
กับความอยุติธรรมนี้ เปรียบเหมือนหนองที่เตรียมพร้อมจะแตกอยู่รอมร่อ มันเจ็บปวดทุกข์ทรมาน
หากคอยไม่ไหว เดี๋ยวได้มีการบ่งหนองกันบ้าง คอยดูไปก็แล้วกัน

ไม่น่าเชื่อว่าเดี๋ยวนี้มีคนพูดถึงเรื่องพลีชีพกันแล้ว เพื่อนกลับมาจากอเมริกา ขึ้นแท็กซี่ แท็กซี่ก็พูดเรื่องนี้
บอกพี่ผมอยากพลีชีพจังเลย ถ้าความตายของผมจะช่วยทำให้แผ่นดินนี้ดีขึ้น ผมก็อยากจะทำ
มัวแต่ดูถูกคนรากหญ้า มัวแต่ดูถูกคนอิสาน รอวันตายของพวกแกเถิด

ข่าวที่คุณวฒน. ว่า เห็นว่าเต้าข่าวเอาเองแถวเนชั่ว
แล้วส่งไปให้นสพ.ที่สิงคโปร์ไม่ใช่หรือคะ

แต่จะอย่างไรก็ตาม ป้าก็ยังไม่เห็นว่าการลากคอคุณทักษิณ
กลับมาลงโทษ จะทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้าขึ้นมาตรไหน
แล้วก็ไม่เห็นว่าจะทำให้เกิดความสมานฉันท์กันในชาติ แต่อย่างไร

คุณทักษิณ ไม่ได้โดนคดีโกงกินชาติ สักหน่อย ที่ตัดสินไป
จำคุก 2ปี ก็เป็นเรื่องส่วนตัวแท้ๆ ไม่ได้ใช้อำนาจหน้าที่ไปโกงเสียเมื่อไหร่
เป็นไปได้อย่างไร คนที่กระทำถูกตัดสินว่าไม่ผิด แต่คนเซ็นในฐานะสามีดันผิด

ยิ่งบอกต่างชาติเขายึดทรัพย์ด้วยยิ่งบ้ากันไปใหญ่ ขนาดเมืองไทย
ยังหากันยังไม่ค่อยจะเจอเลยว่าจะยึดเขาด้วยข้ออ้างอะไร มีหรือ
ต่างชาติเขาจะมาเล่นกับเราด้วย

นึกถึงกลอนสอนใจบทนี้ขึ้นมาได้

โพสต์เมื่อ : 2008-12-26 11:12:59 _ ปิดข้อความ ex-link


เอามาฝากให้ไอ้พวกโง่ในทำเนียบได้อ่านดูบ้าง

พูดให้เขาไม่เข้าใจไปว่าเขา

ว่าโง่เง่างมเงอะเซอะหนักหนา

ตัวของเราเหตุไฉนไม่โกรธา

ว่าพูดจาให้เขาไม่เข้าใจ


ขออภัยที่ป้าไม่ทราบที่มา ว่าใครแต่ง จำได้มาตั้งแต่เด็ก
คุณพ่อ ท่องให้ฟังสอนลูกๆ ตัวเองน่ะลืมไปแล้วนะคะ
ต้องถามลูกเขยคนโปรด ไม่ผิดหวังเขายังจำได้

พร

โพสต์เมื่อ : 2008-12-25 16:11:09 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


1.ในวันที่มีทุกข์ เกินสุขล้น
วันที่คนหม่นหมองร่ำร้องหา
ยุติธรรมคำนี้ที่รอมา
ช่างเชื่องช้ามาไม่ถึงจึงรอคอย

2.แม้ไม่สุขสมหวังยังตั้งมั่น
ว่าสักวันฝันจะจริงไม่หลุดผลอย
จะมีสุขเสียทีน้ำตาปรอย
แล้วจะค่อยมีสุขล้นคนยินดี

3.ถึงให้รอต่อไปไม่กำหนด
จะไม่ลดละหวังยังสุขศรี
แม้ไม่ได้วันนี้ในทันที
แต่คงมีสักวันฝันเป็นจริง

4.ขอเพื่อนพ้องน้องพี่จงมีสุข
ลืมความทุกข์ชั่วคราวราวผีสิง
นึกถึงวันเคยสุขใจไม่ประวิง
ปล่อยทุกสิ่งให้กรรมได้นำทาง

5.เวลาทุกข์ปลุกใจให้มีหวัง
เป็นพลังสั่งใจไปขัดขวาง
ทุกข์ที่มีไม่มากหากปล่อยวาง
ทำจิตว่างใจนิ่งอิงธรรมา

6.เมื่อมีเกิดมีดับประทับจิต
ไม่ยึดติดคิดกังวลปนกังขา
เกิดมาแล้วก็ต้องตายวายชีวา
เพียงหวังว่าให้เร็วหน่อยจะคอยดู

ปัญหาของรัฐบาลไฮแจ๊ค

โพสต์เมื่อ : 2008-12-25 19:04:06 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ของรัฐบาลนี้คือ มารดาทั่นคิดว่ากรูแน่ กรูเก่ง
ทุกตัว โดยเฉพาะสส.พรรคแมลงสาบ การที่เย่อหยิ่ง ฮึกเหิม
ว่าเก่งทุกตัว มีความรู้ด้านภาษาต่างประเทศมากทุกตัว

ดังจะเห็นได้จากการที่นายกฯต้องปราศรัยเป็นภาษาอังกฤษ
ในวันที่ได้รับตำแหน่ง ไม่ทราบว่าใครสั่งใครสอน ช่าง
งี่เง่า และทุเรศสุดจะทน การปราศรัยเป็นภาษาอังกฤษ
ทำไปทำไม เราไม่ใช่เมืองขึ้นฝรั่ง คุยนักหนาว่าไม่เคยเป็น
เมืองขึ้นใคร แต่เพราะมีนายกฯ เป็นมะม่วงจำบ่ม
จึงไม่รู้ทำเนียมปฏิบัติ นึกแต่จะอวดตัวว่าเป็นนายกฯที่พูดภาษาอังกฤษได้
จึงได้ทำการเสร่อ ปราศรัยเป็นภาษาอังกฤษ โคตรเหง้าศักราช
ไม่เคยสอนสั่ง ประเทศไทยเป็นประเทศเอกราช มีภาษาไทยเป็นภาษาราชการ

การขึ้นรับตำแหน่ง จึงต้องพูดเป็นภาษาไทย ผู้สื่อข่าวต่างประเทศส่วนใหญ่
อยู่เมืองไทยมานานแล้ว และบางส่วนก็เป็นลูกจ้างคนไทยนี่แหละจึง สามารถไปแปล
ได้เอง ไม่ต้องโชว์โง่ด้วยการกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ การพูดและเข้าใจภาษาอังกฤษได้
เป็นข้อดี แต่ไม่ต้องเอามาใช้ในเวลาที่เป็นทางการอย่างนี้ เอาไว้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว
ก็พอ สมัยนายกฯคนก่อนๆ เช่นคุณสมัครก็พูดภาษาอังกฤษได้ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวได้
แต่ก็ไม่เคยได้ยินว่าคุณสมัครต้องปราศรัยหรือแถลงข่าวเป็นภาษาอังกฤษ

การอวดฉลาดอย่างโง่จึงเป็นสันดานของคนในพรรคนี้ ที่คิดว่าตัวเก่งภาษา
เมื่อผู้สื่อข่าว จ่อไมค์ มาจึงไม่เคยพลาดที่จะงับ แล้วโชว์โง่ ที่เห็นก็มีสองตัว
แล้วที่ก่อให้เกิดปัญหา คือ ไอ้กสัตว์ และไอ้เจริญ ที่ให้สัมภาษณ์ นักข่าว
ต่างประเทศ แล้วเกิดปัญหาตามมา สิ่งที่คนเหล่านี้ทำคืออะไร นอกจาก
จะไม่รับผิดแล้วยังไปโยนกลองว่าผู้สื่อข่าวเข้าใจผิด ตีความผิด ซึ่งทุเรศมาก
สมัยนี้การสัมภาษณ์ คงไม่มีจดด้วยมือเปล่าอีกแล้ว ร้อยทั้งร้อย เขาต้องมี
การอัดเทปทั้งสิ้น หากผู้สื่อข่าวเหล่านั้น เอามาเปิดแฉ จะเสียหน้ากันอีก
ต่อหนึ่งหรือเปล่า การโยนกลองไปว่าเป็นความผิดพลาดทางภาษา
เป็นการเข้าใจกันผิด ไม่ใช่ข้อแก้ตัว เพราะเป็นความผิดของตนแท้ๆ
ที่พูดอย่างไรให้เขาเข้าใจผิด แล้วไปเขียนสื่ออกมาอย่างนั้น นั่นก็แสดงว่า
ภาษาของตนนั่นแหละมีปัญหา

หยุด งับไมค์อวดฉลาดกันได้หรือยัง ไม่ใช่ว่าจะต้องตอบตลอดเวลา
แล้วมาแก้ตัวเป็นพัลวัน หากจะแถลงข่าวก็จัดทำให้เป็นเรื่องเป็นราว
สั่งคนในพรรคของตัวเองบ้างว่า ให้หุบปากเสียบ้าง อย่าเที่ยวได้
โชว์โง่บ่อยนัก ประเทศยิ่งบอบช้ำจากความเชื่อถือ ก็ยิ่งจะดิ่งลงเหว
แก้ตัวบ่อยๆ เขาได้ไปเขียนกันแน่ว่าประเทศนี้ มารดาทั่นไม่เคย
ยอมรับว่าตัวเองพูดสักอย่าง อย่าลืมว่า นักข่าวไทยจากสื่อเท่านั้นแหละ
ที่เขาจะยอมซูฮกให้ แต่สื่อนอกน่ะ มันไม่เกรงใจหรอก ก็เห็นๆอยู่ว่า
พวกเขาเห็นอย่างไร คิดอย่างไร ก็เสนอไปอย่างนั้น เขาเคยเกรงใจกันไหมล่ะ
ยังไม่เข็ดกันอีก ควายน่ะมันสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้แล้ว เหลืออยู่แต่ในประเทศ
ไม่กี่ตัวหรอกที่จะเชื่อฟังคำแก้ตัวของพวกแกน่ะ

ป้าแปะขอเสนอบทความจากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้

โพสต์เมื่อ : 2008-12-25 15:10:27 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


เก่านะคะ ของวันที่ 23 ธันวา แต่ตั้งใจว่าจะไม่เอาลงทันที
เพราะเห็นว่า เป็นหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวที่ยังหาสาระอ่านได้
ไม่ระคายใจ หากเอามาลงแบบทันที เกรงคนจะติดใจ ไม่ไปซื้ออ่าน
เดี๋ยวหนังสือเขาเจ๊งไป เลยอดรับรู้ข่าวสารเลย เชียร์แบบไม่ได้อะไรนะคะ
วันที่ไปที่วัดสวนแก้ว เลยบอกรับเป็นสมาชิก เขาส่งให้ถึงบ้าน
แม้จะสายไปหน่อย แต่เผอิญเป็นคนไม่ได้ ออกไปทำงานเลยรอได้
แต่คนที่ออกไปแต่เช้าเห็นท่าจะมีปัญหาหน่อย ว่าจะโทร. ไปต่อว่าอยู่เหมือนกัน
ให้เบอร์ไว้แล้วกันนะคะ เผื่อใครอยากอ่านบ้าง 02422-8338 เอสเอ็มเอสข่าว
ก็มีนะคะ เผื่อเบื่อประชาทรรศน์ รับของโลกวันนี้ก็ได้ ราคาเดือนละ 30บาทเอง
มิหนำซ้ำให้ฟังฟรีตั้ง30วัน โทร.ไปที่นี่เลยค่ะ *48998981001 ทั้สองระบบนะคะ
ส่วนของทรู ต้องพิมพ์ N แล้วส่งไปที่ 4899898


ภาพบรรยายแทนได้นับหมื่นคำ

[img]http://203.146.170.49/file/a9e9f5bb1be91b2b4b3d87439eee13d0/495727e6/dev18/0/005/894/0005894694.fid/25-12-2008.original.1230178376_91771.png?image/png[/img]

ขอบคุณคุณบ้าหอบฟางที่ป้าไปจิ๊กรูปมาจากห้องโน้น

ลองดูหน้านักบอลเถิดค่ะ แล้วคิดเหมือนที่ป้าคิดหรือเปล่า



แล้วมาดูภาพนี้กัน บอกอะไรได้อีกตั้งหลายอย่าง เสียดายป้าไม่มีภาพคุณทักษิณ
จับมือนักบอลมาแสดง ชมภาพเหล่านี้แทนก็แล้วกันค่ะ



ฟังเพลงจูงกะเบนกัน

แปลกมั้กมาก ตั้งกระทู้โพสท์เสร็จสรรพ หายวับไปกับตา
โชคดีที่โคว์ต้าไม่ได้หายไปด้วย มีเคืองนะเนี่ย หาเพลงเกือบตาย
เขาว่าเพลงนี้เป็นเพลงบังคับต้องฟังช่วงนี้ แก้เซ็งกับรัฐบาลผู้ก่อการร้าย
ป้าเลยนำแต่ทำนองมาให้เผื่อใครมีเนื้อร้องภาษาไทย กรุณานำมาแจกด้วยนะคะ

โจงกระเบน

ส่วนเพลงที่มีเนื้อร้องภาษาาปะกิตเป็นอย่างนี้ค่ะ Jingle Bells

นำเนื้อร้องมาลงให้ด้วย เดี๋ยวจะมาอ้างว่าฟังผิด

Oh, jingle bells, jingle bells
Jingle all the way
Oh, what fun it is to ride
In a one horse open sleigh
Jingle bells, jingle bells
Jingle all the way
Oh, what fun it is to ride
In a one horse open sleigh

A day or two ago
I thought I'd take a ride
And soon Miss Fanny Bright
Was seated by my side
The horse was lean and lank
Misfortune seemed his lot
We got into a drifted bank
And then we got upsot

Oh, jingle bells, jingle bells
Jingle all the way
Oh, what fun it is to ride
In a one horse open sleigh
Jingle bells, jingle bells
Jingle all the way
Oh, what fun it is to ride
In a one horse open sleigh yeah

Jingle bells, jingle bells
Jingle all the way
Oh, what fun it is to ride
In a one horse open sleigh
Jingle bells, jingle bells
Jingle all the way
Oh, what fun it is to ride
In a one horse open sleigh

เขาว่าเนื้อร้องเพลงนี้มีรหัสลับด้วย แต่คาดว่าเพราะมันเก่าแล้ว
คงถูกหลอกกันไปหลายคนแล้ว เลยไม่ได้นำมาให้ดู แค่มีรัฐบาลหลอกลวง
ก็เซ็งจะแย่อยู่แล้ว อย่าต้องให้ฝรั่งมาหลอกอีกเลยจริงไหมคะ

ขอบคุณ เวปที่ป้าไปจิ๊ก เพลงมา แหมแค่นี้เล็กน้อย ขโมยอำนาจบริหารเขายังทำ
เลยไปเจอเพลงเก๊าเก่าอีกเพลง ทำให้คิดถึงอีกแล้วน่ะสิคะ ขอนำเสนอแล้วกัน

เพราะเธอหรือเปล่า ของ ดิ อินโนเซนส์ นะคะ
รับรองเกิดไม่ทันกันหลายคนอิ๊อิ๊

We wish you a Merry Christmas and a Happy New Year!

ฟังเพลงแก้เซ็งกันดีกว่าค่ะ

We wish you a Merry Christmas and a Happy New Year!


เพิ่มอีกเพลงนะคะ ล่วงหน้าหน่อย แต่เห็นห้องเงี้ยบเงียบ
ฟังเพลงเพราะๆกันดีกว่า

What Are You Doing New Year's Eve Capenters

เพลงนี้มอบให้คุณทักษิณค่ะ
IT WON'T SEEM LIKE CHRISTMAS (WITHOUT YOU) ELVIS PRESLEY

แถมอีกเพลง BLUE CHRISTMAS Celine Dion

และอีกหนึ่งเพลงสำหรับคุณทักษิณค่ะ
แต่จริงๆไม่ต้องกลับมาก็ได้ เพราะท่านอยู่ในใจเสมออยู่แล้วน่ะสิคะ

PLEASE COME HOME FOR CHRISTMAS

หน้าด้าน!!!!!!

โพสต์เมื่อ : 2008-12-24 10:30:02 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


"กษิต"กราบขอโทษ ปชช.หลังโดนรุมยำพูดเรื่องพันธมิตรฯยึดสนามบินสนุกดี
ฝ่ายค้านจองกฐินซักฟอก


"กษิต ภิรมย์" กราบขอโทษประชาชน ถ้าพูดให้เข้าใจผิดเรื่องยึดสนามบินเป็นเรื่องสนุก
รมต.สำนักนายกฯ รับ ครม.ห่วงคำพูดรมว.ต่างประเทศ นายกฯ ออกตัวแทน
แค่ให้ข้อมูลข่าวสาร ยันรมต.ทุกคนต้องยึดนโยบาย "สมานฉันท์" ฝ่ายค้านจองกฐินซักฟอก

รมว.ต่างประเทศกราบขอโทษ ปชช.-อ้างไม่ได้มุ่งร้ายต่อประเทศ



เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 24 ธันวาคม นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงวันแกร หลังจากสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมพระยาเทววงศ์
วโรปกรณ์


จากนั้นให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่า ได้พูดว่า การที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ยึดสนามบินสุวรรณภูมิสนุกมาก อาหารดี ดนตรีไพเราะว่า ต้องแบ่งชีวิตเป็น 2 ช่วง
ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคมที่เข้ามาเป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของคณะรัฐมนตรีที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เป็นนายกรัฐมนตรี การดำเนินงานและการปฏิบัติตัวต้องอยู่ในกรอบ ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์
ซึ่งมื่อวันที่ 23 ธันวาคมมีการวางนโนยบาย 9 มาตรการว่า จะประพฤติตนอย่างไรในฐานะรัฐมนตรี
ก็จะทำตามหลักการที่ได้วางไว้ และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด


นายกษิตกล่าวว่า ส่วนชีวิตก่อนวันที่ 22 ธันวาคม เป็นชีวิตอีกช่วงหนึ่ง การพูดจาอะไรที่ผ่านมา
ก็ ไม่ได้จะไปลบล้างมัน แต่ที่จะมีการตีความหรือมีความเข้าใจที่แตกต่างกันไปและอาจมีการหยิบยกบาง ประโยคที่ต่อเนื่องกันทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสิ่งที่ตนพูดหรือเจตนาที่จะ พูด แต่ทั้งหมดขอยืนยันว่า
ไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรโดยตลอดมานั้น เพื่อคสวามเป็นประชาธิปไตยของสังคมไทยเพื่อการเมืองที่มีคุณธรรมและจริยธรรม และตนก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้จรรโลงความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทยและต่อสู้ เพื่อสังคมประชาธิปไตยที่โปร่งใส


หน้าด้านสุดทน หากไม่ได้พูด จะกราบขอโทษทำไม หากไม่ได้พูด
เขาจะเอาไปลงได้ไง คิดอยู่นานกว่าจะนึกออกหรือไง ว่าออกมาแก้ตัวด่าสื่อนอกว่าเขาเข้าใจผิด
เอาเถอะหากเขาเข้าใจผิดเพราะคำพูดของแก แกก็ต้องพิจารณาตัวอยู่ดี เป็นรมต.ต่างประเทศ
แต่พูดอย่างไร ให้สื่อนอก เขาเข้าใจผิดได้ขนาดนั้น หน้าด้าน!!!



" ต้องกราบขอโทษประชาชนชาวไทยทั้งหมด หากผมพูดอะไรที่ทำใหเเข้าใจผิดหรือมีการตีความ แต่เจตนาที่จะมุ่งร้ายหรือทำความเสื่อมเสียให้ประเทศไทยเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะประวัติการทำงานและสิ่งท่ผมพูดในที่แจ้งตลอดมา ทุกคนได้หฟังกันทั่วประเทศ"นายกษิตกล่าว


ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่าหรือไม่ว่า ไม่ได้พูดขอ้ความอย่างที่เป็นข่าว นายกษิต ไม่ตอบแต่พยักหน้า เมื่อถามย้ำเรื่องเดิมอีกครั้ง นายกษิตกล่าวเพียงว่า ถูกต้อง


เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านพุ่งเป้าจะอภิปรายการทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายกษิตกล่าวว่า ไม่เป็นไร พร้อมรับทำหน้าที่


เมื่อถามว่า คิดว่าคำพูดของรัฐมนตรีจะกระทบเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายกษิต กล่วว่า ก็มีคนพูดกันเยอะแยะ

แต่ที่เลวร้ายกว่าคือ ไอ้นี่
สื่อตปท.ตีข่าว"อภิสิทธิ์"ปกป้องคำพูด"กษิต"

สื่อ ตปท.ตีข่าวนายกฯอภิสิทธิ์ปกป้องรมว. ต่างประเทศ กรณีให้สัมภาษณ์ฉาว บอกพูดก่อนได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง โบ้ยสื่อตีข่าวมั่วเองหาสนับสนุนยึดสนามบิน

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย ได้กล่าวปกป้องต่อกรณีนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศไทย กล่าวถึงกรณีสื่อต่างประเทศประโคมข่าวกรณีทูตและผู้สื่อข่าวต่างประเทศกล่าว ว่า เหตุการณ์ยึดสนามบิน 2 แห่งของไทยเป็นเรื่องสนุกมาก ระบุว่า ทัศนะดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่นายกษิตยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง รับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ และว่าสื่อได้นำคำพูดของเขาไปตีความอย่างไม่ถูกต้อง โดยเขาเพียงต้องการจะสื่อสารว่า เหตุการณ์ทั้งสองไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่สื่อกลับไปรายงานทำนองว่า เขาสนับสนุนการยึดสนามบิน



รายงาน ระบุว่า ภายหลังได้รับการสรุปจากนายกรัฐมนตรี นายกษิตกล่าวขออภัยต่อผู้สื่อข่าวว่า เขาคงปฎิเสธที่เขาพูดไม่ได้ แต่อาจจะมีตีความหมายคำพูดของเขาผิดไป และเขาสามารถยืนยันได้ว่าทุกอย่างที่เขาพูดหรือทำเป็นไปเพื่อทำให้ ประชาธิปไตยของประเทศดีขึ้น และเขาต้องการขอโทษคนไทยทุกคน แต่รับประกันได้ว่า เขาไม่มีเจตนาร้าย หรือต้องการจะทำร้ายประเทศชาติ


ก็บอกแล้วไงจะพูดก่อนหรือหลังรับราชโองการ มันไม่สำคัญ
เพราะฝรั่งมันไม่ได้สนใจพิธีกรรมของไทย ความสำคัญมันอยู่ที่ว่า
เป็นเพราะไอ้บ้าเนี่ยได้รับการแต่งตั้งเป็นรมต.กต. นักข่าวถึงได้ไปสัมภาษณ์
ถ้ามันยังเป็นโจรผู้ก่อการร้ายอยู่ใครเขาจะไปสัมภาษณ์ จริงไหม

แล้วไอ้เด็กเวรก็ยังมาปกป้อง ใช้ภาษาห่าเหว ตะหวักตะบวย "บริบท"
แก้ตัวให้อยู่อีก เมิงจะเล่นคำทำไมวะ พูดภาษาคนไม่ต้องแสดงลิเกไม่เป็นหรือไง
นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ถึงกรณีการให้ความเห็นกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยึดสนามบิน ของนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ว่า ไม่แน่ใจว่า นายกษิตตอบคำถามในบริบทใด แต่ตนได้ให้นโยบายแก่คณะรัฐมนตรี 9 ข้อแล้วว่า การแสดงความคิดเห็นของรัฐมนตรีแต่ละคน ต้องคำนึงถึงนโยบายและจุดยืนของรัฐบาลด้วย

โพสต์เมื่อ : 2008-12-24 08:17:26 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


24 ธันวา แล้วนะคะ เขาว่าคืนนี้แหละค่ะ ซานต้าจะมา อย่าลืมแขวนถุงเท้ากันไว้ล่ะ
แต่โชคร้ายซาตานมาเยี่ยมเสียก่อนแล้ว แต่อย่างไรก็ฟังเพลงเพราะๆแก้เซ็งไปก่อนแล้วกัน
ให้บังเอิญไปเจอเนื้อร้องใหม่ของเพลงนี้เสียด้วย ใครจะร้องครางตามไปก็ไม่ผิดนะคะ
ด้วยเนื้อใหม่นี้ คงปลอบใจได้บ้างอิ๊อิ๊

Santa Claus Is Coming To Town

You'd better watch out
You'd better not cry
You'd better keep cash
I'm telling you why:
Recession is coming to town.

It's hitting you once
It's hitting you twice
It doesn't care if you've been careful and wise
Recession is coming to town.

It's worthless if you've got shares
It's worthless if you've got bonds
It's safe when you've got cash in hand
So keep cash for goodness sake, HEY

You'd better watch out
You'd better not cry
You'd better keep cash
I'm telling you why:
Recession is coming to town!

Finance products are confusing
Finance products are so vague
The banks make you bear the cost of risk
So keep out for goodness sake, OH

You'd better watch out
You'd better not cry
You'd better keep cash
I'm telling you why:
Recession is coming to town.

คนไทยคงลืมช่วงข้าวยากหมากแพงไปหมดแล้ว ปี 40 ก็แค่คนรวยเดือดร้อน
แต่คราวนี้ของจริงที่จะเดือดร้อนกันถ้วนทั่ว การแบ่งปันอาหารอาจกลับมา
เมื่อไม่พอกินก็ต้องแย่งชิง เมื่อนั้นนรกบนดินของแท้ของเกิด

ไอ้พวกที่อาจหาญด่าว่าคนอิสาน ดูถูกเขานักหนาคงได้เจอการปล้นชิง
สมน้ำหน้า แกต้องถูกคนใช้บีบคอตายแน่ๆ

คุยเรื่องปฏิทินกันดีกว่า

โพสต์เมื่อ : 2008-12-23 14:04:31 _ ปิดข้อความ ex-link


อ๊ะ ไม่ใช่ปฏิทินเหล้าอย่างที่หนุ่มๆแก่ๆเฝ้าคอยทุกปี แต่เป็นปฏิทินฟรีที่เขาแจกกันทุกปีต่างหาก
ปีนี้ป้าได้มาสองเจ้า แปลกมั้กมาก หนึ่งอันมาจาก เครือธนาคารกสิกรไทย ปฏิทินตั้งโต๊ะ ถูกส่ง
มาทางไปรษณีย์ ที่น่าแปลกคือ ปีนี้ กสิกร ทำปฏิทินแบบไม่มีรูป ขอย้ำ ไม่มีรูป ไม่มีรูปใดๆเลยแม้แต่น้อย
มีแต่ตัวเลขโดดๆ เหมือนปฏิทินจีนที่เขาติดตามร้านอย่างนั้นเลย พลิกดูด้านหน้าด้านหลัง หารูปไม่เจอ

อิ๊อิ๊ ดีใจได้ปฏิทินตั้งโต๊ะ เสียที เมื่อก่อนไม่กล้าเอามาตั้งเดี๋ยวนี้มีแต่ตัวเลข เลยดูได้ชัดเจนขึ้น
เอ มันเป็นเพราะไรหว่า สงสัยเศรษฐกิจคงไม่ดีจริงๆ เพราะ การพิมพ์สี่สีมันคงแพง
แม้เคยพิมพ์เป็นสีซีเปีย ปีนี้ก็ยังไม่แจก หรือค่าลิขสิทธิ์มันแพงขึ้นหว่า อิ๊อิ๊

ส่วนอีกอันมาจาก บล. พัฒนสิน อันนี้มีรูปสี แต่เป็นรูปวิว แล้วก็เล็กมากๆ เน้นไปที่
ตัวเลขอย่างเดียวอีกแล้ว ใครได้ปฏิทินอะไรมาเล่าสู่กันฟังบ้างดีกว่า แล้วสำรวจเศรษฐกิจ
ประเทศจากปฏิทินนี่แหละ อย่าลืมนะคะ เข้ามาโชว์กันหน่อย

แมลงสาบชี้แจงหน่อย

โพสต์เมื่อ : 2008-12-23 09:08:03 _ ปิดข้อความ ex-link


การส่งเอสเอ็มเอสไปประกาศศักดาน่ะ แล้วยังขอให้ชาวบ้านเขากด
ตอบรับโดยส่งรหัสไปรษณีย์กลับไปน่ะ เรื่องกฎหมายไม่ต้องห่วง

เขาว่ามีคนไปดำเนินการแล้วหลายข้อ ทั้งผิดข้อรับของเกิน3000บาท
ทั้งผิดเรื่องละเมิด แต่ที่ฉันสงสัยน่ะ คือ ช่วยบอกหน่อยว่ามีคนตอบรับไปสักกี่คน
ส่งไปจริงกี่คน เขาว่ามียอดถึง 30 ล้านหมายเลขเชียวนา แล้วตอบกลับไปกี่คนน่ะ อยากรู้
แถลงด้วยนา จะมาทำงุบงิบหนีความผิดไม่ได้นา

เสียดายที่บางคนลบไปทันที เพราะเขาว่าเอามาใช้เป็นใบเสร็จยืนยันความผิดได้
ฉันน่ะไม่ได้รับ จะว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายไม่ทราบ เพราะตั้งใจแล้วว่าหากได้
จะเอาเรื่องจนถึงที่สุด แต่คนที่กดตอบไป หลักฐานคงยังมีอยู่ อย่าเพิ่งลบทิ้งนะคะ
ใช้เอาผิดมันได้ ก็นับว่าคุ้ม แสนคุ้ม

นสพ.โลกวันนี้เขาว่า
งานนี้หวังผลทางการเมืองล้วนๆ
ถ้าองค์กรที่ตัดสินเป็นกลางและเป็นธรรม(จริงๆ) นายหัวดีว่า "พระเอกมาร์ค"
งานเข้าเสียแล้ว อาจมาแรงและไปเร็วกว่าที่หลายคนคาดคิดไว้ก็ได้


แต่ที่สำคัญ คือ องค์กรที่ตัดสินมันเอียงเห็นๆกันอยู่ แล้วประเทศนี้จะหวังพึ่งอะไรได้

อายจังเลยที่ต้องเสนอบทความนี้

โพสต์เมื่อ : 2008-12-22 13:58:00 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


ขออนุญาตไม่แปลนะคะ เพราะแค่คำที่มัน(ไอ้กะสัตว์ เอ๊ยสะกดผิด)
มันใช้ว่า fun ก็ไม่รู้ว่ามันจะหมายความว่าอะไรจริงๆ สงสัยเหลือเกิน
ว่ามันตั้งใจจะหมายความว่าอะไร แต่ป้าอายจัง คนหกสิบกว่าล้านคน ตัดไพร่กฎุมพี
ออกไปสัก หกสิบล้านคน คนที่เป็นศักดินาเต็มตัวก็คงมีอย่างน้อยก็น่าจะเป็นร้อยคน
ที่จะคัดตัวมาเป็นรมต. ดันไปเอาไอ้ขี้ฑูตปากสุนัขมาทำหน้าที่อันทรงเกียรติ
ก็ไม่รู้ว่าจะพูดว่าอะไรอีก


Bangkok airport protests were fun, says Thailand's new foreign minister
Thailand's new foreign minister has described last month's hijacking of Bangkok's main international airport as "a lot of fun".


By Thomas Bell in Bangkok
Last Updated: 8:09PM GMT 21 Dec 2008

Kasit Piromya, 64, will be sworn in on Monday as Thailand's new foreign minister. His job of rebuilding Thailand's battered international image will not be helped by the fact that he was a prominent supporter of the protests, and still is.

More than 350, 000 travellers were stranded three weeks ago when a few thousand demonstrators from the ultraroyalist People's Alliance for Democracy (PAD) stormed the airport. Investor confidence has been badly shaken and analysts say that lost tourism business could cost 1 million jobs.

But Mr Kasit told an audience of astonished diplomats and foreign journalists on Friday that the protests were "a lot of fun".

"The food was excellent, the music was excellent," he explained.

The PAD accused the then government of corruption over its links with the exiled former prime minister Thaksin Shinawatra. Although the government was elected only a year earlier, many people in Bangkok's middle class and the old elite find Mr Thaksin's influence in politics completely unacceptable.

Mr Kasit was a regular speaker at the protests, which helped bring the pro-Thaksin government down. His Democrat Party has now formed a new coalition, although they were defeated in each of three general elections held so far this decade.

"Look at it [the PAD protests] as pushing the process of democratisation forward," suggested Mr Kasit.

Many observers believe that the PAD was able to conduct its protest with impunity, and help topple an electorally popular administration, because it enjoys backing from powerful anti-Thaksin elements in the army and the royal palace.

The army is responsible for airport security but did nothing to prevent demonstrators from hijacking one of Asia's most important aviation hubs.

It is widely reported that senior army figures were instrumental in persuading MPs to switch sides to the new coalition. Asked what role the army played in bringing his party to power Mr Kasit said, "I don't know".

The new prime minister, Abhisit Vejjajiva, has promised to bring the PAD to justice. Yet, besides his pick for foreign minister being a prominent supporter of the group, one of PAD's top leaders is a prominent MP in Abhisit's Democrat party.

Dr Pasuk Phongpaicit of Bangkok's Chulalongkorn university said, "It can't be denied that the PAD was instrumental in bringing the Democrats to government. So I think we are going to be disappointed with what this government will do about enforcing the rule of law with respect to the PAD and its activities." Foreign Minister Kasit berated Western diplomats and the foreign media for not being more sympathetic to the PAD's cause.

"You should be happy that for the first time ordinary people came out in full force to oppose corruption," he said. "If society has to be changed it has a price." The PAD employed "security guards" armed with clubs, guns and explosives but Mr Kasit criticised foreigners for dwelling on the movement's violent tendencies.

"People said we were armed," he complained. "My wife used to go every evening. What was she armed with? Only food and medicine!"


ป้าขอสารภาพนะคะ เข้าใจผิดว่ากสัตว์เป็นพันธมิตร จึงต้องยกตำแหน่งตอบแทน
ที่แท้กสัตว์เป็นสมาชิกโดยตรงของแมลงสาบ อันจะเห็นได้จากว่าเขา
มีตำแหน่งเป็นรองนายกฯเงาในรัฐบาลชุดที่แล้ว ฉนั้นการที่ต้องบอกว่า
กลุ่มพันธมิตรมีชื่อเต็มว่า พันธมิตรเพื่อประชาธิปัตย์ จึงจะถูกต้อง
เพราะมีสมาชิกพรรคหลายคนได้ไปขึ้นเวทีของพันธมิตร จึงเรียกได้ว่าประชาธิปัตย์นั่นเอง
ที่เป็นกลุ่มที่สนับสนุนกลุ่มนี้ เขาเป็นพวกเดียวกัน ไม่ได้ยกตำแหน่งตอบแทนแต่ประการใด

ประกาศตามหาลูกศิษย์ของอภิสิทธิ์

โพสต์เมื่อ : 2008-12-22 14:58:56 _ ปิดข้อความ ex-link


เห็นเคยเรียกกันว่าอาจารย์ เลยอยากทราบว่าเคยสอนหนังสือหนังหาอยู่ที่ไหน
เพราะเท่าที่ทราบว่าเคยไปสมัครเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนนายร้อยฯ ก็ลามันเสีย
สองร้อยกว่าวัน ไม่เคยไปสอน แล้วก็ลาออก

แล้วทำไมสื่อยังเรียกว่าเป็นอาจารย์อยู่ หรือว่ามา-รก เคยเป็นครูสอนทำผม
เพราะแบบนั้นเขากเรียกว่าอาจารย์ เอ หรือจะเคยเป็นคนใบ้หวย นั่นก็อาจารย์
หรือว่าเป็นหมอดู ทำพิธิทางไสยศาสตร์

เอาเถอะจะเป็นอาจารย์ทางไหนก็ช่าง อยากให้ลูกศิษย์ลูกหา แสดงตัวกันหน่อย
แหมอดีตอาจารย์ได้ดิบได้ดี ไม่เข้ามาแสดงความยินดีกันหน่อยหรือ ยายเนียมก็มาแล้ว
ขอลูกศิษย์อีกหน่อยเถอะน่า จะได้สมบูรณ์ เพอร์เฟ็ก เพรียบพร้อม มีทั้งคนเคยสอน
ก็น่าจะมีคนเคยเรียนมาบ้างล่ะน่า ถ้าไม่มี เดี๋ยวคนเขาจะว่าเอาได้นะ ว่าปลิ้นปล้อน
อาศัยบารมีเมียที่เป็นอาจารย์ เลยตีขลุมว่าเป็นอาจารย์เหมือนกัน ฮิ้ววววววววววววววว

รัฐบาลห้อยโหน อยู่ได้สองปี...ฟันธง!!!

โพสต์เมื่อ : 2008-12-22 13:10:38 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


ฟังคุณคฑาวุธ เขาทำนาย คือ แถลงนโยบายวันที่ 29 ธันวา 51
พอต้นปี52 ก็ไป รวมแล้วอยู่ได้ สองปี คือปี 51 กะ 52 กร๊าก!!!!!!

เหอๆ แล้วจะแก้ตัวอย่างไรเนี่ย

โพสต์เมื่อ : 2008-12-22 11:24:43 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


ชวรัตน์เซ็นคำสั่งให้พัชรวาทนั่งผบ.ตร.ตามเดิม-ผบ.ทัพยินดีประวิตรนั่งกห.


ร่วมกตัญญูจริงๆ

วิเคราะห์ข่าวโดยป้าแปะ ประจำวันที่ 22ธค. 51

"สุเทพ"รับโชว์สเต็ปงานเลี้ยงปชป.

วัน ที่ 21 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจัดสัมมนาสมาชิกและคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ครั้งที่ 4/2551 "ทางออกวิกฤตชาติ" ที่ โรงแรมอิมพีเรียล โบทเฮ้าส์ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ช่วงวันที่ 19-20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าในงานเลี้ยงค่ำวันที่ 19 ธ.ค. ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมคิว ซิกเนเจอร์สมุย สมาชิกพรรคและรัฐมนตรี ต่างสังสรรค์เฮฮากันอย่างเต็มที่ สนุกกับการร้องเพลงคาราโอเกะและจิบไวน์แดง โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว. คลัง รองหัวหน้าพรรค นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรค ได้ขึ้นไปร้องเพลงและโชว์ลีลาเท้าไฟบนเวทีอย่างสุดเหวี่ยง ก่อนจะมาสนุกกันต่อที่เร้กเก้ผับ หาดเฉวงจนเกือบถึงเช้า

เหอๆ "ทางออกวิกฤตชาติ" มันต้องอย่างนี้ ไปประชุมกันมันจะไปคิดออกได้อย่างไร
มันต้องอย่างนี้สุดเหวี่ยงไปเล้ย อดแห้งอดแล้งมาตั้งแปดปี


ผู้สื่อข่าว รายงานว่า พฤติกรรม ที่เกิดขึ้นทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ไม่ สบายใจและกล่าวตอนหนึ่งระหว่างการสัมมนาเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ว่า ขอให้ส.ส.อย่ามัวดีใจไปจัดเลี้ยงฉลองการได้เป็นรัฐบาล ขอให้คำนึงถึงเศรษฐกิจพอเพียง ประเภทสั่งดอกไม้จากต่างประเทศให้เลิกได้แล้ว พวกส.ส.ตัวเล็กที่ไปจัดเลี้ยงแล้วขึ้นไปเต้นบนเวทีก็ไม่เป็นไร แต่พวก ส.ส.ตัวใหญ่ๆ ที่เป็นถึงรัฐมนตรี มันไม่เหมาะสมเพราะงานหนักกำลังรอเราอยู่

เพิ่งได้รับรายงานล่ะสิท่า ทำไม้ทำไม ไม่เตือนไม่บอกกันเสียก่อน

นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ว่า เป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ของพรรคที่เกาะสมุย ไม่ใช่งานเลี้ยงในผับตามที่เป็นข่าว โดยเป็นงานเลี้ยงสัมมนาในช่วงเย็น มีการร้องเพลงและมีคนขอให้ตนออกไปเต้น ตนก็ไปเต้น เป็นธรรมดา ไม่ได้มีอะไร ส่วนที่นายชวน ติงนั้นก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ใช่ไปเฉลิมฉลองกัน บอกแล้วไงไม่ใช่การเฉลิมฉลอง เป็นการสัมนา บ๊ะ ไอ้แก่นี่ ไม่เข้าใจอะไรบ้างเลย
ไม่รู้หรือว่าพรรคนี้ใครใหญ่ แกเป็นใคร ขนาด ทั่นนายกฯยังไม่กล้าตำหนิเลย!!!
และครั้งนี้มีสื่อมวลชนไปด้วย ซึ่งทุกคนก็เห็นแต่ไม่เป็นไร ไม่เป็นปัญหา ถ้าเป็นฝ่ายค้านออกมาเต้นอย่างนี้ก็ไม่เป็นไร


แต่ข่าวนี้เด็ดสุด กะว่าจะไม่ดูข่าวเสียแล้วชาตินี้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
ที่ไหนได้ จับพลัดจับผลู แว่บไปเห็นข่าวนี้ในทีวี เลยต้องรีบมาหาข่าวเสนอเพื่อนฝูง
เพราะไม่เชื่อหูว่าจะได้ยินว่าออกมาจากปากไอ้มะม่วงจำบ่ม ไอ้หน้าด้าน ไอ้โจรวิ่งราวตำแหน่ง
ไอ้โจรก่อการร้าย ว้าย! ใส่ตำแหน่งยาวไปหรือเปล่าไม่ทราบ แต่พอเจอข่าวนี้ ทนไม่ไหว
เลยต้องเรียกตำแหน่งให้ครบ เกือบลืม อีกตำแหน่ง นายกฯสมาคมตอแหลแห่งชาติ


"มาร์ค"ย้ำครม.ขี้เหร่เพื่อเสถียรภาพ

ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิจารณ์คณะรัฐมนตรี(ครม.)ชุดใหม่ว่า การวิจารณ์เป็นเรื่องปกติ ตนเคยอธิบายถึงความจำเป็นต่างๆไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่ต้องการให้การแก้ไขเศรษฐกิจเป็นเรื่องเร่งด่วน ตน น้อมรับทุกคำวิจารณ์ และจะทำงานบนความซื่อสัตย์ สุจริต ตระหนักถึงสภาพวิกฤตของประเทศ ซึ่งจะต้องมีเสถียรภาพทางการเมืองถึงจะเดินหน้าทำงานได้ทันที

" ผม ได้คุยกับภาคธุรกิจมาก่อนหน้านี้แล้ว และแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างตรงไปตรงมา ตนอยากทำงานในลักษณะที่มีการสื่อสารตรงไปตรงมากับประชาชน มีปัญหาก็รายงานให้ทราบ จะให้เหตุผลและรับฟัง อะไรที่เป็นความห่วงใยที่สะท้อนผ่านคำวิจารณ์มา จะดูแลอย่างเต็มที่ อย่างรัฐมนตรีบางคนถูกตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีประสบการณ์นั้น เอ่อ เรื่องนี้ไม่เห็นแปลก ผมเองก็ไม่มีครับ ไอ้ประสบการณ์น่ะ ฮา ผมได้บอกกับรัฐมนตรีเหล่านั้นให้จัดทีมงานให้เกิดความเชื่อมั่น ส่วนที่มีข้อคลางแคลงใจว่าจะมีคนเข้ามาหาผลประโยชน์นั้น ยืนยันว่าเรื่องนี้ผมไม่ยอมแน่นอน แต่ผมเข้าใจดี หลายคนไม่สมหวังกับเรื่องครม. แต่เมื่อจะต้องจัดรัฐบาลให้มีความมั่นคงก็ต้องจัดให้สามารถผลักดันนโยบายให้ ได้ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุด" อ้าว การจัดคณะรมต.นี่ไม่ได้ดูที่ผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญนิ แต่กะจะเอาอยู่ยาวเป็นหลัก โธ่เว้ย แล้วคุยนักคุยหนา ไหนด่าเขาเหยงๆว่า จัดรัฐบาลตามโคว์ต้า จัดคณะรมต.แบบแบ่งปันผลประโยชน์ จัดตามนโยบาย ต่างตอบแทน
เลว ไม่ดีไง แป๊บเดียวแกลืมแล้วหรือ ไอ้ฟาย
นายอภิสิทธิ์กล่าว


ไอ้ที่ด่าว่าเขาเวลาอกหัก แกก็เอามาทำเสียหมด แกมันเลวนี่หว่า ไอ้เด็กบ้า

โพสต์เมื่อ : 2008-12-21 23:17:26 _ ปิดข้อความ ex-link แหมคนอกหักเจอกันก็ต้องคุยกันสิคะ ปรับทุกข์ปลอบใจกันไปตามเรื่อง ป้าก็เลยเล่าให้ฟังว่าวัน

โพสต์เมื่อ : 2008-12-21 23:17:26 _ ปิดข้อความ ex-link


แหมคนอกหักเจอกันก็ต้องคุยกันสิคะ ปรับทุกข์ปลอบใจกันไปตามเรื่อง
ป้าก็เลยเล่าให้ฟังว่าวันก่อนมีคนไปตั้งกระทู้ในห้องห้องสังคมฯถามว่า
จากมักกะสันผ่านราชประสงค์จะไปอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยได้อย่างไร

ก็เลยได้คำตอบมาสนุกกว่าที่ห้องโน้นเขาตอบกันอีกค่ะ มีคนเขาบอกว่า
การจะไปโดยเริ่มจากมักกะสันนั้น เริ่มแรกต้องผ่านราชดำริก่อน
แล้วจึงจะไปเจอราชประสงค์ จากราชประสงค์ตรงไป อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ก็ต้องผ่านถนน ลูกหลวง กะหลานหลวง ต่อไปเจอราชดำเนินอีก
ถึงจะถึงอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย เห็นไหมคะมันยุ่งยาก กว่าจะไปถึงได้
เผลอๆจะตายก่อนถึงเสียด้วยซ้ำ คงเป็นเหตุนี้ล่ะกระมัง เราถึงไปไม่ถึงกันสักที
แล้วยิ่งมีโจทย์ว่าต้องเริ่มที่มักกะสันอีก เลยยิ่งยากเข้าไปใหญ่ อิอิ

จริงค่ะ คุณเฮ้อ เมื่อมี มาร์คกระสัน(ตามที่คุณโจรเหนือว่า) มันก็ต้องไปถึงราชประสงค์
แล้วไปเจอ ราชดำริ จึงมีราชปรารภ แล้วรับราชโองการ เอ๊ยไม่ใช่ อิอิ พลาดจนได้
ไปแระ

คิดถึงใจจะขาดแล้วเอย

โพสต์เมื่อ : 2008-12-21 12:20:38 _ ปิดข้อความ ex-link


คิดถึง

"คิดถึงใจจะขาดแล้วเอย
คิดถึงที่เคยได้ชมได้เชยชื่นใจ
คิดถึงรอยยิ้มเพราพริ้มผ่องใส
คิดถึงจนใจจะขาดรอนรอน
.
คิดถึงแต่ดวงหน้าหวานละมุน
คิดถึงความอุ่นที่เคยได้หนุนตักนอน
คิดถึงแต่เสียงกระซิบออนซอน
คิดถึงจนนอนละเมอทุกวัน
.
สัมผัสรัดน้อมอ้อมกอด
ชะอ้อนออดนุ่มนวลชวนให้ฝัน
ยังฝังใจชื่นทั้งคืนทั้งวัน
เราเคยรักกันลืมแล้วหรือดวงใจ
.
คิดถึงใจจะขาดร้าวรอน
คิดถึงความก่อนให้สะท้อนร่ำไป
คิดถึงแต่รสจุมพิตติดใจ
คิดหวนอาลัยไม่รู้ลืม".


เนื้อเพลงโป๊ไปหน่อยนะคะ แต่มันคิดถึงอ้ะ ไม่ต้องบอกก็ทราบนะคะ
ว่าคิดถึงใคร อีกนานแค่ไหนก็จะรอค่ะ


.

แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2008-12-21 12:21:28



โพสต์โดย : ป้าปากเกร็ด
icon
ID # 1472984 - โพสต์เมื่อ : 2008-12-21 12:26:29 _ ปิดข้อความ ex-link


ต่อด้วยอีกเพลงนะคะ เดี๋ยวจะขาดชุดไป คุณโจรเหนือเกิดทันไหมเนี่ย

ฉันยังคอย



โพสต์โดย : yahoo51
icon
ID # 1472991 - โพสต์เมื่อ : 2008-12-21 12:30:30 _ ปิดข้อความ ex-link


หวัดดีคะคุณป้าหนูก็ยังคิดถึงเขาคนนั้นคะที่บินไปก็บินมา
ไอ้คนที่อยู่ทางนี้เหม็นขี้หน้าคะไม่เปิดทีวีดูข่าวเลยคะสบายใจ



โพสต์โดย : Otetoga
ID # 1473011 - โพสต์เมื่อ : 2008-12-21 12:38:36 _ ปิดข้อความ ex-link


เก็บความคิดถึงไว้เป็นพลัง



โพสต์โดย : ป้าปากเกร็ด
icon
ID # 1473185 - โพสต์เมื่อ : 2008-12-21 14:33:31 _ ปิดข้อความ ex-link


มีเพลงมาเพิ่มเติมค่ะ ใหม่ขึ้นมาอีกนิด อันนี้ไม่ใช่ต้นฉบับ
แต่ศรัญญ่าร้องเพราะจับใจเลยนำมาให้ฟังกันค่ะ

ยังคอย



ส่วนเพลงนี้ ชอบเนื้อหา แค่ได้รักคนดีๆ มันก็ดีเกินพอ
หัวใจให้เธอ

และเพลงสุดท้ายในชุดนี้ เพลงสุดโปรดของป้าเอง ไปที่ไหนต้องขอทุกครั้ง

ลึกสุดใจ

แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2008-12-21 16:08:36









โพสต์โดย : ป้าปากเกร็ด
icon
ID # 1473409 - โพสต์เมื่อ : 2008-12-21 16:32:10 _ ปิดข้อความ ex-link


อู๋ยไปเจอเพลงนี้เนื้อร้องทันสมัยเปี๊ยบเลยค่ะ

คำสัญญาจากฟากฟ้า

อยากให้ดาวบนฟ้า ตอบลงมาได้ไหม ว่าจะมีทางไหนให้เราได้เคียงคู่กัน
เมื่อยังคงมีรัก เมื่อสองคนยังผูกพัน แล้วทำไมต้องร้างไกลกันลับตา

(หรือ/แม้)ว่าใครบนฟ้า กำหนดชะตาเอาไว้ เหมือนจงใจทำให้เราต้องห่าง
แม้ลิขิตจากฟ้า เปลี่ยนแปลงเรื่องราวทุกอย่าง แต่ยังคงมีคนที่ใจเหมือนเดิม


ฝากคำยืนยันสัญญาผ่านฟ้าไกล ฉันยังมั่นใจจะมีแต่เธอเรื่อยไป
ฝากความผูกพันเพียงเธอไม่เคยเปลี่ยนใจ จะนานเพียงไหนจะไกลสุดไกลเท่าไร
รักเธอคนเดียว

หากว่าเรายังรัก หากว่าเรายังหวัง อาจจะมีสักครั้งที่เราได้มาพบเจอ
โปรดจงจำเอาไว้ ว่าฉันจะมีแต่เธอ ฉันรักเธอและขอรอเธอผู้เดียว

(หรือ/แม้)ว่าใครบนฟ้า กำหนดชะตาเอาไว้ เหมือนจงใจทำให้เราต้องห่าง
แม้ลิขิตจากฟ้า เปลี่ยนแปลงเรื่องราวทุกอย่าง แต่ยังคงมีคนที่ใจเหมือนเดิม

ฝากคำยืนยันสัญญาผ่านฟ้าไกล ฉันยังมั่นใจจะมีแต่เธอเรื่อยไป
ฝากความผูกพันเพียงเธอไม่เคยเปลี่ยนใจ จะนานเพียงไหนจะไกลสุดไกลเท่าไร
รักเธอคนเดียว


(ทุกคนยังมีเพียงความอ้างว้าง ว่างเปล่า) มีเพียงความอ้างว้าง ว่างเปล่า
(ทุกคืนยังมีแค่เพียงแต่เงา ของเธอ) ยังมีแค่เพียงแต่เงา ของเธอ
(ตั้งแต่วันอดีตไม่นาน คงมีวันพบเจอ เธอที่เป็นเหมือนดวงตะวัน เธอคนเดียว ไม่มีวันเสื่อมคลาย)


ฝากคำยืนยันสัญญาผ่านฟ้าไกล ฉันยังมั่นใจจะมีแต่เธอเรื่อยไป
ฝากความผูกพันเพียงเธอไม่เคยเปลี่ยนใจ จะนานเพียงไหนจะไกลสุดไกลเท่าไร
รักเธอคนเดียว



โพสต์โดย : ป้าปากเกร็ด
icon
ID # 1473456 - โพสต์เมื่อ : 2008-12-21 16:59:52 _ ปิดข้อความ ex-link


ฝากเอาไว้เป็นเพลงสุดท้ายสำหรับวันนี้นะคะ
เดี๋ยวจะออกไปกินข้าว ปลอบใจซึ่งกันและกัน ระหว่างเพื่อฝูง
ว่าจะไปแวะซื้อแห้วกระป๋องไปเป็นของหวานสักหน่อย
แต่ขอสัญญาว่าถึงจะท้อบ้างแต่ไม่มีถอยเด็ดขาด
เพลงนี้นะคะ สำหรับคุณทักษิณ นายกฯในใจนิรันดร์ค่ะ

]ได้ยินเสมอ นี่เธอใช่ไหม หรือเสียงใบไม้ ที่ไหวต้องลมเท่านั้น
แม้ว่าเราจะไกลห่างกัน แต่ในใจนั้นเราคิดถึงกันเสมอ

จะนานแค่ไหน ที่ในมุมนี้ ทุกวินาทีฉันยังคอยเฝ้า เฝ้ารอคอยเธอ
ฉันเฝ้ามองดวงดาวเสมอ ยังเห็นเธอส่งสายตาหากันเรื่อยไป

ฟ้าอาจจะพราก ให้เราจากกัน แต่ไม่มีวันพรากเธอนั้นจากใจฉันได้
ฉันจะอยู่เพื่อรักเธอตลอดไป แม้สิ้นลมหายใจ รักเธอนิรันดร์


จะนานแค่ไหน ที่ในมุมนี้ ทุกวินาทีฉันยังคอยเฝ้า เฝ้ารอคอยเธอ
ฉันเฝ้ามองดวงดาวเสมอ ยังเห็นเธอส่งสายตาหากันเรื่อยไป


ฟ้าอาจจะพราก ให้เราจากกัน แต่ไม่มีวันพรากเธอนั้นจากใจฉันได้
ฉันจะอยู่เพื่อรักเธอตลอดไป แม้สิ้นลมหายใจ รักเธอนิรันดร์

ฉันจะอยู่เพื่อรักเธอตลอดไป แม้สิ้นลมหายใจ รักเธอรักเธอนิรันดร์


รักเธอนิรันดร์

แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2008-12-21 17:00:34

ให้กษิตเป็นรมต.ต่างประเทศก็ถูกต้องแล้ว

โพสต์เมื่อ : 2008-12-20 10:51:47 _ ปิดข้อความ ex-link


เพราะเมื่อไปพบกับนานาชาติ แล้วเกิดมีการถามถึงการยึดทำเนียบหรือสนามบิน
หากเป็นตัวอื่น มีหรือจะรู้ดีเท่าตัวมันที่ได้ไปยืนบนเวทีทั้งสองมาแล้วอย่างเต็มตัว
ตัวอื่นหรือจะอธิบายได้ละเอียดเท่า มันต้องตัวจริงเสียงจริงอย่างนี้แหละ
ไม่ต้องฟังรายงานจากตัวอื่นแล้วนำไปอธิบายต่อ

จริงไหม?

ป้าแปะขอเสนอภาพบุคคลสำคัญ

โพสต์เมื่อ : 2008-12-19 15:21:51 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์โลกวันนี้ ประจำวันที่ 19 ธค.51ค่ะ

แต่งกลอนวอนเพื่อนๆ

โพสต์เมื่อ : 2008-12-19 12:21:18 _ ปิดข้อความ ex-link


1.อย่าแรงนักหักหาญจะพาลเสีย
หากอ่อนเพลียพักก่อนวอนเพื่อนฝูง
มุทะลุดุดันพลันถูกจูง
หมิ่นของสูงมีแต่เสียเพลียหัวใจ
2.เขาจ้องจับอับจนคนงุ่นง่าน
อย่าไปพาลวานหนอขอได้ไหม
โพสต์ดีๆมีที่ว่างทางคนไทย
แล้วจะได้ไม่ถูกปิดคิดตรองดู
3.พวกฮาร์ดคอร์รอก่อนวอนอย่าเฮี้ยว
เพราะประเดี๋ยวเห ี่ยวแห้งแล้งถิ่นหรู
หมดทางนี้เห็นทีไปได้ลงรู
แล้วจะกู่ก้องหาเอากับใคร
4.คุณสันติที่จ้องเขามองหา
แพะบูชาครานี้ที่เฉไฉ
แล้วจะเดินเพลินตามเขาทำไม
เอาหัวไว้แค่ขั้นหูดูไม่ดี
5.ระบายบ้างอย่างเคยอย่าล่อแหลม
อย่าให้แพลมข้อผิดคิดทางหนี
คนมาปล่อยความคิดจิตอัปปรีย์
หวังเพื่อนพี่ที่แค้นเคืองจะเปลืองตัว
6.อดทนไว้ไม่เสียยอมเพลียบ้าง
อย่าเชื่อบ่างช่างยุจะมึนหัว
เคยทนได้ทนมาอย่าเมามัว
อย่าไปมั่วตามเขาเง่าโง่ตาย

ไม่อยากเล่นเรื่องนี้เล้ย

โพสต์เมื่อ : 2008-12-19 07:18:12 _ ปิดข้อความ ex-link


เพียงแต่มันสงสัยน่ะ ในวันอันยิ่งใหญ่ของคนที่เป็นพ่อ แปลกจริงๆไม่เห็นเงาลูกๆของ
ทั่นนายกฯคนใหม่ หรือว่าไม่มีลูก หรือว่าลูกๆอายแทนเลยไม่กล้าเสนอหน้า ที่พ่อฉก
ชิงวิ่งราวตำแหน่งเขามา หรือเพราะอะไรน้า หรือจะเป็นนโยบายหลักของแมลงสาบ
ที่แยกครอบครัวออกจากการเมือง เพราะเท่าที่เคยเห็น(นั่นก็นานมาแล้วนา เพราะเห็นว่า
แมลงสาบว่างเว้นการเป็นนายกฯมาเสียนาน) ครั้งที่นายชวนป๋วยเป่าปี่กู(ปี่ของผู้เฒ่ามัง)
ขึ้นรับตำแหน่งก็ไม่มีเงาของครอบครัว ไม่มีทั้งเมียและลูก ยืนยิ้มรับตำแหน่งกะคนใน
พรรคเท่านั้นเอง

อ้ออีกอย่างที่สงสัยคือ พรรคนี้เขาไม่มีบ้านกันเนอะ ก็เพราะดันไปให้ไอ้ชวนป๋วยฯทำเป็น
ตัวเช่นตัวอย่าง (ก็ไอ้นั่นมันไม่บ้านจริงๆนี่นา เช่าเขาอยู่จนป่านนี้ แหมน่าเสียดายเคยเป็นถึง
อดีตรมต.กลาโหม น่าจะสร้างบ้านให้อยู่สักหลังในเขตทหาร เอาไปอยู่ใกล้ๆกับบ้านอดีตคมช.ก็ได้นิ
มีพฤติกรรมแย่งชิงเขามาคล้ายๆกัน) คนในพรคคนี้เลยต้องกลายเป็นคนไร้บ้านไป ต้องมาทำพิธีรับ
ตำแหน่งกันตามพรรค เฮ้อ น่าสงสาร ลูกๆเลยมาร่วมลำบาก

เท่าที่จำได้ คุณทักษิณรับตำแหน่งที่บ้านทั้งสองครั้ง พร้อมหน้าลูกเมีย เป็นภาพที่น่าชื่นชม
เขาว่าคนจะนำได้ต้องมีแบ็คดี มีลูกและเมีย มีครอบครัวที่อบอุ่น คุณสมัครก็รับที่บ้าน ลูกเมียอยู่ครบ
ครั้นมาคุณสมชายก็รับที่บ้านอีกเช่นกัน รายนั้นก็มีภาพปรากฎทั้งลูกและเมีย

ผิดกับแมลงสาบ ต้องไปรับที่ทำการพรรคทู้กที ชวนไม่มีทั้งเมียและลูก ส่วนมา-รก มีแต่เมีย
ลูกๆที่เคยได้ยินว่ามี แต่ไม่ยักจะนำมาโชว์ชาวบ้านเขา ไอ้บ้ามารค์เอ๊ย อยากเป็นอย่างเขา ไม่แหก
ตาดูบ้างล่ะ วันที่โอบา มาร์ เขาประกาศชัยชนะน่ะ เขาก็แวดล้อมด้วยลูกและเมีย (แม้เมียจะสวยไม่เท่า
เมียมาร์ค เขายังเอามาโชว์เลยนิ) มา-รกอายอะไรหรือ ถึงไม่เอาลูกออกมาโชว์ ไม่มีอะไรน่าอายไปกว่า
การรับตำแหน่งที่ปล้นเขามาหรอกมา-รก ขนาดนั้นยังไม่อายจะมาอายอะไรกับลูกๆ เขาไม่ได้ทำผิดอะไร
สักหน่อย ถ้าจะผิดก็คงผิดที่เกิดมาเป็นลูกมา-รกนั่นแหละที่มีพ่อที่ไม่รู้จักอาย

รัฐธรรมนูญไม่ใช่โลง

โพสต์เมื่อ : 2008-12-18 19:41:49
อยู่ดีๆจะมาคิดว่าหากจะแก้รัฐธรรมนูญต้องเอาคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองมาแก้
(แนะแก้รธน. ต้องไม่นำคนเกี่ยวข้องกับการใช้รธน.เข้ามามีส่วนร่วม :จัญไรเขาว่า)
มันถูกอยู่หรือคะ ก็พวกเมิงไม่ใช่พ่อใช่แม่ ถึงใช่ เราโตแล้ว มีสิทธิ์อะไรจะมาชี้นิ้วสั่ง
ก็เพราะเอาไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาร่างรัฐธรรมนวยฉบับที่ใช้อยู่นี่ไง มันถึงได้มีปัญหาไม่รู้จบ
เพราะไอ้คนที่มาร่างมันมีความรังเกียจนักการเมืองเป็นทุนอยู่แล้ว จึงพยายามทำทุกอย่าง
ใส่ทุกอย่างลงไปเพื่อทำให้การเมืองอ่อนแอ และไม่สามารถพาชาติไปสู่การมีประชาธิปไตยอย่าง
มั่นคงถาวรได้

งาน เสวนาภายใต้หัวข้อ"นิติรัฐกับสงัคมไทย" ที่จัดโดยสถาบันสัญญา ธรรมศักดิ์เพื่อประชาธิปไตย ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ที่โรงแรมสยามซิตี้

นายจรัญ ภักดีธนากุล ตลกศาลรํฐธรรมนูญและอดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2550
กล่าวว่า ปัญหาการเมืองมีหัวข้อใหญ่ๆ 4 เรื่องคือ ประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญ การเมือง
และศาลรัฐธรรมนูญ

ประชาธิปไตยเป็นระบอบที่ยึดถือเอาเสียงส่วนใหญ่เป็นหลัก ไม่ใช่ทหาร ข้าราชการ ตุลาการ
นักลงทุน หรือนักการเมือง ถุยส์ ทำเป็นรู้ แล้วที่เวลาเขาได้รับเสียงส่วนใหญ่
มาจากประชาชน พวกเมิงออกมาต่อต้านเขาทำไม แล้วเมิงไม่รู้หรือว่านักการเมืองน่ะ มันมาจากไหน
มันก็มาจากเสียงของประชาชนนี่แหละเว้ยเฮ้ย ก็ฉันเรียนมาว่าอย่างนี้ ว่าก็ในเมื่อเราทุกคนเข้าไปทำ
หน้าที่ในสภาไม่ได้ เราจึงจำเป็นต้องเลือกผู้แทนของเราเข้าไปไง ไอ้ฟาย ถ้าพวกนักกการเมืองมันไม่ดี
ไม่ทำเหมือนดังที่เราตั้งใจให้มันเข้าไปทำหน้าที่แทน ก็พวกเราประชาชนนี่แหละที่จะต้องจัดการกับ
นักการเมืองเลวเหล่านี้เอง เพราะเขาเป็นตัวแทนของพวกเราเข้าใจไหม เลือกตั้งสมัยหน้า เราก็ไม่
เลือกมันมาทำหน้าที่แทน ก็เท่านั้น ไม่ใช่หน้าที่ของพวกเมิงที่จะมาจัดการเองโดนลำพัง โดยอาศัย
ช่องทางพิเศษที่แอบเขียนอำนาจล้นฟ้าเอาไว้ให้
ดังนั้นนักการเมืองควรมุ่งมั่นทำประโยชน์
เพื่อส่วนรวมมากกว่าการเข้ามายึดครองอำนาจเป็นของตัวเอง ถ้ายึดในหลักการนี้ได้ก็จะแก้ปัญหาได้
ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญไม่ควรยึดติดกับตัวกฎหมาย เพราะอาจไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชน
ทั้งประเทศ จึงไม่ควรยึดมั่นมากจนเกินไปอ้อ ไม่ยึดตัวบทกฎหมาย เลยใช้พจนานุกรมแทน แล้วมันก่อให้เกิด
ประโยชน์กับประชาชนตรงไหนว้า เห็นมีแต่ใช้ช่องทาง กำจัดนักการเมืองที่ตัวไม่ชอบก็เท่านั้นเอง


นายจรัญระบุว่ากรอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี2550 เรายึดมั่นใน 4 เรื่อง คือทำอย่างไรไม่ให้การเมืองเข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระ แต่ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ เว้นไว้ให้แทรกแซงได้งั้นสิ ไม่ให้มีการการทุจริต ซื้อสิทธิ์ขายเสียงเลือกตั้ง ป้องกันการเมืองสามานย์หรือทุนสามานย์
ครอบงำการเมืองเพื่อผลประโยชน์ เอ่อ เวลาพูดแล้วอายมั่งไหมเนี่ย การซื้อเสียงมันเลวเนอะ ประชาชนได้เงินไม่กี่ร้อย สู้ให้ไอ้พรรคสามานย์ เอาเงินสามานย์จากนายทุนสามานย์มาซื้อเสียงจากนักการเมืองสามานย์ เพื่อยกมือสนับสนุนให้ปล้นอำนาจและตำแหน่งเขามา อย่างนี้ในสายตาเมิงคงไม่ผิดไม่เลวร้ายกระมัง แล้วเมิงอย่ามาพูดเลยว่าพรรคที่ไม่โดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง ไม่ได้โดนยุบพรรคน่ะมันไมได้ซื้อเสียง มันก็ซื้อเหมือนกันแหละว้า เพียงแต่พวกเมิงหลับตาทำเป็นมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง หลักฐานก็มีอยู่
โทนโท่ อย่ามาพูดเลยเหม็นขี้ฟัน


ขอยืนยันว่า รัฐธรรมนูญต้องแก้ด้วยนักการเมือง ก็เขาเป็นคนใช้ เขาต้องรู้ปัญหา เรื่องอะไรไปตัดสิทธิ์เขา
ไม่ใช่โลงนี่หว่าที่คนใช้เลือกไม่ได้ คนจีนเขายังเลือกเองเลยวุ้ย นี่อะไรจะมาจับยัดใส่โลงที่ตัวอยากให้นอน
ทีเวลาคนอื่นล่ะยอมให้เขาทำเอาตามใจเสียเท่าไหร่ไม่ว่า เฮ่อ อย่าให้พูดดีกว่า

ไหนใครฝันลมๆแล้ง โปรดเกล้าแล้วไง

โพสต์เมื่อ : 2008-12-17 17:38:39

ข่าวเมื่อกี้นี้เอง ยิ้มแย้มกันดีนี่นา หนีทหารเลี่ยงทหาร
ไม่ใช่เรื่องใหญ่สักหน่อย
เรียบร้อยไปแล้วค่ะ


โชคดีที่ป้าไม่ได้ดูตอนเปิดกรวย อนิจจาโชคร้ายไปกว่านั้นดั๊นเปิดไปเจอตอน
ปู้ชัยยงโย่ยงหยก ยิ้มสดชื่น ตาไม่ฝาดเห็นรอยยิ้มด้วยน้า ลูกชายกลับมา
เล่าว่าในเวปอื่นๆเขาเข้าไปชื่นชมกัน ลูกชายยังไม่เชื่อ นึกว่ามันโม้กันไปเอง
จนป้าบอกว่าป้าเองก็เห็นกับตา เขาถึงกับหลุดปากออกมาว่า ทุเรศ!

วิเคราะห์ข่าวโดยป้าแปะ ประจำวันที่ 17ธค. 51

แต่หนุ่มมาร์ค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีนานแค่ไหน ประสา "ไต้ฝุ่น" อยากให้ ว่าที่นายกฯอภิสิทธิ์ ย้อนดูรัฐบาลในอดีตเป็นบทเรียน รัฐบาลเหล่านั้นมีอายุสั้นเพราะอะไร............

ถามจริ๊ง ไม่รู้จริงๆหรือว่ารัฐบาลที่ผ่านมามีอายุสั้นเพราะอะไร เขียนคลุมๆเครือๆ
ให้ดูเหมือนว่ารัฐบาลที่ผ่านมา ทำผิดร้ายแรง โกงกินอย่างนั้นแหละ ทั้งๆที่ใครก็รู้ว่าที่อายุสั้นน่ะ
เพราะใช้ทุกวิธี ทุกท่วงท่า กระบวนความจ้องล้มรัฐบาลอยู่เห็นๆ ทั้งข้างถนน ในศาลก็ยังเอา
ทุเรศ! ทำเป็นมาให้ดูไว้เป็นบทเรียน บทเรียนเดียวที่ไอ้บ้ามาร์คควรดูและจดจำคือ อย่าขัดใจใคร
ที่เขาคิดว่าเขาเป็นใหญ่ในแผ่นดินก็เท่านั้นเอง


สิ่งสำคัญที่สุดที่ ว่าที่นายกฯอภิสิทธิ์ จะต้องตระหนักก็คือ คณะรัฐมนตรี ต้องตั้ง คนดี มีศีลธรรม คุณธรรม ไม่โกงกิน และ มีความรู้ความสามารถ

ถุยส์ มาอีกแล้ว คนดี มีศีลธรรม ไม่โกงกิน อย่างพรรคประชาวิบัติเนี่ยนะ
จะหาได้ คนไทยแม้ความจำจะสั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นทุกคนหรอก เฮ้ยเว้ย เพราะฉันก็ยังไม่ได้ลืม
เรื่อง สปก.4-01หรอกนะ

แล้วถ้าพูดถึงคนดีน่ะ ฉันก็ไม่เห็นว่าไอ้การหลบเลี่ยงการเป็นทหารของว่าที่นายกฯ
มันจะแสดงความเป็นคนดี มีศีลธรรมตรงไหน มันแสดงให้เห็นสันดานว่าเป็นคนไม่ซื่อตรง
ต่อหน้าที่ ความเป็นพลเมือง ซึ่งฉันว่าเลวร้ายมากที่สุด เพราะคนที่ทำไม่ได้แม้แต้หน้าที่ของพลเมือง
จะมาอ้างตัวว่าเป็นคนดีมีศีลธรรมไม่ได้หรอก ใครจะยกยอปอปั้นกันอย่างไร ไม่อายตัวเองก็ตามใจ
จะอ้างว่าหมดอายุความแล้วก็ช่าง แต่ความผิดก็สำเร็จไปแล้ว เพราะเลี่ยงก็เลี่ยงไปแล้ว จะบอกว่าไอ้บ้ามาร์ค
เป็นคนรุ่นใหม่ อะไรก็ว่าไป หรือจะว่าเป็นเด็กในคาถาก็ไม่ว่ากัน

แต่ขอทีเถอะ อย่าได้บอกเป็นอันขาดว่าเป็นคนดีมีศีลธรรม คนที่โกงแม้กระทั่งความเป็นชายไทย
ก็ต้องนับว่าเป็นคนเลวเข้าขั้น หน้าด้าน คนจะเป็นใหญ่น่ะ ไม่ใช่ว่านึกว่าจะเป็นก็มาเป็นหรอกนะ
เขาต้องวาดฝันมาตั้งแต่เด็ก ต้องรู้และระวังตัว ว่าจะไม่ทำอะไรผิด จะไม่ทำให้ประวัติด่างพร้อย
ไม่ใช่รอว่าถ้าเป็นใหญ่แล้วจะมีคนมาตามล้างตามเช็ดให้ จำไว้


ใน สายงานกระทรวงที่เป็นรัฐมนตรี ไม่ใช่ตั้งนายหมูแมวอะไรก็ได้ อยู่กระทรวงไหนก็ได้ โดยใช้อนาคตของประเทศเป็นรางวัลตอบแทนทางการเมือง ในที่สุดจะไปไม่รอด และอายุสั้นแน่นอน............

ที่สำคัญที่สุดอีกอย่าง การยึดมั่นในคำพูด ที่ถือเป็นสัญญาประชาคม "หากผมได้เป็นนายกฯ จะไม่ตกเป็นเบี้ยล่างของใคร ไม่ว่า กลุ่มพันธมิตรฯ หรือ กลุ่มเพื่อนเนวิน"

งั้นต้องย้อนกลับไปอ่านฉบับเดียวกันนี้แหละ ที่เขาว่าต้องจ่ายค่าวินแล้วน่ะ
แล้วก็ขอภาวนาให้ทำให้สำเร็จนะ เพราะได้ข่าวว่าทั้งสองกลุ่มที่ว่าน่ะ เขาทวงสัญญาแล้วนา
ที นี้ จะถือเอาสัญญาที่ให้ไว้กับใครดีล่ะ ฉันเลือกให้แล้วกันนะ อย่าไปห่วงเล้ยสัญญาประชาคงประชาคม ประชาชนเขาไม่ได้ช่วยให้แกมาเป็นนายกฯสักหน่อยจำไม่ได้หรือ แกได้เป็นนายกฯเพราะสองกลุ่มที่ว่าไม่ใช่หรือ อย่าลืมสิ คนดี มีศีลธรรม ต้องรักษาคำพูดด้วยนา สัญญากับเขาแล้วไม่ทำตามสัญญา เดี๋ยวพวกก็ออกมาไล่กันเอง แล้วอย่ามาร้องก็แล้วกัน เหอๆ
สังคมกำลังจ้องจับตา ถ้าบทเรียนแรกสอบไม่ผ่าน อนาคตลำบากแน่นอน ความเด็ดขาด ของผู้นำเป็นสิ่งสำคัญโอ้ แม่เจ้า ทำไมมันเยอะจังวะ ต้องอย่างนั้นต้องอย่างนี้ ก็แล้วไอ้ความเด็ดขาดเนี่ย หน้าตาเป็นอย่างไรวะ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้จัก พ่อแม่เขาจัดการให้หมด พอโตมาก็มาตกอยู่ในอาณัติไอ้ชวน มาเดี๋ยวนี้ก็ต้องมาทำตาม พวกมารและไอ้ห้อยอีก แล้วนี่จะไปหาได้ที่ไหนล่ะ "ความเด็ดขาด" แถวที่ทำงานพรรคน่ะ เขาว่าไอ้เทือกกะคนอื่นๆมันเอาไปใช้หมดแล้วด้วย ก็แล้วนี่มา-รกจะทำฉันใดดี

ป้าแปะขอเสนอการวิเคราะห์ข่าวโดยทีมการเมืองไทยรัฐ

โพสต์เมื่อ : 2008-12-17 08:28:17 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


เริ่มทวงค่าวินกันแล้ว [17 ธ.ค. 51 - 03:25]

1. นายกิตติศักดิ์ รุ่งธนเกียรติ ส.ส.สุรินทร์ 2. นายคงกฤช หงษ์วิไล ส.ส.ปราจีนบุรี 3. นายชยุต ภุมมะกาญจนะ ส.ส.ปราจีนบุรี 4. นายเชิดชัย วิเชียรวรรณ ส.ส.อุดรธานี 5. นายทวีวัฒน์ ฤทธิ์ฤาชัย ส.ส.สกลนคร 6. นายเทวฤทธิ์ นิกรเทศ ส.ส.สัดส่วน 7. นายธีระทัศน์ เตียวเจริญโสภา ส.ส.สุรินทร์ 8. นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา

9. นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ส.ส.ขอนแก่น 10. นายประสิทธิ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ส.ส.บุรีรัมย์ 11. นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น 12. นางพัฒนา สังขทรัพย์ ส.ส.เลย 13. นายเพิ่มพูน ทองศรี ส.ส.สัดส่วน 14. นายภิรมย์ พลวิเศษ ส.ส.นครราชสีมา 15. นายมนต์ไชย ชาติวัฒนศิริ ส.ส.บุรีรัมย์ 16. นางมลิวัลย์ ธัญญสกุลกิจ ส.ส.สุรินทร์

17. นายมานะศักดิ์ จันทร์ประสงค์ ส.ส.นนทบุรี 18. นายยรรยง ร่วมพัฒนา ส.ส. สุรินทร์ 19. นายรังสิกร ทิมาตฤกะ ส.ส.บุรีรัมย์ 20. นายเลิศศักดิ์ ทัศนเศรษฐ ส.ส.สุรินทร์ 21. นายวารุจ ศิริวัฒน์ ส.ส.อุตรดิตถ์ 22. นายวิเชียร อุดมศักดิ์ ส.ส.อำนาจเจริญ 23. นายวีระ รักความสุข ส.ส.สัดส่วน 24. นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม 25. นายสนอง เทพอักษรณรงค์ ส.ส.บุรีรัมย์

26. นายสันทัด จีนาภักดิ์ ส.ส.กาญจนบุรี 27. นายสากล ม่วงศิริ ส.ส.กทม. 28. นายสาธิต เทพวงศ์ศิริรัตน์ ส.ส.สุรินทร์ 29. นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ส.ส.มหาสารคาม 30. นายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ 31. นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ ส.ส.พิษณุโลก 32. นายภูมิศักดิ์ พชรทรัพย์ ส.ส.สัดส่วน

โฉมหน้า "32 กบฏนายใหญ่" ที่ถูกแขวนขึ้นป้ายโดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์-ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ หน่วยเช็กขุมกำลังพรรคเพื่อไทย

ชี้เป้าให้ม็อบเสื้อแดง กองเชียร์ "ทักษิณ" จำชื่อ จำหน้าไว้

ถาม ว่า มีผลแค่ไหน เอาเป็นว่า ในอารมณ์ของนักข่าวที่สังเกตบรรยากาศน่าสนใจระหว่างการขานชื่อโหวตนายก รัฐมนตรี อดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชนที่หันมาสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยเฉพาะ ส.ส.อีสานหลายคน ลุกขึ้นขานชื่อนายอภิสิทธิ์ สั้นๆเบาๆ

และให้เหตุผลประกอบความจำเป็นเพื่อชาติ

ขณะที่ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยที่สนับสนุน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก พยายามขานชื่อและนามสกุลของตัวเองอย่างชัดถ้อยชัดคำ

ประกาศตน ไม่ใช่พวกทรยศนายใหญ่

แต่ ก็ไม่ได้สะทกสะท้าน นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม กลุ่มเพื่อนเนวิน ก็ไม่ได้แข็งขืนกับข้อหาทรยศนายใหญ่แต่อย่างใด พร้อมรับคำพิพากษาจากประชาชน อาจสอบตกในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ยังไงก็เลือกชัวร์ๆ ที่เห็นกองอยู่เบื้องหน้าก่อน

และโดย ข้อมูลร้อนๆ เบื้องหลังที่ถูกปูดออกมาจากฝ่าย "ผู้แพ้" แฉรายการ "โฟนอิน" ของแท้ที่มีผลต่อการพลิกแต้มจัดรัฐบาล มีเสียงของหญิง "เส้นใหญ่" ต่อสายเข้าโทรศัพท์มือถือของ "นักการเมืองใหญ่" เปิดลำโพงสปีกเกอร์ให้ได้ยินทั่วกันในหมู่ทีมจัดรัฐบาล

ต้องให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ

ก่อนที่จะปล่อยตัวเลข 10-15-20 แล้วแต่เงื่อนไขความจำเป็นส่วนบุคคล หรือจะสนใจรถเบนซ์คันงาม แล้วแต่จะเลือกโปรโมชั่น

โดยสปอนเซอร์ใหญ่แถวๆซอยรางน้ำจัดให้

แต่ นั่นก็เป็นแค่การกล่าวหากันลอยๆ ไร้หลักฐานยืนยัน ในอารมณ์ของฝ่ายแพ้กับฝ่ายชนะ ที่ต้องบลัฟกันเป็นควันหลงส่งท้ายเกมการต่อสู้ที่เดิมพันสูง

ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่

แต่สิ่งที่จะพิสูจน์กันต่อไป และไม่มีทางซ่อนวาระแฝงลึกๆไว้ได้

กับ ท่าทีของก๊วน "เพื่อนเนวิน" ที่แถลงเหตุผลกันไว้อย่างสวยหรู ยอมทรยศ "ทักษิณ" เพื่อชาติ ฝืนกลืนเลือดหัก "นายใหญ่" ที่เคารพ เพราะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของบ้านเมือง

เชียร์ลีดเดอร์ประชาธิปัตย์ตบมือกันเกรียว

แต่ ทันทีที่โหวตเลือกนายกฯเสร็จ ผลงานเข้าเป้า ก็มีการให้ข่าวกับสื่อมวลชนทันทีว่า กลุ่มเพื่อนเนวินจะเดินทางไปยื่นนโยบายให้พรรคประชาธิปัตย์

พร้อมๆกับปล่อยโควตารัฐมนตรี 4-5 เก้าอี้

โดย เน้นเฉพาะเจาะจงไปที่กระทรวงคมนาคม ล็อกทั้งรัฐมนตรีว่าการฯและรัฐมนตรีช่วย โดยไม่สนใจว่าจะถูกโยงไปถึงการตามทวงบิลโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันที่ยังค้างเติ่ง เกี่ยวพันไปถึงคดีดังๆที่
"เสี่ย" นำเข้ารถยนต์หรูโกงลูกค้าหนีเพราะเจ๊ง แผนแบ่งเค้ก รถเมล์เอ็นจีวีถูกดอง แถมด้วยชื่อคุ้นๆของ "เสี่ยโป๋" นายธีรพล นพรัมภา หนึ่งในสี่แก๊งออฟโฟร์ที่เคยเกรียงไกร โผล่มาคั่วเก้าอี้ รมว.คมนาคม

"อภิสิทธิ์" ได้เวลาจ่ายค่าวินแล้ว.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน


ข่าวลือข่าวปล่อยไม่ทราบ เรื่องการเปิดสปี๊กเกอร์โฟน ทราบแต่ว่าคนไทยเขาว่า
" ไม่มีมูลหมาไม่ขี้" เรื่องไม่จริงใหญ่ขนาดนี้ลือกันได้ไงจริงมะ อย่างไรก็ต้องยอมรับล่ะสิว่า เจ๊ยังขายออก เอ หรือว่าเป็นเพราะผลประโยชน์ล้วนๆมากกว่าฮิ!

มีเพลงมาให้กำลังใจค่ะ

โพสต์เมื่อ : 2008-12-16 20:38:24 _ ปิดข้อความ ex-link


ได้ฟังพี่เบิร์ดร้อง เวปคนไทพิทักษ์ประชาธิปไตยเขาเปิด
คิดว่าเหมาะกับการเป็นกำลังใจให้กันและกันนะคะ ลองฟังดู

เธอ..ผู้ไม่แพ้

มีอะไรดีๆมาให้อ่าน เพื่อจรรโลงใจในวันเศร้าหมอง

โพสต์เมื่อ : 2008-12-16 13:01:02 _ ปิดข้อความ ex-link


ยึดติด

โดย
พระไพศาล วิสาโล




สุด .. ได้เลขท้าย ๓ ตัวมาจากหลวงพ่อ เลยแทงไป ๑๕ บาท ปรากฏว่าถูกเผง ได้มา ๖๐๐ บาท เขาดีใจมาก เที่ยวอวดใครต่อใครในหมู่บ้านว่าถูกหวย แต่พอรู้ว่า คอนซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน ก็แทงหวย ๓ ตัวถูกเหมือนกัน แต่ได้เงินมากกว่าคือ ๒ , ๐๐๐ บาท เพราะแทงมากกว่า สุดเลยยิ้มไม่ออก หงอยไปทั้งวัน แถมยังโมโหตัวเองที่แทงน้อยไป

ใจ .. ไปเที่ยวไนท์บาซ่า เห็นผ้าพื้นเมืองลายงาม ราคา ๕๐๐ บาท แต่เธอต่อได้ ๓๕๐ บาทจึงคว้าผ้าผืนนั้นกลับโรงแรมด้วยความดีใจ แต่พอรู้ว่าไก่เพื่อนร่วมห้องก็ซื้อผ้าแบบเดียวกันมา แต่ได้ราคาถูกกว่า คือ ๓๐๐ บาท ใจก็หุบยิ้มทันที ไม่รู้สึกโปรดปรานผ้าของตนอีกต่อไป

แม้เราจะมี " โชค " หรือได้ของดีที่ถูกใจ
แต่หากไปเปรียบเทียบกับของคนอื่นเมื่อใด
สุขก็อาจกลายเป็นทุกข์ทันที หากรู้ว่าคนอื่นได้มากกว่า ได้ของดีกว่า
หรือได้ของที่ถูกกว่า ส่วนของดีที่เราได้มากลับด้อยคุณค่าไปถนัดใจ

บางครั้งอาจทำให้เราทุกข์กว่าตอนที่ยังไม่ได้ของนั้นมาด้วยซ้ำ
ที่จริงไม่ต้องไปเทียบกับของคนอื่นก็ได้
เพียงแค่เห็นของรุ่นใหม่วางขายหรือโฆษณาตามสื่อต่างๆ
ก็เกิดความไม่พอใจในของเดิมที่มีอยู่ทันที
ทั้งๆ ที่มันก็ยังใช้ได้ดี ไม่มีปัญหาอะไรรบกวนใจ
ยกเว้นข้อเดียวคือ มันสู้ของใหม่ที่วางขายไม่ได้
ทั้งๆ ที่มีของดีอยู่กับตัว แต่คนเราแทนที่จะพอใจกลับรู้สึกเป็นทุกข์
เพียงเพราะใจไปจดจ่ออยู่กับสิ่งดีกว่า (หรือมากกว่า) ที่ตัวเองยังไม่มี

แต่เมื่อใดก็ตามที่ของชิ้นนั้นเกิดมีอันเป็นไป
เช่นทำตกหล่นหรือถูกขโมยไป เราก็จะกลับมาเห็นคุณค่าของมัน
และนึกเสียใจที่เสียมันไป จะกินจะนอนก็ยังนึกถึงมันด้วยความเสียดาย
ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นใน กรณีที่เป็นสิ่งของเท่านั้น
แต่ยังเกิดกับกรณีที่เป็นคนด้วย เช่น คนรัก หรือแม้แต่พ่อแม่และลูก

ผู้คนจำนวนมากไม่เห็นคุณค่าหรือมีความสุขกับคนใกล้ชิด
เพราะไปนึกเปรียบเทียบคนอื่นว่าเขามีพ่อแม่ คนรัก หรือลูกที่ดีกว่าเรา
แต่วันใดที่เราเสียเขาไป เราถึงจะกลับมาเห็นคุณค่าของเขา
และเศร้าโศกเสียใจจนถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับเลยทีเดียว
เฝ้าหวนคำนึงถึงวันคืนเก่าๆ ที่เขาเคยอยู่กับเรา

คนเรามักทุกข์เพราะจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ยังไม่มี หรืออาลัยในสิ่งที่สูญเสียไป
พูดให้ครอบคลุมกว่านั้นก็คือ
ทุกข์เพราะใจยังติดยึดอยู่กับอนาคตและอดีต
อนาคตและอดีตที่ว่ามิได้หมายถึง
สิ่งดีๆ ที่ยังไม่มีหรือที่เสียไปเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงสิ่งไม่พึงปรารถนาที่ (คาดว่า) รออยู่ข้างหน้า
เช่นอุปสรรค และสิ่งไม่พึงปรารถนาที่พานพบ คำต่อว่า หรือการกระทำที่น่ารังเกียจ

คำตำหนิติเตียนไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหน แต่ก็ทำอะไรเราไม่ได้
หากเราไม่เก็บเอาคิดซ้ำคิดซาก คำพูดเหล่านั้นผ่านพ้นไปนานแล้ว
แต่ที่ยังบาดใจเราอยู่ก็เพราะเราไม่ยอมปล่อยวางมันต่างหาก
ยิ่งคิดคำนึงถึงมันมากเท่าไรก็ยิ่งซ้ำเติมตัวเองมากเท่านั้น

การเอาเปรียบ กลั่นแกล้ง ทรยศ หักหลัง ก็เช่นกัน
แม้เป็นอดีตไปนานแล้ว แต่เราก็ยังทุกข์อยู่กับเหตุการณ์ดังกล่าว
ไม่ใช่เพราะเขายังทำเช่นนั้นกับเราอยู่
แต่เป็นเพราะเราชอบย้อนภาพอดีต
กลับมาฉายซ้ำในใจอย่างไม่ยอมเลิกรา
ย้อนแต่ละทีก็เหมือนกับกรีดแผลลงไปที่ใจ
หยุดย้อนอดีตเมื่อใดใจก็หายเจ็บเมื่อนั้น

อดีตเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ส่วนอนาคตยังมาไม่ถึง
แต่จะมาถึงหรือไม่ ไม่มีใครรู้ได้
แต่บ่อยครั้งเรากลับยึดมั่นสำคัญหมายอย่างเป็นจริงเป็นจัง
ว่ามันจะต้องเกิด ขึ้นแน่ เท่านั้นยังไม่พอถ้าเป็นเรื่องแง่ลบด้วยแล้ว
เรามักจะวาดภาพไปในทางเลวร้าย
แล้วก็ยึดมันเอาไว้ไม่ให้คลาดไปจากใจ ทั้งๆ ที่ยิ่งคิดก็ยิ่งทุกข์

ชายผู้หนึ่งเดินขึ้นตึกไปหาหมอ เพื่อฟังผลตรวจโรค
พอหมอบอกว่า พบก้อนมะเร็งระยะที่สองในปอดของเขา
เขาก็ถึงกับทรุด เข่าอ่อนเดินไม่ได้ กลับถึงบ้านก็กินไม่ได้
นอนไม่หลับ ซึมไปเป็นเดือน

ส่วนหญิงผู้หนึ่ง ป่วยกระเสาะกระแสอยู่นานหลายสัปดาห์
แล้ววันหนึ่งหมอก็บอกว่า เธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่ตับ
จะอยู่ได้ไม่เกิน ๓ เดือน ปรากฏว่าผ่านไปแค่ ๑๒ วัน เธอก็สิ้นใจ
ทั้งสองกรณีไม่ได้ทรุดฮวบเพราะโรคมะเร็งเล่นงาน
แต่เป็นเพราะใจเสีย ทันทีที่ได้ยินข่าวร้าย
ใจก็นึกภาพอนาคตของตัวเองไปในทางเลวร้าย
ยิ่งผู้ป่วยรายที่สองด้วยแล้ว
เธอนึกไปถึงวันตายของตัวเองเลยทีเดียว
แถมยังปรุงแต่งไปในทางที่มืดมน
เท่านั้นไม่พอเธอยังหมกมุ่นกับภาพดังกล่าวไม่หยุดหย่อน
ทั้งๆ ที่มันยังไม่เกิดขึ้น ผลก็คือถูกความทุกข์ท่วมทับจนมิอาจทานทนต่อไปได้

บ่อยครั้งเราเป็นทุกข์เพราะเรื่องที่ยังมาไม่ถึง
เช่น การสอบไม่ติดหรือตกงาน
โดยตัวมันเองไม่ก่อปัญหาแก่เรา มากเท่ากับใจที่ปรุงแต่งไปล่วงหน้า
ว่านับแต่นี้ไปชีวิตจะลำบากยากแค้นเพียงใด แล้วจะอยู่ดูโลกนี้ต่อไปได้อย่างไร
แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็อาจพบว่าที่แท้เราตีตนก่อนไข้ไปเอง
เพราะปัญหาต่างๆ ที่ตามมาไม่ได้หนักหนาสาหัสอย่างที่คิด
สามารถแก้ไขให้ลุล่วงไปได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ปรุงแต่งเหตุการณ์ที่ยังมาไม่ถึงเท่านั้น
กับสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า บางครั้งเราก็ปรุงแต่งให้เลวร้ายเกินจริง
เช่น อยู่รีสอร์ตคนเดียวกลางดึก ได้ยินเสียงผิดปกติ
ก็ปรุงแต่งไปทันทีว่าถูกผีหลอก หรือไม่ก็มีคนจะมาทำร้าย
เห็นคู่รักกำลังคุยอย่างสนิทสนมกับชายหนุ่มในร้านอาหาร
ก็คิดไปทันทีว่า เธอกำลังนอกใจ

การคิดปรุงแต่งที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงนั้น
เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ แต่เมื่อใดที่เราหลงยึดว่ามันเป็นเรื่องจริง
เราก็กำลังก่อทุกข์ให้กับตัวเอง
แถมยังสามารถสร้างปัญหาให้แก่คนอื่นได้ด้วย

วัยรุ่นนั่งกินอาหารอยู่หน้าร้าน เผอิญขี้นกหล่นใส่หัว
แต่เขากลับคิดว่าเจ้าของร้านถ่มน้ำลายใส่หัว
จึงทะเลาะกับเจ้าของร้านอย่างรุนแรง
สักพักก็ออกจากร้านแล้วกลับมาพร้อมกับพวกอีกหลายคน
ควักปืนออกมายิงกราด
ถูกภรรยาเจ้าของร้านซึ่งกำลังท้อง ๕ เดือนตายคาที่
กลายเป็นฆาตกรที่ถูกตำรวจหมายหัวทันที

การยึดติดสิ่งที่ปรุงแต่งขึ้นเอง
เป็นที่มาอีกประการหนึ่งของความทุกข์
ทีแรกเราเป็นฝ่ายปรุงแต่งมันขึ้นมา
แต่เผลอเมื่อใดมันก็กลับมาเป็นนายเรา
สามารถผลักใจของเราไปสู่ความทุกข์
และชักนำชีวิตของเราไปในทางเสื่อมได้ง่ายๆ

กี่ครั้งกี่หนที่เราทำร้ายตัวเองและทำร้ายซึ่งกันและกัน
เพียงเพราะหลงเชื่อ ความคิดที่เราปรุงแต่งขึ้นมา
พูดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่า สิ่งที่ไม่ได้ปรุงแต่งขึ้นมาเอง
แต่เป็นความจริงแท้ๆ จะไม่ก่อปัญหา

ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่สร้างความทุกข์แก่เรา
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ อยู่ในขณะนี้
เช่น รถเสีย เงินไม่พอใช้ ทะเลาะกับคนรัก ลูกคบเพื่อนไม่ดี งานไม่ก้าวหน้า
แต่ถ้าเรามัวแต่นึกถึงเรื่องเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะทำอะไร ก็กวาดเอาปัญหาต่างๆ มาครุ่นคิดด้วย
ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวกันเลย เช่น กำลังทำงานอยู่
ก็ไปกังวลถึงรถ ถึงลูก ถึงพ่อแม่ แล้วยังห่วงคู่รักอีก
อย่างนี้แล้วจะไม่ทุกข์ได้อย่างไร

ปัญหาเป็นเรื่องที่ต้องแก้ ไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม
แต่เมื่อใดที่เรากวาดเอาปัญหาต่างๆ มาทับถมจิตใจ
ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลา (หรือไม่ใช่เวลา) ที่จะแก้ไข
ก็เตรียมตัวกลุ้มได้เลย นี้เป็นการยึดติดอีกแบบหนึ่ง

อันที่จริงแม้มีปัญหาแค่เรื่องเดียว
แต่ถ้าหมกมุ่นอยู่กับมันตลอดเวลา ก็ทำให้คลั่งได้
ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องเล็กแต่ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ง่ายๆ
เช่น หมกมุ่นกับสิวไม่กี่เม็ดบนใบหน้าวันแล้ววันเล่า
ก็อาจทำให้เจ็บป่วยหรือถึงกับทำร้ายตัวเองได้

การยึดเอาปัญหาต่างๆ มาทับถมใจ
บางครั้งก็ไปไกลถึงขนาดไปกวาดเอาปัญหาของคนอื่น
มาเป็นของเราเสียเอง เช่น เพื่อนมาปรึกษาปัญหาชีวิต
ก็เลยเอาปัญหาของเขามาเป็นของตนด้วย
จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ

เท่านั้นยังไม่พอบางคนถึงกับแบกปัญหาของประเทศมาไว้กับตัว
เลยเป็นเดือนเป็นแค้นกับสถานการณ์บ้านเมือง
ทะเลาะกับใครไปทั่วที่คิดต่างจากตน
สุดท้ายก็เลยกลายเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาบ้านเมืองไป

การยึดติดที่ลึกไป กว่านั้นคือ การยึดติดในตัวตน
สาเหตุที่เราทะเลาะกับคนที่คิดไม่เหมือนเรา
ก็เพราะเรายึดติดในความคิดของเรา

ความสำคัญมั่นหมายว่านี้เป็น " ความคิดของฉัน "
สะท้อนถึงความยึดติดในตัวตน
หรือที่ท่านพุทธทาสเรียกว่า ยึดติดใน " ตัวกู ของกู "

นอกจากความคิดแล้ว เรายังยึดติดสิ่งต่างๆ อีกมากมายว่า
เป็นตัวฉันของฉัน อาทิ สิ่งของ บุคคล ชุมชน ประเทศ ศาสนา
มีอะไรมากระทบกับสิ่งนั้น ก็เท่ากับว่ากระทบ" ตัวฉัน "
ด่าว่ารถของฉัน ก็เท่ากับด่าฉันด้วย
วิจารณ์ศาสนาของฉันก็เท่ากับวิจารณ์ฉันด้วย

เป็นเพราะเหตุนี้ เมื่อสิ่งของสูญหาย คนรักจากไป
เราจึงอดหวนนึกถึงไม่ได้ เพราะใจยังยึดว่าเป็นของฉันอยู่
จึงยังมีเยื่อใยที่ดึงให้ใจย้อนระลึกถึงอยู่เสมอ
เวลาให้ของแก่ใครไป ความยึดติดในของชิ้นนั้นก็ยังมีอยู่
จึงเฝ้าดูว่าเขาจะใช้ของชิ้นนั้นหรือไม่
ถ้าไม่ใช้ก็รู้สึกเป็นทุกข์ที่เขาไม่ได้ใช้ของ " ของฉัน "
ญาติโยมหลายคนจึงไม่สบายใจที่พระไม่ได้ฉันอาหารที่ตนถวาย

ยึดติดในตัว ตนอีกอย่างคือการยึดมั่นสำคัญหมายว่า
ฉันเก่ง ฉันหล่อ ฉันเป็นส.ส. ฯลฯ ไปไหนก็อดตัวพองไม่ได้
อยากแสดงบารมีให้ใครรู้ว่า " นี่กูนะ "
อยู่ที่ใดก็ต้องการให้คนชื่นชม สรรเสริญ เคารพ นบไหว้
แต่ถ้าไม่ได้รับการปฏิบัติดังกล่าว ก็จะโมโหขุ่นเคือง
จนอาจคำรามว่า " รู้ไหมว่ากูเป็นใคร ?"
ยิ่งเจอคำวิจารณ์ด้วยแล้ว ยิ่งทนไม่ได้เข้าไปใหญ่

การ ยึดติดใน " ตัวกู ของกู หรือนี่กูนะ " เป็นรากเหง้าแห่งความทุกข์ นานัปการ
นำไปสู่การกระทบกระทั่งขัดแย้งและทำร้ายกัน
ขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดความเครียดบีบคั้นภายใน
เมื่อประสบกับสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา
ใช่แต่เท่านั้น แม้ได้สิ่งที่พึงปรารถนา
ก็ยังทุกข์เพราะได้ไม่สมใจ หรือทุกข์ที่คนอื่นได้มากกว่า

ที่น่าแปลกก็คือเราไม่ได้ยึดเอาแค่สิ่งดีๆ ที่ถูกใจ
ว่าเป็นตัวกูของกูเท่านั้น สิ่งที่ไม่ดี ไม่ถูกใจ
เราก็ยังยึดเป็นตัวกูของกูอีกเช่นกัน
เช่น ความเจ็บปวด เมื่อเกิดกับกาย
แทนที่จะเห็นว่า กายปวดเท่านั้น กลับไปยึดเอาว่า " ฉันปวด "
ความปวดเป็นของฉัน

เมื่อความโกรธเกิดขึ้นกับใจ
ก็ยึดมั่นสำคัญหมายว่า " ฉันโกรธ " ความโกรธเป็นของฉัน
ความยึดมั่นดังกล่าวรุนแรงชนิดที่ใจไม่ยอมไปไหน
มัวจดจ่อวนเวียนอยู่กับความปวดหรือความโกรธนั้นๆ อย่างเดียว
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะความเผลอของใจ
รู้ทั้งรู้ว่ายึดแล้วทุกข์แต่ก็ยังยึดเพราะขาดสติ
ถ้าใจมีสติ ก็จะไม่เผลอยึดต่อไป

ความปวดความโกรธยังมีอยู่ก็จริง แต่คราวนี้มันทำอะไรจิตใจไม่ได้
เพราะใจไม่โดดเข้าไปให้ความปวดความโกรธเผาลน
เหมือนกองไฟที่ยังลุกไหม้อยู่
แต่ตราบใดที่เราไม่โดดเข้าไปในกองไฟ
หากถอยออกมาห่างๆ เป็นแค่ผู้สังเกตเฉยๆ ไฟก็ทำอะไรเราไม่ได้

สติช่วยให้ใจแยกออกมาอยู่ห่างๆ
จากความเจ็บปวดและอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
กลายเป็น " ผู้ดู " มิใช่ " ผู้ปวด " หรือ " ผู้โกรธ "
จากความยึดติดกลายเป็นการปล่อยวาง

การปล่อยวางดังกล่าว
คือ หัวใจของการเป็นอิสระจากความทุกข์ทั้งหลาย
เพราะกล่าวอย่างถึงที่สุดแล้ว
ความทุกข์ทั้งมวลเกิดจากความยึดติด
ยึดติดอดีตกับอนาคต ยึดติดสิ่งที่ปรุงแต่งขึ้นเอง
ยึดติดปัญหาต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
รวมทั้งยึดเอาปัญหาต่างๆ มาเป็นของตน
ที่สำคัญคือ การยึดติดในตัวตน
เมื่อใดที่ปล่อยวางจากความยึดติดดังกล่าวได้
ความทุกข์ก็ไม่อาจทำอะไรเราได้อีกต่อไป

สติช่วยให้เรารู้ตัวเมื่อเผลอไปอาลัยอาวรณ์ในอดีต หรือวิตกกังวลกับอนาคต
พาจิตกลับมาอยู่กับปัจจุบันเมื่อรู้ตัวว่า
เผลอไปจมอยู่กับเหตุร้ายที่ผ่านไปแล้ว
คอยทักท้วงใจไม่ให้หลงเชื่อความคิดปรุงแต่ง
เพราะตระหนักว่า ความจริงอาจไม่เป็นอย่างที่คิด
ในยามที่เผลอกวาดเอาปัญหาต่างๆ มาทับถมใจจนหนักอึ้ง

สติช่วยให้เราแก้ปัญหาเป็นเปลาะๆ เป็นเรื่องๆ
ไม่เอาปัญหาใดมาครุ่นคิดหากยังไม่ถึงเวลา (หรือไม่ใช่เวลา) ที่จะแก้
เวลาพักผ่อน ก็พักผ่อนเต็มที่
เมื่อถึงเวลาแก้ปัญหา ก็ใช้ปัญญาอย่างเต็มที่
ไม่มามัวตีโพยตีพาย หรือน้อยเนื้อต่ำใจว่า " ทำไมถึงต้องเป็นฉัน ?"

ความทุกข์นั้นไม่ได้อยู่ที่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา
แต่อยู่ที่ว่าเรามีท่าทีหรือรู้สึกอย่างไรกับมันต่างหาก

แม้ปัญหาจะหนัก แต่ถ้าเริ่มต้นจากการยอมรับมันว่า
เป็นความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว
ไม่ปฏิเสธผลักไสมันหรือก่นด่าชะตากรรม
ตั้งสติให้ได้แล้วหาทางแก้ไขมัน
แต่ขณะที่มันยังไม่หายไปไหน ก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน

ไม่หวนนึกถึงอดีตอันผาสุก หรือปรุงแต่งอนาคตไปในทางเลวร้าย
ขณะเดียวกันก็ไม่หมกมุ่นอยู่กับปัญหา
หากปล่อยวางมันบ้าง ความสุขก็หาได้ไม่ยาก

นายทหารผู้หนึ่งไปเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชเจ้า
กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ในฐานที่ทรงเคยเป็นอุปัชฌาย์ของตนมาก่อน
พอไปถึงประโยคแรกที่กราบทูลก็คือ " หนักครับ ช่วงนี้แย่มากเลยครับ "
ว่าแล้วเขาก็ทูลเล่าปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าเข้ามาในชีวิต

สมเด็จพระสังฆราชเจ้าทรงฟังอยู่นาน
แทนที่จะตรัสแนะนำหรือปลอบใจ
พระองค์กลับรับสั่งให้เขานั่งคุกเข่า ยื่นมือสองข้าง
แล้วพระองค์ก็เอากระดาษแผ่นหนึ่งวางบนฝ่ามือของเขา
" นั่งอยู่นี่แหละ อย่าไปไหนจนกว่าข้าจะกลับมา "

รับสั่งเสร็จพระองค์ก็เสด็จเข้าไปในตำหนัก
นายทหารนั่งในท่านั้นอยู่นาน จาก ๑๐ นาทีเป็น ๒๐ นาที
สมเด็จพระสังฆราชก็ยังไม่เสด็จออกมา
เขาเริ่มเหนื่อย มือและขาเริ่มสั่น กระดาษชิ้นเล็กๆ หนักขึ้นเรื่อยๆ
จนประคองแทบไม่ไหว พอสมเด็จพระสังฆราชเจ้าเสด็จกลับมา
ก็ทรงถามว่า " เป็นไง ?"

คำตอบของเขาคือ " หนักครับ พระเดชพระคุณ เมื่อยจนจะทนไม่ไหว "
" อ้าว ทำไมไม่วางมันลงเสียละ ?"
สมเด็จรับสั่ง " ก็ไปยอมให้มันอยู่อย่างนั้น มันก็หนักอยู่ยังงั้นนะซี
มันจะเป็นอื่นไปได้ยังไง "

กระดาษที่เบาหวิว แต่หากถือไว้นานๆ
ไม่ยอมปล่อย ก็กลายเป็นของหนักไปได้
แต่ปัญหาถึงจะใหญ่โตเพียงใด
ถ้าไม่ยึดถือเอาไว้ ก็ไม่ทำให้เราทุกข์ได้

ใช่หรือไม่ว่าหินก้อนใหญ่จะกลายเป็นของหนัก
และสร้างทุกข์ให้แก่เราก็ต่อ เมื่อเราแบกมันเอาไว้เท่านั้น
เมื่อมีสติรักษาใจ รู้เท่าทันความคิด ไม่เผลอยึดติดจนจิตหนักอึ้ง
แม้งานจะยาก อุปสรรคจะเยอะ ก็ยังเป็นสุขอยู่ได้
คัดลอกจาก...ยึดติด [สารคดี กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑]
โดย พระไพศาล วิสาโล

ประเทศนี้มันแปลกพิลึก

โพสต์เมื่อ : 2008-12-16 11:07:06 _ ปิดข้อความ ex-link


ไปเที่ยวมา เกือบสิบวัน กลับมา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ก่อนออกไป มีผู้ก่อการร้าย ยึดสนามบินทั้งสองแห่ง
วันดีคืนร้าย กลัวเขาเอาเรื่องจากต่างประเทศ ถวายคืนเสียเฉยๆ

แต่แปลกพิลึก ไม่ยักจะมีการดำเนินคดีใดๆ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ชีวิตก็ดำเนินไป ไอ้พรรคที่สนับสนุนผู้ก่อการร้าย มิหนำซ้ำยังฉกชิง
วิ่งราวความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลไปเสียเฉยๆ ก็ได้รับการโหวต
ให้เป็นนายกฯ อย่างไม่อับอาย ไม่รู้เตรียมคำตอบไว้ตอบนักข่าวต่างประเทศ
ในวันขึ้นรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้วหรือยัง เงินที่ใช้ไปทั้งหมด
คงซื้อได้แต่เสียงและสื่อในประเทศ

แสดงให้เห็นว่าเงินมันไม่ได้ใหญ่พอที่จะซื้อได้ทั้งโลก
ไม่งั้นข่าวคราวจากต่างประเทศคงไม่ระงม จนต้องประท้วงกันให้วุ่น
อะไรในประเทศนี้ที่เกิดขึ้น ก็ยังหาคำอธิบายไม่ได้ แต่ไม่เป็นไร ถ้าคิดว่า
คนในประเทศมันก็แค่ควายทาส ที่บอกอะไรมันก็เชื่อ แม้ไม่เชื่อ มันก็ไม่กล้าพูด
ดีออกจะตาย กวาดฝุ่นกลบไว้ใต้พรม วันดีคืนร้าย ลมพัดมาทีฝุ่นมันก็ฟุ้ง
เขารู้เขาเห็นกันทั้งโลก แต่คนไทยทำเป็นคนหูหนวกตาบอด

อยากทำอะไรก็ทำ ยิงคนเห็นๆ ทั้งภาพก็มีชัดเจน จนป่านนี้ยังไม่มีหมายจับ
ยึดสนามบินเสียหายไปเป็นแสนล้านไม่เป็นไร ถือว่าเป็นค่าปฎิกรณ์สงคราม
ที่ประเทศแพ้สงครามต้องจ่าย

"ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส เคี่ยวเข็นเย็นย่ำกรำไป
ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย" น่าเสียดายที่คนที่บอกว่าเป็นคนไทยด้วยกันเอง
กลับทำกันเสียได้ เหมือนไม่ใช่ไทยด้วยกัน

ประเทศนี้แปลกประหลาดจริงๆ บางพวกบางเหล่าทำอะไรไม่เคยผิด มันอึดอัด
คับข้องใจจริงๆ อับอายชาวโลกเขาเป็นที่ยิ่ง

ป้าแปะกลับมาทำหน้าที่แล้วนะคะ

โพสต์เมื่อ : 2008-12-16 10:25:43 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


ประเดิมด้วยนี่เลย ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ

ฝันเป็นจริงก่อนฝันร้าย [16 ธ.ค. 51 - 02:45]

235 ต่อ 198 ม้วนเดียวขาดลอย

ที่สุด "เดอะมาร์ค" นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ถึงฝั่งฝันในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทย

ด้วยวิธีโหวตเสียงในสภาฯ ไม่ใช่มาตรา 7

ก่อนอื่นเลยคงไม่กล้าปฏิเสธกันซะทีเดียวว่า คิวนี้ไม่ใช่ได้มาเพราะชื่อชั้น "อภิสิทธิ์" หรือกระแสของพรรคประชาธิปัตย์

แต่มาเพราะสถานการณ์เอื้ออำนวย

และ เบื้องหลังความสำเร็จจริงๆก็อยู่ที่การคุมเกมของ "ทีมจัดรัฐบาลมืออาชีพ" ระดับ "พินิจ จารุสมบัติ-ไพโรจน์ สุวรรณฉวี-ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ" ที่แพ็กกันแน่นกับ "สุวัจน์ ลิปตพัลลภ-สมศักดิ์ เทพสุทิน" แตะมือกับรุ่นเก๋า "บรรหาร ศิลปอาชา-พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์" ประคองเสียงแตกค่าย "เนวิน ชิดชอบ-สรอรรถ กลิ่นประทุม" ต่อสายกับมือประสานข้ามขั้ว "สุเทพ เทือกสุบรรณ"

เช็กตัวเลขกันแบบวันต่อวัน

ประสานทางลึก จับมือมัดข้าวต้มกันแน่น

ท่าม กลางสารพัดเกมบนดิน ใต้ดิน ที่งัดออกมาบี้กันมันหยด ชนิดนาทีต่อนาที ถึงขั้นต้องล็อกลูกทีมไปเก็บตัวกันที่เซฟเฮาส์ สู้กับเกมดูดกลับ ดักอุ้มกันที่สนามบิน เจาะแซะกันเป็นรายตัว แม้แต่เกม "แทงลม" เสนอตัวเลขหลัก 50 ล้านบาท ล่อให้ ส.ส.เปลี่ยนใจ

ป่วนหน้าตักของทีมงานจัดรัฐบาล

จนกระทั่งนาทีสุดท้ายยังต้องล็อกตัวผู้แทนฯในสังกัดขึ้นรถตู้คันเดียวกันมาโหวตที่สภาฯเพื่อประกันความมั่นใจว่าไม่มีคิวแหกโผ

สรุปว่า "เงิน" ไม่ใช่ปัจจัยพลิกผัน และ "ทหาร" ก็แค่เงื่อนไขกระตุ้น

แต่ สิ่งสำคัญอยู่ที่ "สัจจะ" ของนักเลือกตั้งระดับ "บรรหาร-พินิจ-ปรีชา-สุวัจน์-สมศักดิ์-ไพโรจน์" ที่ให้สัญญาลูกผู้ชายกันไว้ไปไหนไปด้วยกัน ตั้งแต่พรรคเพื่อไทยปล่อยชื่อของ "สารวัตรเหลิม" ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือนายสันติ พร้อมพัฒน์ ออกมาเป็นแคนดิเดตนายกฯแถวสาม

กลายเป็นแรงเหวี่ยงอย่างแรงที่ก่อให้เกิดสวิงขั้ว

สุด ท้ายถึงจะพลิกเกมชูชื่อคนกลางอย่าง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ขึ้นมาเป็นนายกฯเพื่อชาติ ก็ไม่ทันกาล "นายใหญ่" แซะยังไงทีมจัดรัฐบาลมืออาชีพก็ไม่กล้ากลับคำ

ต้องรักษาเครดิตไว้เผื่ออนาคตภายหน้า

สรุปว่า โอกาสเอื้ออำนวย โชควาสนามาถึงคิวของ "อภิสิทธิ์" ซะที

แต่มันก็เสี่ยงกับ "จุดเริ่มที่นำไปสู่จุดจบ"

โดยสัญญาณร้อนๆตั้งแต่นาทีแรกที่รู้ผลอย่างไม่เป็นทางการว่านายกฯคนใหม่ชื่อ "อภิสิทธิ์" ม็อบเสื้อแดงอาละวาดปิดล้อมทางเข้าออกรัฐสภา

กดดันให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่

ก็ เตรียมตัวเตรียมใจล่วงหน้าได้ "อภิสิทธิ์" ในฐานะนายกรัฐมนตรีเดินทางลงพื้นที่ภาคอีสานกับภาคเหนือ จะต้องโดนไม่ต่างอะไรกับที่อดีตนายกฯสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดนล้อมกรอบที่ปักษ์ใต้ และเจอรองเท้าบินที่กรุงเทพฯ

และก่อนอื่นเลย ในสถานการณ์เสียงของรัฐบาลที่เกินกึ่งหนึ่งแค่ 16 เสียง หากประชาธิปัตย์ยังคงมั่นใจกับมุกเก่าๆ "กูแน่อยู่คนเดียว" ไม่ให้ราคาเพื่อนพ้อง

โดนลองของแต่หัววันแน่

สำคัญเหนืออื่น ใด เดิมพันประเทศไทยภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่โงหัวไม่ขึ้น ประเทศไทยเจอซ้ำด้วยวิกฤติการเมือง ผลพวงจากม็อบพันธมิตรฯปิดสนามบิน นักท่องเที่ยวต่างชาติขวัญผวา นักลงทุนขยาด โรงงานเจ๊ง บริษัททยอยปิดกิจการ ตัวเลขคนตกงานเพิ่มขึ้นทุกวัน

กู่ไม่กลับ หลับไม่ตื่น รอส่งขึ้นเมรุเผาจริง

ใครเข้ามาเป็นรัฐบาล โอกาสตายเกินครึ่งค่อนตัว

และ โดยสภาพที่ผู้เล่นแถวสอง ทั้ง "หล่อเล็ก" นายอภิรักษ์ โกษะ-โยธิน เจอดาบ ป.ป.ช.หมดสภาพไปแล้ว ส่วน "หล่อโย่ง" นายกรณ์ จาติกวณิช ก็ต้องลุยไฟในฐานะตัวหลักทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่

ถ้าพลาด "อภิสิทธิ์" นำทีมบริหารงานล้มเหลว คุมไฟลามทุ่งไม่อยู่

ประชาธิปัตย์หมดตัวเล่นจริงๆ.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน

เอาอะไรมาฝากนายกฯคนใหม่ ศึกษาบ้างก็ดีนะ

โพสต์เมื่อ : 2008-12-16 09:05:22 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


ผลกรรมเมื่อผิดศีล 5
ผิดศีลข้อ 1 ( ฆ่าสัตว์,เบียดเบียนทำร้ายสัตว์,กักขังทรมาณสัตว์) ผลกรรมคือ
1. มักมีปัญหาสุขภาพ ขี้โรค มีโรคเรื้อรัง รักษาไม่หาย รักษายุ่งยาก
2. มีอุบัติเหตุบ่อยๆ อาจมีอุปฆาตกรรม คือกรรมตัดรอน ทำให้ตายก่อนอายุขัย
3. อาจพิกลพิการ มีปัญหาร่างกายไม่สมส่วน ไม่สมประกอบ
4. กำพร้าพ่อแม่ คนใกล้ตัวโดนฆ่า 5.อายุสั้น ตายทรมาณ ตายแบบเดียวกับที่ไปฆ่าไปทรมาณสัตว์ไว้
6. อัปลักษณ์ มีปมด้อยด้านสังขาร
แนะ นำหนทางทุเลา -- ตั้งสัจจะว่าจะพยายามไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ทำร้ายหรือเบียดเบียน ไม่แกล้ง ไม่กักขัง ว่างๆก็ไถ่ชีวิตสัตว์ เช่นไปตลาดซื้อปลาที่เค้ากำลังจะขายให้คนไปทำกิน ให้เราซื้อไปปล่อยในเขตอภัยทาน (ท่าน้ำของวัด) หรือ ซื้อยาสมุนไพร ยาแผนปัจจุบันไปให้ถวายพระที่วัด หรือไปตามโรงพยาบาลทั้งของคนปกติและ ของสงฆ์เพื่อบริจาคค่ารักษา หรือรับอุปถัมภ์ค่ารักษาพยาบาล บริจาคเลือดและร่างกายให้สภากาชาดไทยหรือตามโรงพยาบาลต่างๆ และอื่นๆตามแต่ท่านจะสะดวกและตามกำลัง
...........................................................................

ผิดศีลข้อที่ 2 (ลักทรัพย์ ขโมย ฉ้อโกง ยักยอก ทำลายทรัพย์)

ผลกรรมคือ
1. ธุรกิจไม่เจริญก้าวหน้า เจ๊ง ขาดทุน ฝืดเคือง โดนโกง
2. มีแต่อุบัติเหตุให้เสียทรัพย์สิน ต้องชดใช้ให้คนอื่นอย่างไร้เหตุผล
3. ทรัพย์หายบ่อยๆหลงลืมทรัพย์วางไว้ไม่เป็นที่ หาก็ไม่เจอ
4. มีคนมาผลาญทรัพย์เรื่อยๆทั้งคนใกล้ตัวและคนทั่วไป
5. ลูกหลานแย่งชิงมรดก โดนลักขโมยบ่อยๆ 6.ตระกูลอับจนไม่มีที่สิ้นสุด มีแต่คนมาทำลายทรัพย์
แนะนำหนทางทุเลา --

ตั้งสัจจะไม่ยุ่งกับทรัพย์สินของคนอื่น หากอยากได้ให้ขอเสียก่อน จนกว่าเจ้าของจะอนุญาตด้วยความเต็มใจ

หมั่นทำบุญสังฆทาน บริจาคค่าน้ำค่าไฟวัด เพื่อที่ศาสนาจะได้ไม่ขาดแคลนปัจจัยส่งผลบุญให้เราไม่ขัดสน มอบทุนการศึกษาแด่ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ผลบุญทำให้เรามีปัญญาที่จะหาทรัพย์ อย่างสุจริต รวม ทั้งต้องตั้งสัจจะที่จะมีสัมมาอาชีพไม่ฉ้อโกงใครแม้แต่สลึงเดียว และอื่นๆตามแต่ท่านจะสะดวกและตามกำลัง
......................................................................
ผิด ศีลข้อ 3 (ประพฤติผิดในกาม ผิดลูกเมียเขา ล่วงเกินบุตรธิดาของผู้อื่นก่อนได้รับอนุญาต แย่งคนรักของคนอื่น,กีดกันความรักคนอื่น,นอกใจคู่ครอง,หลอกลวง, ข่มขืน,ค้าประเวณี, ล่วงเกินทางเพศต่างๆ) ผลกรรมคือ
1. หาคู่ครองไม่ได้ ,ไม่มีใครเอา, หน้าตาอัปลักษณ์ ,โดนเพศตรงข้ามล้อเลียนจนมีปมด้อย
2. เป็นหม้าย ,ผัวเมียตายจาก, ผัวหย่าเมียร้าง,คบใครก็มีเหตุให้หย่าร้างเลิกรา
3. คนรักนอกใจ ,คนรักมีชู้ ,มีเมียน้อย ,คบใครก็เจอแต่คนเจ้าชู้ ,โดนหลอกฟัน, ท้องไม่รับ, เสียตัวฟรี ,โดนข่มขืน
4. ไม่มีมิตรจริงใจ, เพื่อนฝูงไม่รัก, พี่น้องก็ไม่รัก ,พ่อแม่ทอดทิ้ง ,ชีวิต
ขาดความอบอุ่น, มีแฟนก็ไม่มีใครจริงจังด้วย,ครอบครัวไม่อบอุ่น
5. มีความผิดปกติทางเพศทางร่างกาย,ทางจิตใจ,ถูกกีดกันทางความรัก,สังคมไม่ยอมรับความรักของตน,มีความรักหลบๆซ่อนๆ
6. ต้องมีเหตุพลัดพรากจากคนรักและของรักอยู่เสมอ(ก่อนเวลาอันควร)
แนะ นำหนทางทุเลา -- ตั้งสัจจะว่าจะไม่ทำผิดเรื่องทางเพศ ไม่ทำให้ใครรู้สึกผิดหวังเสียใจในเรื่องความรัก ไม่กีดกัน ไม่คิดแย่งหรือไปรักกับคนรักของใคร ไม่คิด
ทำร้ายความรู้สึกคนรัก ไม่ล่วงเกินบุตรธิดาของใครก่อนได้รับอนุญาต รักเดียวใจ
เดียว ไม่นอกใจไม่มีกิ๊ก พอใจในคู่ครองของตนเอง
หมั่น ทำบุญถวายเทียนคู่ให้วัด ถวายธงคู่ประดับวัด ช่วยออกค่าใช้จ่ายงานแต่งงานและอื่นๆตามแต่ท่านจะสะดวกและตามกำลัง หรือให้ธรรมะด้านความรักแก่คู่รักที่รู้จัก เอาใจใส่คู่ครองคนรัก เอาใจใส่พ่อแม่ของตนเอง หากรักพ่อแม่เอาใจใส่พ่อแม่อย่างดีจะได้รับผลบุญทำให้ความรักของเราสดใสไม่ เจ็บช้ำ หากทรมาณพ่อแม่ ทำอย่างไรกับพ่อแม่ไว้ ต่อไปชีวิตรักก็จะเลวร้ายพอๆกับความรู้สึกเสียใจของพ่อแม่ที่เราได้กระทำไว้
...................................................................
ผิด ศีลข้อ 4 (โกหก ปลิ้นปล้อน กลับคำ ไม่มีสัจจะ หลอกลวงผู้อื่น ใส่ร้ายผู้อื่น ยุแยงให้คนแตกกัน ใช้วาจาดูหมิ่น พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ ขี้โม้ นินทา ด่าทอ ด่าพ่อล้อแม่ ด่าและเถียงผู้มีพระคุณ ผิดสัญญา สาบานแล้วไม่ทำตาม ) ผลกรรมคือ
1.ปากไม่สวย ฟันไม่สวย มีกลิ่นปาก มีปัญหาเรื่องปากเรื่องฟันอยู่เนืองนิจ
2.มีแต่คนพูดให้เสียหาย มีคนซุบซิบนินทาเรื่องของเรา มีคนคอยใส่ร้ายดูหมิ่นและส่อเสียดเราอยู่เสมอ
3.ไม่มีใครจริงใจด้วย มีแต่คนมาพูดจาหลอกลวง ผิดสัญญาต่อเรา
4.เกิดในสังคมที่พูดแต่คำหยาบคำส่อเสียดปลิ้นปล้อน นินทาอยู่เนืองนิจ เพียงตื่นมาก็พบเจอความไม่เป็นมงคล (สังคมที่ปากไม่เป็นมงคล)
5.หลงเชื่อคนอื่นได้ง่าย โดนหลอกได้ง่าย ไม่มีความระวังเวลาโดนโกหก
6.ไม่มีใครเชื่อถือในคำพูดของเรา, เป็นคนที่พูดอะไรแล้วคนเมิน,พูดติดๆขัดๆ, นึกจะพูดอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ
แนะ นำหนทางทุเลา — ตั้งสัจจะว่าจะไม่พลั้งปากโกหกหรือส่อเสียด นินทายุแยงใคร ไม่ด่าใคร พูดตามความเป็นจริงทุกอย่าง สิ่งใดควรพูดก็ควรพูด ไม่ควรพูดก็อดทนไว้ ไม่ด่าไม่เถียงไม่นินทาผู้มีพระคุณเช่นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ให้คำสัญญาใครไว้ต้องรักษา อย่าสาบานอะไรพร่ำเพรื่อ ว่างๆก็ออกค่าใช้จ่ายให้ค่าทำฟันแก่คนยากคนจนและอื่นๆตามแต่ท่านจะสะดวกและ ตามกำลัง หมั่นให้สัจธรรมความจริงแก่คนทั่วไป พูดแต่ธรรมะ สอนธรรมะอยู่เสมอ หมั่นพูดหรือเผยแพร่ธรรมะให้คนอื่นฟังบ่อยๆ ทำตัวให้มีธรรมะให้มีสัจจะ พูดอะไรก็ไม่ผิดคำพูดไม่กลับคำ ไม่หลอกลวงใคร คนจะเชื่อถือมากขึ้น
.............................................................
ผิดศีลข้อ 5 (ดื่มของมึนเมา เสพยาเสพติด ให้ยาเสพติด ให้ของมึนเมา ขายของมึนเมา ขายยาเสพติด) ผลกรรมคือ
1. สติปัญญาไม่ดี ขี้หลงขี้ลืม เรียนไม่เก่ง อ่านหนังสือไม่จำ อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจ
2. เกิดในตระกูลที่โง่เขลา เต็มไปด้วยอบายมุข
3. หากกรรมหนักจะเกิดเป็นเอ๋อ ปัญญาอ่อน เป็นโรคทางปัญญา
4. ลูกหลานสำมะเลเทเมา มีลูกหลานติดยาเสพติด
5. เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ไม่มีสติระวัง มีแต่ความประมาท
6. มักลุ่มหลงในสิ่งผิดได้ง่าย เป็นคนที่โดนมอมเมาให้หลงใหลในสิ่งผิดได้ง่าย (ขาดสติ)
แนะ นำหนทางทุเลา — ตั้งสัจจะว่าจะไม่ดื่มของมึนเมาและยาเสพติดทุกชนิด ไม่จำหน่าย จ่ายแจกของมึนเมาและยาเสพติดทุกชนิด หมั่นทำธรรมทานวิทยาทานให้ปัญญาความรู้แก่คนทั่วไป และอื่นๆตามแต่ท่านจะสะดวกและตามกำลัง

กลับมาถึงแล้วค่ะ

โพสต์เมื่อ : 2008-12-16 07:48:43 _ ปิดข้อความ ex-link


ตั้งแต่เมื่อคืน วันก่อนที่โรงแรมที่พัก เจอทหารเรืออเมริกันได้คุยกันเล็กน้อย
เขาว่าปกติแล้ว เขาต้องอยู่ที่เมืองไทยตอนนี้ เพราะเขาเป็นทหารเรือประจำการอยู่ที่โอกินาว่า
เป็นคนนิวยอร์ก เขาได้พักร้อนจะไปเที่ยวเมืองไทยสองอาทิตย์ แต่ในที่สุด ด้วยความปรารถนาดี
ของปชป. (รัฐบาลปัจจุบัน) เขาเลยต้องมาเที่ยวโตเกียวแทน

ดีไหมล่ะค่ะ นักท่องเที่ยวประเภทนี้จะมีอยู่อีกเท่าไหร่ แทนที่จะได้มาใช้จ่ายที่เมืองไทย
แม้ไม่มาก แต่ก็เงินเขาที่เราอยากได้ไม่ใช่หรือคะ การท่องเที่ยวพังวินาศสันตะโร
แต่ยังมีคนทำท่ายิ้มเหยๆ ออกมาขอบคุณสส.ที่โหวตให้เป็นนายกฯ ทุเรศ!

ไม่รู้สิคะ อคติหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ป้าว่าไอ้เด็กบ้า มันยิ้มไม่ค่อยสดชื่นสักเท่าไหร่
คงกังวลใจไม่น้อยที่ต้องตอบปัญหาอีกมากมาย ที่สำคัญคือตอบคำถามคนในครอบครัว
ทั้งพ่อแม่เมียและลูกว่า "มารก ไปชนะเลือกตั้งตอนไหนหรือ ไม่ยักจะรู้ ทำไมอยู่ดีๆ
ถึงได้ไปทำอุบาทว์อย่างนั้นได้ หรือพรรคนี้มันเป็นอย่างนี้มาตลอด ไอ้เรา(ครอบครัวมัน)
ก็นึกว่ามารกได้ไปเรียนจบมาจากเมืองนอกเมืองนา น่าจะเข้าใจดีถึงคำว่าประชาธิปไตย
ไหงยังเลวซ้ำซากเหมือนไอ้ชวนป๋วยปี่แป่กอ ตราลูกกตัญญูต่อทหารไปอีกจนได้ เฮ้อ!
แล้วนี่จะเอาหน้าที่ไหนไปยืดได้ คงต้องก้มหน้ารับตำแหน่งอย่างน่าอายต่อไป" ทุเรศ!

นั่งแท็กซี่กลับบ้าน ก็ฟังแท็กซี่บ่นถึงตอนปิดสนามบินว่าลำบากเดือดร้อน ทำมาหากินไม่ได้
พรรคที่ทำลายชาติ เพื่อขึ้นมาเถลิงตำแหน่ง มันน่าภูมิใจตรงไหนหรือ แล้วจะมีปัญญา
กอบกู้ไหมล่ะเนี่ย มีปัญญาแค่แย่งชิงเขามา หากทำไม่ได้ ประเทศต้องย่อยยับไปอีกเท่าไหร่
ไม่ทราบจะด่าอย่างไรดีถึงจะหายแค้น คนไทยไม่เคยจดเคยจำ ว่าพรรคนี้มันเลวอย่างไร
หากทหารไม่ช่วย มันเคยมีปัญญาเป็นรัฐบาลเองไหมล่ะนั่น

ด่าว่ารัฐบาลคุณทักษิณโกงชาติ บ้านเมือง เห็นแต่ประเทศเจริญก้าวหน้า เงินคงคลังเหลือบานเบอะ
รอให้ไอ้ทหารเลวมาปล้นไปเกือบหมดประเทศ ไอ้พรรคเฮงซวยก็ไม่เคยมีประวัติหาเงินเป็น
เลยด้วยซ้ำ มีปัญญากู้เขาอยู่อย่างเดียว คิดแล้วเศร้าจริงๆค่ะ