วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553

โธ่ถังกาละมังแตก

คนที่เคยทำไม่ได้แม้แต่ควบคุมตัวเอง ลุแก่อำนาจสาวหมัดทำร้ายผู้อื่น
ในสภาที่ทรงเกียรติ เกิดจะมีข้อคิดในการแก้ปัญหาบ้างล่ะค่ะ
มาดูกันว่ามันน่าสังเวชแค่ไหน

ผ่าทางตันวิกฤติประเทศไทย เจรจาอย่างสันติ ถอยคนละก้าว

พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร และ อธิบดีกรมตำรวจ
ให้สัมภาษณ์กับ ไทยรัฐออนไลน์ ถึงแนวทางการผ่านวิกฤติครั้งนี้ ว่า ทุกฝ่ายจะต้องฟังเหตุผล
กันก่อนว่าทำไมจึงอ้างว่าขอให้ยุบสภา และ อีกฝ่ายหนึ่งก็อ้างว่าไม่ยุบทันทีทันใดตามที่เรียกร้อง
แต่จะยุบเมื่อไหร่นั้นบอกไม่ได้ ต้องมาพิจารณาดูว่าเหตุผลที่เรียกร้องดีพอหรือไม่ ต้องฟังเหตุผลกัน
วันนี้แกนนำ นปช.บอกว่าจะคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวและจะคุยก็ต่อ
เมื่อยุบสภาแล้วเท่านั้น หากเป็นเช่นนี้ไม่มีทางที่จะไปกันได้

ข้อเรียกร้องวันนี้ไม่สมเหตุ สมผล การเรียกร้องต้องมีเหตุผล ยกเหตุผลออกมาประจักษ์ว่า
1.สภาวุ่นวายอย่างไร 2.ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมารัฐบาลทุจริตอย่างไร พร้อมนำหลักฐานมาเปิดโปง
ตรวจสอบเป็นฉากๆ รัฐมนตรีกระทรวงไหนทำผิด โกงกินบ้านเมือง ประชาชาชนไม่พอใจในสิ่งเหล่านี้
และ นายกรัฐมนตรีปล่อยปละละเลยไม่มีแก้ไข จึงออกมาเรียกร้อง เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย
และจะขอให้รัฐบาลลาออกในที่สุด

"อยู่ๆ ก็มาบอกว่ายุบสภา มันแรงไป เหมือนคนข้างบ้านทะเลาะกันเพราะกิ่งไม้ แต่ต้องการตัดต้นไม้ทิ้งทั้งต้น
มันต้องมีเหตุผลมากกว่านี้ ความวุ่นวายก็เกิดขึ้น ซึ่งถ้ายับยั้งชั่งใจไม่ได้ ทหารคงไม่ปล่อยให้บ้านเมืองเละเทะ
เกิดปฎวัติรัฐประหารแน่นอน รัฐบาลเองก็ต้องบริหารระดมความคิดกันทั้ง ครม. ทหาร 3 เหล่าทัพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ
มวลชนองค์กรต่างๆ ต้องร่วมกันหาทางออก และ กลุ่มผู้ชุมนุมเองต้องลดเงื่อนไข ถอยกันคนละก้าว รัฐบาลก็ระดม
ให้ความรู้ ความเข้าใจกับประชาชนในสิ่งที่ถูกต้อง ส่วนคนที่ชุมนุมนั้นก็ต้องปล่อย หากเป็นการชุมนุมโดยสงบสันติ"

พล.ต.อ.ประทิน กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลต้องเร่งชี้แจงประชาชนว่าไม่สามารถทำตามข้อเรียกข้องของกลุ่มคนเสื้อ แดง
ได้เพราะอะไร การยุบสภานั้นยังไม่มีเหตุเพียงพอ ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันต้องเร่งประสานเชิกรุุก
ทำความตกลงกับแกนนำผู้ชุมนุม จุดอ่อนของรัฐบาลตั้งแต่เริ่มต้นไม่สมควรปล่อยให้มีการเดินทางเข้ามาชุมนุม
ในพื้นที่่ส่วนกลางมากนัก มีอำนาจสั่งการกำกับดูแลในรอบต่างจังหวัดควรสกัดไว้ก่อน เพราะการมาชุมนุมกัน
และมีวิธีการแสดงออกมากมายในลักษณะทำลายความน่าเชื่อ ถือ ทำให้ทุกคนผวา หวาดหวั่น เคร่งเครียด หวาดกลัว
ว่าจะรบกันเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตามความเสียหายครั้งนี้ต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งสังคม

"ต้อง ใช้เหตุผล ไม่ใช่มายื่นคำขาดฝ่ายเดียวมันไม่ใช่ แกนนำ นปช.คงต้องลดลงมาหน่อย
รัฐบาลเองก็ต้องดูกรอบกฎหมาย ตามความชอบธรรม คำนึงถึงเสถียรภาพและการบริหารที่ดี
ที่จะนำพาประเทศให้อยู่อย่างปกติสุข ผมเชื่อว่ารัฐบาลมีหลักการที่จะดำเนินการไปในทิศทาง
ที่ดีได้" พล.ต.อ.ประทิน กล่าวในที่สุด

เฮ่อ อ่านแล้วจะเป็นลม หากไมค์จ่อปาก แล้วไม่รู้อะไรก็บอกนักข่าวเขาไปตรงๆก็ได้มั้ง
ว่าผมไม่สะดวกออกความเห็น การที่พูดโดยไม่รู้อะไรเอาแต่พล่าม มันไม่ได้ทำอะไรให้
ดีขึ้น แต่มันแสดงให้เห็นความขี้เท่อ อันแสนทุเรศเสียมากกว่า

ให้แค่ 2 ข้อ ที่ยกมาก็แย่แล้ว ถามจริงๆว่าวันทั้งวันทำอะไรบ้าง ไม่รู้หรือว่าสภาวุ่นวาย
อย่างไร การที่ส.ส.รัฐบาลไม่มาร่วมประชุม (การสัมภาษณ์นี้ ยังไม่เจอตอนที่รัฐบาล
เขาเอาทหารมาปิดล้อม)แล้วเรื่องโกงกินของรัฐบาลน่ะ ไม่รู้จริงๆหรือ หรือเพราะ
รักชอบรัฐบาลนี้เป็นส่วนตัว เลยแกล้งทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ดันออกมาพล่าม
ได้ว่าไม่รู้ว่ารัฐบาลนี้โกงกินอย่างไร

ต่อมาก็ทำทีว่าจะเข้าใจสถานการณ์ดี "ส่วนคนที่ชุมนุมนั้นก็ต้องปล่อย หากเป็นการชุมนุมโดยสงบสันติ"
แต่หนอยแน่ ต่อมาดันพูดว่า"จุดอ่อนของรัฐบาลตั้งแต่เริ่มต้นไม่สมควรปล่อยให้มีการเดินทางเข้ามาชุมนุม
ในพื้นที่่ส่วนกลางมากนัก มีอำนาจสั่งการกำกับดูแลในรอบต่างจังหวัดควรสกัดไว้ก่อน"
อ้าวไอ้เวร พูดออกมาได้ไง แค่นี้ก็แสดงให้รู้แล้วว่าแกเองก็เข้าข้างรัฐบาลเต็มที่
จะมาขอให้ถอยคนละก้าว ไม่เอาโว้ย ไม่ต้องถอยแล้ว "ยุบสภา"ไปเลย พูดออกมาได้
การยุบสภาไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มันไม่เป็นตรงไหนว้า เขาก็บอกว่านายกฯมีสิทธิ์
ยุบสภาได้ ไม่ได้ขอให้พระราชทานนายกฯม.7สักหน่อย อันนั้นน่ะไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
ไอ้นายกฯเด็กอ่อนของแกยังเคยทำมาแล้วเลย

มาตอนนี้ดันมาเคร่งครัดเรื่องรัฐธรรมนูญ เวลาทหารมันออกมาฉีกรัฐธรรมนูญ
กันหน้าด้านๆ ไม่ออกมาให้ความคิดเห็นบ้างล่ะ โธ่ไอ้เวรเอ๊ย แก่แล้วแก่เลย
แท้ๆ

ไม่มีความคิดเห็น: