ID # 724646 - โพสต์เมื่อ : 2008-10-01 10:56:33 _ ปิดข้อความ
พูดกันจังเรื่องเลือกนายกฯโดยตรง คำเสนอจากสนนท. หลายคนก็ออกมาขานรับ
แต่ประเทศไทยจะเลือกนายกฯโดยตรงได้อย่างไร ในเมื่อการปกครองของเราเป็น
แบบนี้ หากเราเลือกนายกฯโดยตรง แต่สส.เกิดไม่ได้มาจากพรรคเดียวกัน
มันจะบริหารประเทศไปได้อย่างไร ตราบใดที่เรายังใช้เสียงสส.สนับสนุนการทำงาน
การเลือกตั้งในสมัยท่านนายกฯทักษิณนั่นแหละคือการเลือกนายกโดยตรง เรารู้
ว่าหัวหน้าพรรคที่ได้เสียงข้างมาก จะต้องมาดำรงตำแหน่งนายกฯ
เราเลือกพรรคใดพรรคหนึ่ง ให้ได้เสียงข้างมาก เพื่อหัวหน้าพรรคจะได้เป็นนายกฯ
คุณทักษิณถึงได้จัดบัญชีปาร์ตี้ลิสต์(สส.ระบบบัญชีรายชื่อ) ไม่เพียงแต่เลือกนายกฯ
เรายังเลือกครม.ได้ด้วยซ้ำ เพราะดูได้จากรายชื่อสส.แบบบัญชีรายชื่อ
หากพรรคการเมืองเลือกรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ดี ก็น่าสนใจมากกว่า
พรรคที่ไปพยายามเอาชื่อใครต่อใครมาก็ไม่รู้ เพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ
เพียงเพื่อจะเอาใจนักวิชาการบางคนที่อยากเป็นสส.แต่ไม่อยากลงไปเหนื่อย
กับการเดินหาเสียง หวังเพียงว่า หากพรรคได้เสียงมากพอ ตนจะได้ติดบัญชี
ไปกับเขาด้วย
การเลือกตั้งที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นชัดอยู่แล้วว่า ประชาชนเลือกนายกฯเอง
ถามกันจริงๆว่า เมื่อการเลือกตั้งที่ผ่านมา(23 ธค. 50) มีใครไม่รู้บ้างว่า
ถ้าเลือก พลังประชาชน เราจะมีนายกฯชื่อสมัคร หรือเลือกประชาธิปัตย์
แล้วจะได้นายกฯหนีทหาร(ด้วยเล่ห์)เช่นอภิสิทธิ์ หรือเลือกชาติไทย
จะไม่ได้บรรหาร ไม่มี๊ ทุกคนรู้ ทุกคนเลือก ผลการเลือกตั้งจึงสะท้อนออกมา
ว่าเขาไม่อยากได้อภิสิทธิ์หรือบรรหารเป็นนายกฯ
สมมุติว่าหากเราลากลู่ถูกังไปจนมีการเลือกนายกฯได้โดยตรง
แล้วเกิดการโกงกันได้ ก็คิดดูสิ แค่เลือกเป็นพรรคยังพยายามโกงกันสุดฤทธิ์
แต่มันยากที่จะโกงยกแก๊งค์ เอาเข้ามาทั้งยวง แต่ถ้าคนเดียวคงไม่ยากนัก
กระมัง แล้วเกิดได้มาโด่เด่ พรรคไม่ได้เสียงข้างมาก อะไรจะเกิดขึ้น
ไม่เละเป็นโจ๊กหรือ จะไม่เกิด ฝ่ายค้านถาวรที่เฝ้าแต่เห็นไม่ดีไปกับนายกฯหรือ
จึงเห็นว่าการที่สนนท. เสนอขึ้นมานั้น เป็นเพียงต้องการจะตีขนดหางของใคร
บางคนเท่านั้นเอง เพราะสังเกตดูจากข้อเสนอแต่ละข้อ กะให้ช้อควงการไปเลย
ทำได้ไม่ได้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่สะท้อนความรู้สึกนึกคิดของประชาชนจริงๆ
ที่อยากเห็น ที่อยากให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้ ไอ้นักวิชาการมีหรือจะกล้าเสนอ
เพราะส่วนใหญ่ยังรับราชการอยู่ กินเงินเดือนหลวง หากคิดเสนออะไรที่มันตื่นเต้น
ขนาดนี้ ก็กลัวจะกระทบหม้อข้าวของตนเอง
สนนท. เป็นแค่นิสิตนักศึกษา คิดอย่างไร เสนออย่างนั้น ตำแหน่ง เก้าอี้
ยังไม่มี จึงคิดได้อย่างอิสระ ไม่เชื่อลองดูอีกทีว่าเขาเสนออะไร
1. การปฏิรูปการเมือง โดยสนับสนุนให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรงจากประชาชน ยกเลิกสมาชิกวุฒิสภา
2. การกระจายอำนาจ โดยยกเลิกการปกครองส่วนภูมิภาคที่เน้นการรวมศูนย์จากส่วนกลาง
3. ปฏิรูประบบศาล ลดอำนาจของศาลที่มีอยู่เดิม ยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
4. ปฏิรูปกองทัพ ลดงบประมาณกองทัพ ย้ายค่ายทหารออกจากเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อใช้พื้นที่สร้างสวนสาธารณะและศูนย์ฝึกอาชีพ
5. ปฏิรูประบบภาษี ยกเลิกระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม เก็บภาษีจากที่ดิน มรดกในอัตราก้าวหน้า เพื่อนำมาสร้างรัฐสวัสดิการ
6. รัฐสวัสดิการ ปฏิรูปที่ดินการรวมศูนย์โดยแบ่งที่ทำกินให้คนที่ไม่มีที่ดินเพียงพอ
เป็นไงคะ ข้อเสนอ คงไม่ใช่แค่ขนดหาง แต่เป็นกล่องดวงใจเอาเลยทีเดียว
จึงพูดได้คำเดียวว่าช่างกล้านัก น้องทำได้เพราะยังเรียนอยู่
น้องทำถูกต้องตรงเวลาดีแท้ๆ หากไปเสนอเวลาอื่น อาจถูกก่นด่า
แต่เสนอมาตอนที่คนกำลังเบื่อสุดๆ เวลาที่คนกำลังหาทางไป
จัดการไอ้พวกกบฎ เขาเลยฮือฮากัน เพราะมันสะใจ ถูกใจจนต้องซู้ดปาก
เพราะฉะนั้นอย่าไปกังวลอยู่ที่การเลือกนายกฯโดยตรงเลยค่ะ
เอาแบบรธน.ปี 40นั่นแหละ มาแก้ไขส่วนบกพร่องเล็กน้อย
ไม่ช้าทำได้ทันที ไม่เสียเวลา มาเลือกตั้งสสร.อีก รัฐบาลมีสิทธิ์
เต็มที่อยู่แล้ว รีบทำเถอะ ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน ตอนนี้เป็นเวลา
เหมาะ เพราะฝ่านตรงข้ามถูกตุ๊ยท้องลงไปกองให้นับอยู่แล้ว
ถึงเวลาเผด็จศึก เอาชนะให้เด็ดขาดเสียที อย่ามัวหน่อมแน้ม
คนดูเขาเบื่อ เดี๋ยวก็โห่ไล่หรอก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น