วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551

พญาไม้นี่คือเผด็จ ภูรีปฏิภาณ หรือเปล่าคะ

ID # 724372 - โพสต์เมื่อ : 2008-09-30 10:57:48 _ ปิดข้อความ


เคยได้ยินมาว่างั้น ถ้าใช่ เกิดอะไรขึ้น เข้าไปอ่านจากห้องโน้นมาสองวันแล้ว
มันแปลกๆ เพราะเท่าที่รู้ นายคนนี้เขาเป็นพวกพันธมิตรไม่ใช่หรือ
ไม่เชื่อลองอ่านดูสิคะ แปลกอย่างที่ป้าว่าหรือเปล่า

พญาไม้ทูเดย์ - พญาไม้ทูเดย์

วันปลอดกฎหมาย


ถามกันมาว่า ..ที่นายกรัฐมนตรี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไปแล้วมีคนมาชี้หน้าด่า..
ว่า ขายชาติหรืออะไรต่างๆ นั้นฝ่ายถูกด่าจะทำอะไรได้บ้างแน่นอนว่า..
การกล่าวหาว่าขายชาตินั้น เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทแน่นอน..
หากฝ่ายผู้ถูกด่าจะกล่าวหาและแจ้งให้ ดำเนินคดี

ก็ยังไม่รู้ว่า..ในคดีที่เป็นความส่วนตัวนี้..ก็ขึ้นอยู่ กับผู้เสียหาย
แต่ที่..แย่กว่านั้นก็คือ..การกระทำเช่นว่าเป็นการกระทำที่มี
การวางแผนไว้ก่อน..เพราะมีหลักฐานชี้ชัดว่าผู้ที่ไปกล่าวเท็จ
และหมิ่นประมาท นั้นล้วนแต่เป็นผู้อยู่ในแวดวงผู้สนับสนุนพันธมิตรฯ
มันก็เป็นเรื่องน่าหดหู่ ใจ..หดหู่ใจที่ประเทศของเรานั้น..มันเป็นไปได้
ถึงขนาดนี้เลยหรือ..กลุ่มแก๊ง ที่สามารถกระทำการเหยียบย่ำกฎหมาย
ได้ ทุกมาตรา..ใช้ทีวี วิทยุ และหน้าสิ่งพิมพ์โดยไม่หวาดหวั่นต่อตัวบทกฎหมาย..แถมยังท้าทายจะทำให้แผ่น ดินลุกเป็นไฟ หากใครเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งๆ
ที่ปรากฏตัวอยู่ต่อหน้า ทั้งๆ ที่มีอาญาติดตัว..ข้าราชการผู้มีหน้าที่
ต่าง..เหยียบย่ำมาตรา 157 แห่งกฎหมายอาญา.."ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่"

ผิดกันตั้งแต่ผู้ บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงมาปัญหาอยู่ที่ว่า..ถ้าวิธีการชี้หน้าด่า
ยังปรากฏ อยู่ต่อไป..และอาจจะลามปามไปถึงรัฐมนตรีท่านอื่นๆ จะเป็นอย่างไร
อะไร..ทำให้พวกเขาสามารถอยู่เหนือกฎหมายได้ ในเมื่อทั้งมาตรา 2 เขียนไว้ว่า
บุคคลจักต้องรับโทษในทางอาญา และมาตรา 4 เน้นย้ำอีกครั้งว่า ผู้ใดกระทำ
ความผิดในราชอาณาจักรต้องรับโทษตามกฎหมายใคร..ทำให้พวกเขาสามารถ
อยู่เหนือกฎหมายได้..ในขณะที่คนอื่นๆ ต้องถูกติดตามนำตัวมาดำเนินคดีตาม
กฎหมาย ตามที่ศาลมีหมายให้ติดตาม

มาตรา 30 แห่งรัฐธรรมนูญ..ทั้ง 40 และ 50 มีข้อความตรงกันว่า
..บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมาย และได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
เท่าเทียมกัน

มาตรา 33 แห่งรัฐธรรมนูญ..สำแดงอีกว่า..การเข้าไปในเคหสถานโดย
ปราศจากความยินยอมของ ผู้ครอบครอง หรือการตรวจค้นเคหสถาน
จะกระทำมิได้แล้วอะไรเกิดขึ้นกับ..ทำเนียบรัฐบาลถึง วันนี้เราจะไปมี
กฎหมายกันทำไม..งดเว้นการใช้กฎหมายสัก 2-3 วัน..นิรโทษกรรมกันล่วงหน้า..1-2 ตุลาคม 2551 เป็นวันปลอดกฎหมายหลังจากนั้น
ประเทศไทยจะดีขึ้น

พญาไม้

ID # 1131688 - โพสต์เมื่อ : 2008-09-30 14:21:53 _ ปิดข้อความ


มันสงสัยน่ะค่ะ ไม่เห็นมีใครตอบ เว้นคุณรีเบล(ขอบคุณค่ะ)
เลยไปค้นเจอ ว่าที่แท้ตีกันแล้วนั่นเอง และก็อาจเป็นแบบที่
คุณรีเบลว่าจริงๆด้วย สมัยนี้ไว้ใจใครได้ซะที่ไหน จริงไหมคะ
ขอโทษทีค่ะ กะจะโพสท์ตั้งแต่เช้า พอดี เนตมันไม่เป็นใจ
กลับมาถึงได้โพสท์ ที่ไหนได้มีคนมาโพส?ืกันหลายท่านแล้ว
เอาเป็นว่าขอบคุณทุกท่านนะคะ ลองอ่านดูค่ะ

สงครามสื่อ'รุ่นขาใหญ่' พญาไม้'ปะทะ'สนธิลิ้มฯ ใครกันใช้อาชีพ'นสพ.' เที่ยวหากินเพื่อตัวเอง!
Friday, 08 February 2008

สงครามสื่อ "รุ่นใหญ่" ปะทุอีกรอบ คราวนี้ "สนธิลิ้มฯ" พุ่งเป้าตรงใส่ "พญาไม้-เผด็จ ภูรีปฏิภาณ" แห่ง "บางกอกทูเดย์"
ถึงขั้นปูดเป็นสายตรงทักษิณ ตัวกลางจัดตั้งรัฐบาลหมัก
จวกยับ "เหยียบเรือสองแคม" ไม่คิดถึงประเทศชาติ
เลยเจอสวนกลับทันควัน ด้วยข้อเขียนที่ทรงพลัง "คำโกหก
จะถูกประจานจากความจริงที่ฝังอยู่" ซัดกลับใครกันแน่
ที่เอาความเป็นนักนสพ.ไปกินในทิศทางที่ไม่ใช่
แฉกลับถึงขั้น "ประชัย" ถูกวางแผนให้ไปพบกับ "ทักษิณ"
ในงานศพของบุพการีตัวเอง

เรา "ไทยอินไซเดอร์" จึงขอนำ "ถ้อยคำ-เนื้อหา" ของทั้ง
"สนธิ ลิ้มทองกุล" และ "เผด็จ ภูรีปฏิภาณ" มา ให้รับทราบกัน
ทั้งสองด้าน เพื่อให้ทราบถึงข้อเท็จจริงของทั้งสองฝ่าย
และสุดท้ายจะเชื่อใครก็เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์และรอคอยกันเอง...

ค่ำวันที่ 6 ก.พ. 2551 ในรายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" ออกอากาศทาง "เอเอสทีวี" ดำเนินรายการโดยนายปานเทพ
พัวพงษ์พันธ์ และนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ได้ออกมาเตือน
"ครม.สมัคร 1" ให้สนองพระบรมราโชวาท ทำงานเพื่อ 63
ล้านคน ไม่ใช่เพื่อคนบางคน หรือบางครอบครัว พร้อมจวกยับ
"หน้า 11 มติชน" นั่งเทียนวิเคราะห์พันธมิตรประชาชน
เพื่อประชาธิปไตยเครียด กลัวโดนเช็กบิล ทำให้ในเวลาต่อมา
นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งเครือผู้จัดการ และอดีตแกนนำ
พันธมิตรฯ ต่อสายเข้ามาพูดคุย โดยยืนยันว่า ชีวิตทุกวันนี้มี
แต่ความสงบ และมีเนื้อหาช่วงหนึ่งที่น่าสนใจคือ

"ผม ทำนายถูกหมดทุกเรื่อง แล้วผมจะบอกให้รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น รัฐบาลชุดนี้มันจะกัดกันเหมือนหมาภายในระยะเวลาไม่เกิน
3 เดือนนี้...ผมทำนายไว้ก่อนล่วงหน้าเลย มันจะแย่งกันทำมาหา
กิน เสร็จเรียบร้อยแล้วมันก็จะพยายามทางใครทางมัน
โดยคุณทักษิณ ก็พยายามที่จะใช้นอมินีของตัวเองสายตรง
ไม่ว่าจะเป็นหมอเลี้ยบ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่เป็นสายตรง
ของเขา พยายามเคลียร์ตัวเขาเองให้ได้ ผมก็รู้ทำไมผมจะไม่รู้
มีหนังสือพิมพ์บางคนทำงานให้คุณทักษิณมาตลอด อย่างคอลัมน์
ในบางกอกทูเดย์ คนเขียนคือคุณเผด็จ ภูรีปฏิภาณ ที่มีฉายาว่า
"พญาไม้" คุณเผด็จ เป็นมือของคุณทักษิณ บินไปอยู่กับคุณทักษิณ ที่ฮ่องกง รับงานคุณทักษิณมา มาเชื่อม

จริงๆ แล้วคุณเผด็จเป็นคนตั้งรัฐบาลชุดนี้ คุณเผด็จประสาน
คนโน้นประสานคนนี้ เสร็จเรียบร้อยคุณเผด็จก็ปล่อยข่าว
อย่าให้ผมพูดเลย ผมรู้อะไรมากกว่านี้ ผมจะบอกอะไรให้
อย่างนึงนะครับ คนพวกนี้สมัยที่ผมสู้กับคุณทักษิณ ก็เหยียบ
เรือทุกแคม คนพวกนี้จะเป็นคนซึ่งยึดถือผลประโยชน์ของตัวเอง
เป็นหลัก ไม่เคยคิดเรื่องของชาติบ้านเมืองเลย แม้แต่นิดเดียว
สนใจอยู่อย่างเดียวเท่านั้นเองว่า กลุ่มตัวเองจะได้อะไร และคน
พวกนี้ก็อ้างความเป็นนักหนังสือพิมพ์นะครับ เดินสายพูดกับคนนู้น
บ้าง พูดกับคนนี้บ้าง คือ ไปสร้างภาพว่าตัวเองนี้แน่ ตัวเองเนี้ย
ไม่ได้แน่อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

เสียดาย แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน ทำให้จรรยาบรรณ
อาชีพนักหนังสือพิมพ์เนี้ยใช้ไม่ได้ ผมเฉยๆ คือเรื่องเนี้ย
คุณปานเทพแล้วจริงๆ ผมไม่อยากให้คุณเอาเรื่องพวกนี้มาพูด
แต่ว่าไหนๆ ก็พูดแล้ว ทำไมนะคุณปานเทพจำไม่ได้หรือ
สมัยที่เราสู้กับคุณทักษิณ ผมโดนใส่ร้ายป้ายสีมามากขนาดไหน

เพราะฉะนั้นแล้ว นสพ.บางกอกทูเดย์ เป็นนสพ. ซึ่งอยู่ภายใต้การนำ
และการบริหารของ คุณเผด็จ ภูรีปฏิภาน คุณไพวงษ์ เตชะณรงค์
คนพวกนี้เป็นกลุ่มคนกลุ่มเดียวกัน ตอนนั้นที่เขายึดอำนาจมา
คนพวกนี้ก็ไปเกาะกับ พล.อ.วินัย ภัทรยกุล นะครับ ไปให้คำปรึกษา
อย่างนู้น อย่างนี้ พอวันนี้คมช. หมดอำนาจ ก่อนจะหมดอำนาจ
ก็ไปเกาะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นะครับ วันนี้ก็เกาะอยู่กับ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มันไม่มีอะไรใหม่เลยในชีวิต คนพวกนี้
เมื่อ 10 ปี ที่ผ่านมา ที่ผมเคยรู้จัก

วันนี้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผม ยังไม่รู้เลยว่าชีวิตคนพวกนี้
วันที่จะตายกันไปเนี้ย ถ้าเขาทบทวนย้อนหลังเนี้ย
เขาจะเสียดายเวลา เสียดายวิชาชีพ แล้วเสียดายบทบาทที่เขาเคยมีอยู่
ผมไม่อยากจะเรียกคนพวกนี้ว่าเป็นนักหนังสือพิมพ์นะครับ
แต่ผมจะเรียนให้ท่านผู้ชมทราบแล้วก็ คุณแอน คุณปานเทพ ทราบ
ผมมีความสุขกับชีวิตผมมาก ผมมีความรู้สึกว่าถ้าผมวันพรุ่งนี้ ผมจะต้องตายไป ผมจะตายอย่างมีความสุขที่สุด
เพราะว่าผมได้เห็นสัจธรรม ว่าคนเราเนี้ยมันหนีพ้นกฎแห่งกรรมไม่เจอ

แล้วคนพวกนี้อีกไม่ นานก็จะหนีไม่พ้นกฎแห่งกรรม คอยดูซิครับ
พนันกับผมได้เลย คนเขาบอกภายใน 1 ปี ผมบอกว่าไม่ต้องถึง 1 ปี หรอก
ผมจะบอกให้รู้ว่าไม่เกิน 90 วันนี้ คอยดูก็แล้วกัน ไม่เกินพฤษภาคมนี้
ถ้าใครเคยคิดว่าผมทายอะไรแล้วถูกต้องนะ แล้วยังเชื่อนะ
ให้ จับตาดูดีๆ ผมเชื่อ ผมบวชเรียนมาแล้วครั้งนี้ ผมปฏิบัติธรรมมาอย่างหนัก ผมเชื่อในกฎแห่งกรรม กฎแห่งกรรมกำลังมาแล้วนะครับ ขอบคุณมากครับ"

นับเป็นการ "เปิดศึก" กับ "นักนสพ.รุ่นใหญ่" ของ "สนธิ ลิ้มทองกุล" อีกครั้ง

จนเป็นที่มาของบทความ "แด่ สนธิ ลิ้มทองกุล" ของนักเขียนที่ชื่อ "พญาไม้"
ที่ตีพิมพ์ในนสพ.บางกอกทูเดย์ วันเสาร์ที่ 9 ก.พ. 2551 หน้า 2 ในคอลัมน์ "พญาไม้ทูเดย์" ซึ่งวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ. 2551
มีเนื้อหาแบบดุเด็ด-เผ็ดมันส์ตามสไตล์...ดังนี้



แด่ สนธิ ลิ้มทองกุล

สำหรับ คนเขียนหนังสือแล้ว..ทุกข้อเขียนจะถูกบันทึกถูกเก็บไว้ในหอสมุดแห่งชาติ..
ว่ากันว่าข่าวทุกข่าว คอลัมน์ทุกคอลัมน์ จะถูกฝังไว้ที่นั่น..

ย้อนหลังกันไปได้ยาวนาน เกินกว่าชีวิตท่าน ชีวิตเรา

ดังนั้น..จึงไม่มีคำโกหกใดๆ จะยั่งยืนอยู่ได้..ในอาชีพนี้..ไม่มีคำโกหกใดๆ ที่พิสูจน์ไม่ได้ในอาชีพนี้

สนธิ ลิ้มทองกุล..นักโทษในระหว่างสู้คดีหมิ่นประมาท..ที่กำลังฎีกา..ได้กล่าวถึง..บางกอกทูเดย์และ "พญาไม้" ว่า

ทำ งานให้กับทักษิณ พูดว่า..เป็นคนตั้งรัฐบาลชุดนี้..กล่าวหาว่าคนพวกนี้จะเป็นคนซึ่งยึดถือผล ประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก ไม่เคยคิดเรื่องชาติบ้านเมืองเลย ฯลฯ

หอ สมุดแห่งชาติ..เปลี่ยนแปลงวันเวลาไม่ได้..คำโกหกมากมายจะถูกประจานจากความ เป็นจริงที่ฝังอยู่ในนั้น..พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จัดรัฐบาลที่บ้านสุโขทัยของ สนธิ ลิ้มทองกุล..

ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในงานศพของบุพการีสนธิ ลิ้มทองกุล..เกือบทุกวัน..ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ถูกวางแผนให้ไปพบกับ ทักษิณ ชินวัตร ในงานศพ..สนธิเล่าว่าทักษิณไปกินก๋วยเตี๋ยวบ้านเขา ฯลฯ

"ผมไม่อยากเรียกคนพวกนี้ว่าเป็นนักหนังสือพิมพ์นะครับ" สนธิ..พูด..แต่ใครกันที่เอาความเป็นหนังสือพิมพ์ไปหากินในทิศทางที่ไม่ใช่..

ใครกำลังด่า พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร..เพราะไม่สัมฤทธิ์ในสิ่งที่ตนประสงค์

ผิด ด้วยหรือ..ที่นักหนังสือพิมพ์สักคน..จะไม่อดทนให้กับ..ความวุ่นวายไร้กติกา ที่จะพาบ้านเมืองไปสู่ความล่มจม..และใช้ความรู้จักประสานผู้คนเข้ามาหากัน เพื่อให้บ้านนี้เมืองนี้เดินไปในทิศทางที่ไม่ใช่ความวุ่นวาย

ผิดด้วยหรือ..ที่คนไทยสักคน..จะไปพูดถึงเหตุถึงผลกับคนการเมือง..จะช่วยลดความขัดแย้งแล้วหันหน้ากันมาสร้างความสมานฉันท์..

ถ้า ไม่ผิด..คนๆ นั้น..ก็คือคนที่ต่อสายหาบรรหาร ศิลปอาชา คนๆ นั้นให้ ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ กับ ทักษิณ ชินวัตร หรือ สมศักดิ์ เทพสุทิน เลิกแล้วต่อกัน..ถ้าการทำให้คนเกลียดกันหันมารักกัน ถ้าการทำให้คนที่ไม่เข้าใจกันหันมามองเหตุหาผล จนสามารถคบหาสมาคมกันต่อไปได้..

คนๆ นั้นก็คือผม..

และในความสำเร็จที่มากมายนั้น..มันก็ยังเป็นคนจน..และคงทนต่อการตรวจสอบในทุกรูปแบบในทุกกรณี

*พญาไม้*


อ่านจบ ถึงได้รู้ว่าฟัดกันเองอย่างนี้นี่เอง แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น
อ่านแล้วจึงเห็นชัดว่าสนธิ ลิ้มทองกุล คาดเดาอะไรไม่เคยถูก
ที่บอกว่ารัฐบาลจะเจ๊งภายในสามเดือน เมื่อวันไม่เกิด เพื่อให้คำ
พูดของตนเองถูก มารดามันเลยจัดม้อบขึ้นมาป่วนเมืองไงคะ
ป่วนอยู่ตั้งนานก็ยังไม่สำเร็จทำทุกอย่างแล้ว จนได้ข้อหากบฎเป็นรางวัล เลยกลับไปคราวนี้ไม่รู้ว่าพ่อหรือแม่(หรือช่วยกันก็ไม่รู้)
จัดตุลาการมาให้ลุงหมักแทน แถมยังไปอ้างเป็นชัยชนะได้อีก
ที่เอาลุงหมักออกจากตำแหน่งได้

ไม่มีความคิดเห็น: