สันตาปทุกข์ | |
โพสต์โดย : ป้าปากเกร็ดคนเดิม![]() ขอเสนอธรรมะจากข้อคิดของคุณลุงแถมอีกข้อค่ะ เป็นธรรมะจาก กระรอก อ่านแล้วอาจสบายใจขึ้น เรื่องของเรื่องคือ ที่บ้านมีต้นขนุนใหญ่อยู่หน้าบ้าน คุณลุงเขานอนเล่นอยู่ในบ้าน ก็เห็นกระรอกมันเจาะ ลูกขนุนอยู่ ใครเคยเห็นก็จะรู้ว่ากระรอกนั้นมันเจาะ ไปเรื่อย ไม่กินเป็นลูกๆหรอกค่ะ เจาะลูกโน้น แล้ว มาเจาะลูกนี้ ทำให้เสียไปหมดทุกลูก คุณลุงเขาก็โกรธสิคะ โกรธกระรอก ที่มาทำลาย ลูกขนุน แต่ยังไม่ได้ทำอะไร ก็จ้องดูว่ามันจะทำ อย่างไรต่อ ก็เห็นว่ามันก็โดดไปมาเปลี่ยนลูกโน้นบ้าง ลูกนี้บ้าง ยิ่งเห็นก็ยิ่งโกรธ แต่แล้วก็กลับเกิดความสว่างวาบขึ้นมาในสมอง คิดได้ว่า เออ ที่เราโกรธนี่ โกรธเพราะอะไร โกรธเพราะเราคิดว่าขนุนนั้นเป็นของเรา กระรอก แอบมาเจาะได้ไง นี่แหละค่ะ การยึดติด ถือว่าเป็นของเรา ทั้งๆที่ ไม่มีอะไรเป็นของเราทั้งนั้น ในโลกนี้ ไม่มีอะไร เป็นของเราเลย แม้แต่ร่างกายของเราก็ไม่ใช่ของเรา วันหนึ่งเมื่อต้องตาย ก็ยังเอาติดไปด้วยไม่ได้เลย คิดได้ดังนั้นใจก็สงบขึ้น คิดได้ว่ากระรอกมันคงคิดได้ก่อนเรา ว่าขนุนนี้ไม่มีเจ้าของ เป็นของธรรมชาติ มันจึงมีสิทธิ์ เจาะกินได้โดยชอบ ธรรม ถ้ามันรู้ว่าขนุนมีเจ้าของ มันคงขออนุญาตก่อน แต่เมื่อมันไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ (ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่มีใครเป็นเจ้าของ) ทำไมมันจะเจาะไม่ได้ เห็นไหมคะ แค่พลิกความคิดนิดเดียวก็ไม่ต้องแล่นออกไป สร้างกรรมเพิ่มด้วยการเอาหนังสะติ๊กยิงกระรอก สัตว์โลก ก็มีกรรมเป็นของตนเอง อย่าไปยึดติดว่าตัวกูของกูอยู่เลยค่ะ | ID # 728608 - โพสต์เมื่อ : 2008-10-10 13:06:06 _ ปิดข้อความ สันตาปทุกข์-ทุกข์เกิดจากกิเลส คือ โลภ โกรธ หลง วันนี้ขอเสนอ ธรรมะหน่อยนะคะ แก้เซ็ง เขาว่า ไม่มีอะไรจะปลอบประโลมใจเวลาทุกข์ได้เท่าศาสนา จะศาสนาอะไรก็เหมือนกันแหละค่ะ เพราะต่างก็สอน ให้เป็นคนดีกันทั้งนั้น แต่เผอิญ ป้านับถือศาสนาพุทธ เลยขอเสนอแง่คิดทางพุทธศาสนาแล้วกันนะคะ พระท่านว่าคนเรามีทุกข์ เกิดจากหลายอย่าง แต่ที่เอามาเขียนวันนี้ ดูมันเข้ากับบรรยากาศดี ทุกข์ อันเกิดจากความโลภ โกรธ หลง ไม่ใช่แต่เราชาวบ้านหรอกมังคะที่ทุกข์ คนที่เขาหลงคิดว่า ทุกอย่างเป็นของตัวเองก็ต้องทุกข์ เป็นธรรมดา คนที่โลภ อยากได้ของของคนอื่น ของที่ไม่ใช่ของตัว อาจแย่งเอามาได้แต่ก็คงต้องทุกข์ใจ อยู่ดี ยิ่งการจะเก็บรักษาไว้ มันคงยิ่งยากขึ้น เมื่อยาก มันก็ต้องทุกข์ อันนี้ไม่ใช่แต่สิ่งของหรอกนะคะ แม้แต่ นามธรรมเช่น อำนาจ หรือความศรัทธา ก็น่าจะนับรวมไป ด้วยกัน เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ก็น่าจะทำใจให้สงบ เพราะไม่มีใคร ที่จะมีความสุขตลอดไปหรอกค่ะ พระท่านว่า "ความสุขในโลกนี้ไม่มี มีแต่ความทุกข์น้อย" และถึงแม้จะมีความทุกข์ ท่านก็ว่า ถึงจะทุกข์ก็ทุกข์ไม่นาน ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ถึงทุกข์ แสนสาหัส แล้วเดี๋ยวมันก็หายไป อย่าไปยึดติด ต้องปล่อยวาง การสร้างสุขก็ไม่ใช่เรื่องยาก มีตั้งหลายวิธี ล้วนสร้างได้ด้วยตนเอง เพียงแต่การยอมรับ ความจริงได้ แค่นี้ก็ทำให้สุขใจแล้วค่ะ เหมือน ที่คุณทักษิณ คิดได้และเขียนบอกเราว่า "วันนี้ ไม่ใช่วันของผม" แค่นั้นแหละค่ะท่านก็คงพ้นทุกข์ ไปแล้ว ไม่ต้องมายื้อแย่งอีกต่อไป พวกเราสิคะ ปล่อยวางเสียบ้าง คิดเสียบ้าง ว่าประเทศนี้ก็ไม่ใช่ของเราคนเดียว เราทำหน้าที่ของเรา ให้ดีที่สุด มันจะเป็นอย่างไรก็ต้องปล่อยไป ไม่ได้ มาชักชวนให้ท้อหรือปล่อยวางหรอกนะคะ เพียงแต่ ว่าเห็นว่า ถ้าหมกมุ่น ครุ่นคิด ก็ทุกข์ เปล่า รักษาอะไรก็ไม่สำคัญไปกว่าจิตใจของตัวเอง หาก ใจเสีย ไปเสียแล้ว จะไปสู้อะไรกับใครได้ ต้องรักษาใจก่อนนะคะ เมื่อใจเข้มแข็ง เมื่อนั้นแหละ จะสู้อะไรก็จะสำเร็จ สู้ด้วย สติ ปัญญา ดีกว่าวิ่งเข้าชนโดยขาดสติ การถอยออกมาให้ ฝุ่นจางลงก็น่าจะคุ้มค่านะคะ ขอจบการเสนอธรรมะของวันนี้แต่เพียงนี้ หวังว่าจะทำให้เพื่อนสมาชิกฉุกคิดได้บ้าง และสร้างสุขได้ด้วยตนเองนะคะ |
วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2551
สันตาปทุกข์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น