วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ถึงเวลาหรือยัง

คุณว่าถึงเวลาหรือยังที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะสำนึกได้ว่า
ไม่ควรเล้ย ไม่ควรเลย ที่โดดเข้าไปรับตำแหน่งนายกฯ อย่างไม่สง่างาม
ในครั้งนั้น เข้ารับตำแหน่งอันทรงเกียรติ ทั้งๆที่ไม่ได้ชนะการเลือกตั้ง
ได้ตำแหน่งมาอย่างพิศดาร ขนาดเป็นที่เล่าขานกันไปทั่ว ถึงวิธี อันสลับซับซ้อน
ใช้กลไก ทุกรูปแบบ ทั้งอำนาจ เงิน ตำแหน่ง เครื่องล่อใจ จนถึงการข่มขู่สารพัด
กว่าจะดันตัวเองขึ้นมานั่งเก้าอี้นายกฯ แต่ก็เป็นทุกขลาภของแท้
เป็นลาภอันมิควรได้จริงๆ

ด้วยความอยาก เลยทำให้ คนหนุ่มที่น่าจะมีอนาคตดีงาม กลับมาได้รับสมญาว่า
"ไอ้ฆาตกร" ถูกคนก่นด่า สาปแช่งไปทั่ว เดินทางไปไหนก็มีคนตามไปถือป้ายด่าทอ
หนักหน่อยก็ถูกโห่ร้องตะโกนขับไล่

นี่คงไม่ใช่ภาพที่นายอภิสิทธิ์ใฝ่ฝันถึง เขาคงเพียงอยากจะดูเทห์
ได้นั่งเก้าอี้อันทรงเกียรติ ได้รับการยกย่อง นับหน้าถือตา
แต่ความอยากของนายอภิสิทธิ์ มันเป็นความอยากที่สูงสุดเอื้อม
เลยต้องมีตัวช่วยช่วยโน้มกิ่ง จริงๆก็จะเรียกโน้มก็ดูจะน้อยไป
ต้องเรียกว่า หักกิ่งเอามยื่นให้เลยทีเดียว

แต่ด้วยความที่ด้อยความสามารถจริงๆ แม้ตำแหน่งที่คนอื่นเขาทำทุกวิถีทาง
ผิดถูกไม่สนใจ นำมามอบให้ นายอภิสิทธิ์ กลับไม่สามารถดำรงตำแหน่ง และแสดงศักยภาพ
ของตนให้ปรากฎ ลองคิดดูหากนายอภิสิทธิ์เก่งจริง เวลาตั้งสองปีกว่าที่อยู่ในตำแหน่ง
คงทำให้นายอภิสิทธิ์ สร้างชื่อให้ปรากฎ คนจดจำในทางที่ดีได้ไม่น้อย
แต่น่าเสียดาย ความจริงก็คือความจริง เขาเป็นคนไม่มีความสามารถ
แต่เป็นเพราะแรงผลักดันที่ผิดธรรมชาติ จึงทำให้เขาตกลงไปในกับดัก
ของตัวเอง ยิ่งดิ้นก็ยิ่งจม เลอะเทอะหนักเข้าไปอีก

ใครจะไปรู้ หากนายอภิสิทธิ์ ไม่อยากเป็นนายกฯ ไม่รับตำแหน่งในวันนั้น
เรื่องที่เขาเคยทำผิด ทำชั่วมาในอดีตคงไม่มีใครทราบ ที่เห็นชัดๆก็เรื่อง
หนีทหาร เชื่อเถอะ ในประเทศนี้น่ะ คนหนีทหาร มีเยอะแยะ ลูกท่านหลานเธอ
ลูกอาเจ้ก อาแปะ ที่มีสตางค์ ไม่อยากให้ลูกไปลำบาก ก็หาวิธีหลีกเลี่ยง
กันทั้งนั้น ก็แหมบางคนตอนเรียนรด. ก็ไม่อยากเรียน พอต้องไปคัดเลือก
ก็ใช้สารพัดวิธีที่จะหลบ ใช้เงิน ใช้เส้นสายกันทั้งสิ้น

แต่ไม่มีใครสนใจ เพราะเขาใช้ชีวิตอยู่เงียบๆ ไม่ได้กระสันต์อยากมาเป็นนายกฯ
ให้ได้รับการตรวจสอบ ส่วนนายอภิสิทธิื ผู้โลภมาก อยากเป็นนายกฯ
ตามที่เล่าว่าอยากมาแต่เด็ก แต่ก็ไม่รู้จักจัดการชีวิตให้ถูกต้องดีงาม
หากอภิสิทธิ์ ไปรับการเกณฑ์ และใช้วิธีอื่นในการหนีการคัดเลือกมา
ก็จะไม่ดูทุเรศเท่านี้ ถ้านายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เล่นการเมือง ไม่ได้ทยานอยาก
นั่งเก้าอี้ที่ตนไม่ควรนั่ง ผลคือเขาเลยต้องจ่ายด้วยราคาแพงลิบลิ่ว
พ่อแม่ถูกลากมาด่าทอไปด้วย เพราะเมื่อจวนตัว นายอภิสิทธิื ก็จะโทษ
พ่อแม่ ดังเช่นเรื่อง การแจ้งเกิด เมื่อ ถูกซักเรื่องสองสัญชาติในสภา
ก็อภิปรายว่า ไม่ได้เป็นคนไปแจ้งเกิดเอง เรื่องหนีทหาร ทำเอกสารปลอม
ก็คงโทษว่าพ่อไปหามาให้เอาไปยื่น จะปลอมหรือไม่ไม่ทราบ

หากอภิสิทธิ์เป็นนายก.นายข. ประกอบสัมมาอาชีวะอย่างคนปกติ มีหรือ
ที่ใครจะไปขุดคุ้ยออกมาได้ว่า ใช้เอกสารปลอม เขาว่าคนโกหก ลองได้เริ่มครั้งแรก
โอกาสที่จะพูดความจริงครั้งต่อๆไปก็ยาก ต้องโกหกทับเข้าไปเรื่อยๆ
เพราะกลัวว่าไอ้ที่โกหก ครั้งแรกมันจะเผยออกมา

นายอภิสิทธิ์ ป่านนี้จะกินได้นอนหลับอย่างปกติหรือไม่ ที่ทุกวันต้อง
คิดหาเรื่องมาโกหกไปเรื่อยๆ จนชักสับสน ออกอาการบ้า จนคนเขาตั้งข้อสังเกต
เขาจะเสียใจหรือยังว่าไม่น่าเลย ไม่น่ามาเล่นการเมือง ไม่น่ารับตำแหน่ง
จนทำให้ชีวิตดิ่งลงเหว จนยากจะตะกายขึ้นมา นับแต่นี้ไป ชื่ออภิสิทธิ์
คงได้รับการจารึกว่า นายกฯผู้หนีทหาร ใช้เอกสารปลอม และเผลอๆจะต้อง
เป็นนายกฯคนแรก(ตามที่เขาชอบเป็น เป็นคนแรก) ที่ติดคุกฐานสั่งการโดยมิชอบ
ฆ่าคนตายเกลื่อนเมือง

ถึงเวลาหรือยังที่อภิสิทธิ์จะนอนร้องไห้ทั้งคืน คร่ำครวญว่า "ไม่น่าเลย"

ไม่มีความคิดเห็น: