ID # 724356 - โพสต์เมื่อ : 2008-09-30 10:02:30 _ ปิดข้อความ
หน้าที่ของ ส.ว. มีดังนี้
1. กลั่นกรองกฎหมาย
2. ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน โดยการตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรี หรือเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริง
หรือชี้แจงปัญหาโดยไม่มีการลงมติ ฯลฯ
3. เลือก แต่งตั้ง ให้คำแนะนำ หรือให้ความเห็นชอบให้บุคคลเข้าดำรงตำแหน่ง ดังนี้
-ประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั้ง
-ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา
-ประธานกรรมการและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
-ประธานศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
-กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม
-ประธานศาลปกครองสูงสุดและตุลาการในศาลปกครองสูงสุด
-กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง
-ประธานกรรมการและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
การทุจริตแห่งชาติ
-ประธานกรรมการและกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
4. วุฒิสภามีหน้าที่พิจารณาและมีมติให้ถอดถอน
-นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ส.ส. ส.ว. ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญประธานศาลปกครองสูงสุด อัยการสูงสุด
-กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
-ผู้พิพากษาหรือตุลาการ พนักงานอัยการ หรือหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมหรือเทียบเท่าออกจากตำแหน่งถ้ามีพฤติการณ์
ร่ำรวยผิดปกติส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ส่อว่ากระทำผิดต่อหน้าที่ในการยุติธรรม
หรือส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย
จากอำนาจหน้าที่ จะเห็นว่ามีล้นฟ้า
การให้อำนาจหน้าที่ของสว. มากมายเช่นนี้จึงน่าจะก่อให้เกิดปัญหา
ในการบริหารในการบริหารราชการแผ่นดินเป็นอย่างมาก
เพราะจากการที่ปรากฎว่า มีสว.คนหนึ่งไม่ทำอะไรเลยนอกจากจ้องจับ
ผิด สส. นายกฯและคณะรัฐมนตรี และเป็นที่น่าสังเกตว่า จะคอยจ้อง
จับผิดแต่ในซีกของรัฐบาล จึงมองเป็นอื่นใดไม่ได้ นอกจากจ้องทำลาย
การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ต้องการป่วนบ้านเมือง
เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าขณะนี้ปัญหาต่างๆที่รุมเร้าประเทศ ทั้งจาก
ภายในและภายนอก ก็ยากเกินกว่าที่มนุษ์ธรรมดาจะแก้ไขได้เพียง
ลำพังคนเดียว แต่ต้องระดมสุดยอดฝีมือ มาช่วยเหลือ สุมหัวกัน
หาทางออกให้ประเทศ
แต่จากรธน.ที่พิกลพิกาลฉบับนี้ จึงทำให้คนดีมีฝีมือไม่กล้า
ก้าวเข้ามาอาสา หรือแม้แต่เมื่อได้รับการทาบทาม ก็ต้องรีบปฏิเสธไป
เพราะอะไร หรือ ถ้าไม่ใช่เพราะ การที่ถูกจ้องจับผิด พร้อมกันนั้นยังมี
กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ที่คอยช่วยขย้ำ ซ้ำเติมอีกเป็นทอดๆ
การยื่นเรื่องถอดถอนนายกฯสมชาย ทั้งๆที่ยังไม่ได้แถลงนโยบาย
ต่อรัฐสภาเลย(หมายความว่ายังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้) มันสมควรหรือไม่
จะมองเป็นอื่นใดจะได้หรือ นอกจากจ้องล้มรัฐบาล จริงอยู่ กฎหมายต้อง
เป็นกฎหมาย แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ากฎหมายต้องบังคับใช้กับทุกคน
ไม่เช่นนั้นคำพูดที่สวยหรู ที่ว่า ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
ก็เป็นแต่เพียงลมที่ผ่านจากช่องก้นเท่านั้นเอง
รัฐบาลท่านสมัครเพิ่งจากไปด้วยข้อหาที่เขาหัวเราะกันทั้งโลก
เพิ่งอ่านข้อเขียนของอ.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัยเรื่อง"ผ่าคำวินิจฉัย
ศาลรัฐธรรมนูญที่12/2551(กรณีการจัดรายการโทรทัศน์ของ
นายสมัคร สุนทรเวช) พบว่าการวินิจฉัยเต็มไปด้วยอคติ ทำไป
เพียงเพื่อหวังจะดึงคุณสมัครออกจากตำแหน่งเท่านั้นเอง
การที่มีสว.ผู้หนึ่งที่วันทั้งวันไม่ทำอะไรจ้องจับผิด หาข้อผิด
รัฐบาล เพียงเพื่อจะให้ล้มไป มันดีและน่าทำตรงไหน มันทำให้
ประเทศชาติฝ่าวิกฤตไปได้หรืออย่างไร รัฐบาลใหม่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน
ก็มาโดนตรวจสอบเสียแล้ว จะถือว่าเป็นการป้องกันไว้ก่อนอย่างนั้นหรือ
หรือต้องล้มไปให้หมดจนกว่าพวกของตัวจะได้มาคว้าตำแหน่งไป
หรือต้องรอให้ประเทศล่มสลายไป จนมีคนออกมาว่าทนไม่ไหวแล้ว
ซึ่งครั้งนี้อาจไม่ใช่ทหารอย่างที่หวัง แต่อาจเป็นประชาชนคนธรรมดานี่แหละ
ประชาชนคนหกสิบกว่าล้านคง คงทนไม่ไหวเข้าสักวันและคิดได้ว่ามันยุ่งยากนัก
ฆ่าล้างเผ่าพันธ์มันเลยดีกว่า อย่างมากคงไม่เกินล้านคน เพื่อความสงบสุขของ
คนอีกหกสิบล้าน มันก็คุ้มน่าลองเสี่ยงเหมือนกันนะคะ
ว่าจะไม่ท้อแท้แล้ว แต่มันดูสิ้นหวังกับประเทศนี้จริงๆค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น