วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กลอนอวยพรวันเกิด

26สิงหาใครมาเกิด
คิดเตลิดเกิดมาคงก่อนหมา
คำโบราณขานกล่าวเขาเล่ามา
ช่างชั่วช้าชิงหมามาเกิดกัน

อันที่จริงเกิดเป็นคนจนวิเศษ
ยังทุเรศ เลวกว่าหมาน่าขบขัน
มี3ร้อยกว่าวันเลือกไม่ทัน
แล้วมาดันชิงหมามาเกิดแทน

อย่างน้อยๆเท่าที่รู้มีอยู่สอง
ดันคล้องจองมาเกิดพร้อมเหมือนเป็นแผน
ด้วยความเลวพอๆกันลั่นดินแดน
คนทั่วแคว้นก่นด่าน่าอับอาย

ในวันเกิดปีนี้ ก็แก่แล้ว
ยังไม่แคล้วตายไป*@=!?
ยังคงอยู่ให้คนแช่ง แม่งไม่ตาย
จึงขอทายว่าคงทุกข์สุขไม่มี

มีคนด่าทุกวันมันไม่สนุก
คงจมทุกข์ท่วมท้นจนหมองศรี
คิดอะไรให้ผิดหวังทั้งตาปี
คิดตายดีก็ไม่สมระทมนาน

อย่าเพิ่งตายไปหนาอย่าเพิ่งลับ
รอคนสับจนหนำ ความทุกข์ผลาญ
ให้วิญญาณ แตกดับจนแหลกราน
ไม่อาจคลานไปแย่งหมามาเกิดเอย

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ป้ามาสารภาพ

หลังจากได้ดู การแถลงนโยบายของรัฐบาลพณฯนายกฯยิ่งลักษณ์จบ ก็ปิดทีวี
เลยไม่ได้ดู ไอ้หัวหน้าฝ่ายค้านต่อ มารู้เอาจากรายการ"จับข่าวเล่าความ"ตอนเย็น

เขาตัดเอาไฮไลต์มาให้ดู นิดๆหน่อยๆ จึงเป็นเรื่องที่มาของหัวข้อกระทู้นี้
ป้ามาสารภาพว่า จริงๆแล้วนึกว่าไอ้มาร์ค"ดีแต่พูด" นั้นไม่จริง เพราะจากคำที่มันพูด
เมื่อวาน แสดงว่ามันไม่ได้ดีแต่พูด แต่ มันได้คิดก่อนพูด มาเป็นอย่างดี
เพียงแต่มัน คิดเลวจึงพูดเลว และทำเลวมาโดยตลอด

มีอย่างที่ไหน ตั้งต้นก็พูดว่า "เพราะนักการเมืองตกเป็นจำเลยของสังคมตลอดมา
และถูกกล่าวหาตลอดมาว่า พูดอะไรก็ได้เพื่อหาคะแนนเสียง แต่เมื่อได้มาเป็นรัฐบาล
แล้วมักจะไม่ลงมือทำ ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อนักการเมือง"
โอ้แม่เจ้า
ช่างกล้าด่าตัวเองอย่างไม่อับไม่อาย นับถือจริงๆ คนอะไร ด่าตัวเองกลางรัฐสภาก็ได้

เพราะผลงานที่ผ่านมา ไม่ว่าใครก็เห็นว่าไอ้ที่มันหาเสียงว่า ทำได้ภายใน 99วัน นั้นทำได้
ขนาดไหน แล้วเมื่อแถลงนโยบาย(แบบไม่มีฝ่ายค้าน เพราะเขาบอยคอตต์ และแอบไป
แถลงกันที่กระทรวงการต่างประเทศ) ถึงกฎเด็ก เอ๊ยกฎเหล็ก 9ข้อ ก็ปรากฎชัดว่าทำไม่ได้
โดยเฉพาะข้อ การฉ้อราษฎณ์ บังหลวง เพราะผลงาน ปลากระป๋องเน่า ชุมชนเข้มแข็ง ฯลฯ

แต่กลับหน้าด้าน มาสั่งสอนรัฐบาลใหม่ โดยลืมไปว่า แม้ท่านนายกฯยิ่งลักษณ์จะใหม่
ในการเป็นนายกฯ แต่พรรคที่ส่งเธอมาเป็นนายกฯนั้นเป็นพรรคที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์
ชาวบ้านประทับใจว่า นโยบายที่ใช้หาเสียง นั้นทำได้จริง และประชาชนได้ประโยชน์
อย่างแท้จริง

ดังจะเห็นได้จากผลการเลือกตั้ง เพราะหากที่มันดาหน้ากันออกมาคุยว่าได้ทำอะไรไปบ้าง
เป็นนโยบายที่ดีเลิศประเสริฐ ยิ่ง คนคงเลือกให้มันกลับมาสานงานต่อ แต่ในความเป็นจริง
กลับไม่มีคนเห็น โธ่โถ เขากลับหันหลังให้ไม่เลือกให้กลับมาทำงานต่อ

ป้าจึงมาสารภาพว่า ป้าคิดผิด ที่คิดว่ามันดีแต่พูด จริงๆแล้ว มัน"คิดเลว พูดเลว และทำเลว"ต่างหาก
จึงเป็นเหตุให้ป้าเสื่อมศรัทธาในพรรคแมลงสาบหนักเข้าไปอีก

วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สิทธิและหน้าที่

การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นที่ใดในโลก
เขากำหนดไว้ชัดเจน ว่าประชาชน ที่อยู่ในการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตย มีสิทธิ์ ที่สำคัญอยู่ประการหนึ่ง นั่นก็คือ การมีสิทธิ์
ที่จะเลือกตัวแทนของเราให้เข้าไปทำหน้าที่ในสภา

ก็เมื่อ เรามีสิทธิ์ เราก็ได้ใช้สิทธิ์นั้นกันแล้วไม่ใช่หรือ เราเสื้อแดง
ออกไปใช้สิทธิ์ อันพึงมี ด้วยการเลือกพรรคที่เราคิดว่าเป็นพรรคที่นิยมประชาธิปไตย เป็นพรรคที่แกนนำเสื้อแดงเข้าไปอยู่ในฐานะสมาชิกพรรค

เป็นอันจบสิทธิและหน้าที่ของเราแล้ว ส่วนการเลือก การตั้งคณะรัฐมนตรี
ไม่ใช่หน้าที่ของเรา การที่ผิดหวังนั้นผิดหวังได้ มันเกิดการผิดหวังก็เพราะ
เราไปคาดหวัง เมื่อไม่ได้ดังหวังก็เลยหงุดหงิด

มีรายชื่อรมต.ที่ไม่ชอบใจอยู่หลายชื่อ ชื่อที่หวังก็ไม่ได้ จึงไม่แปลกที่จะเกิด
อาการหงุดหงิด คับข้องใจ แต่บางครั้งต้องกลืนเลือด บางครั้งต้องนิ่ง
เพื่อสยบความวุ่นวายที่เขาพยายามจะให้เกิดขึ้น เมื่อรู้อย่างนี้ แล้วยังจะ
เดินไปเข้าทางเขาอีกหรือคะ

อะไรเป็นอะไรก็รู้ๆกันอยู่ ไม่มีอะไรทำให้เสื้อแดงแตกกันได้เท่ากับการเสี้ยม
ให้เกิดการไม่ไว้วางใจกันเอง ลองหยุดสักนิดแล้วคิดดู เห็นมีความคิด
มากันตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งแล้ว ยุงยงส่งเสริมให้เสื้อแดงมีพรรคการเมือง
ของตัวเอง แล้วทำไมแกนนำจึงไม่ทำ ถ้าแน่ใจว่า เสื้อแดงมีพลังมากพอ
ที่จะเปลี่ยนแปลงการเมืองได้ แกนนำเสื้อแดงยังต้องมาอาศัยชื่อพรรค
เพื่อไทย ลงสมัครรับเลือกตั้ง

จริงอยู่ เสื้อแดงมีเยอะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเสื้อแดงทุกคน เชื่อว่า
แกนนำเสื้อแดงโดดๆจะดำเนินการทำพรรคการเมืองที่มีคุณภาพได้
ขนาดแกนนำยังไม่กล้าตั้งพรรคเองเลย

เมื่อเราได้ทำหน้าที่ ได้ใช้สิทธิ์อันพึงมีพึงได้ไปเรียบร้อยแล้ว หยุดเถอะค่ะ
อย่าคิดน้อยใจอยู่เลย กำแพงสูงตระหง่านตั้งอยู่กลางเมือง ก็เห็นๆอยู่
จะมีแสนหัวหรือล้านหัว วิ่งเข้าชนกำแพง ร้อยทั้งร้อย ล้านทั้งล้าน ก็แตก
สู้ค่อยๆเซาะมันไปเรื่อยๆไม่ดีกว่าหรือคะ

ใจจริงเชื่อว่าถ้าเป็นแดงจริง มีใจเป็นประชาธิปไตย ต้องเข้าใจ และรับได้
ส่วนที่ออกมาเต้นผางๆ ดิ้นพลาดๆ ชักชวนให้คนอื่นเกิดอาการไปด้วยนั้น
ต่างหากที่น่าสงสัยในพฤติกรรม

วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เรื่องวันที่...ไม่ใช่สาระสำคัญ

เมื่อมีเอกสารการสั่งฆ่าคนเกลื่อนบอร์ดจนเป็นข่าวไปยังสื่อ
เกิดอะไรขึ้น ไอ้คนที่เกี่ยวข้องต่างออกมาอึกๆอักๆ

ไอ้ฆาตกรเด็กบอกไม่รู้เรื่อง ซึ่งเป็นการแสดงตัวตนชัดเจนว่า แม่งเป็นแค่
หุ่นเชิด ไม่เคยรับรู้อะไรทั้งนั้น แต่ที่จริงถ้ารับชอบ แม้ไม่ได้ทำเอง
ก็ยังไปล้วงเอามาอ้างว่าเป็นความดีของตน แต่พอเป็นเรื่องต้องรับผิด
กลับโบ้ยให้ไปถามคนอื่น ก็เมิงเป็นนายกฯ ผู้บริหารสูงสุดของประเทศ
ไม่ใช่หรือ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ดันบอกไม่รู้เรื่อง แล้วจริงๆเมิงรู้เรื่องอะไรบ้าง
นั่งหัวโด่(เอ๊ยไม่ใช่ วิ่งรอกปาฐกถา) อยู่ตั้ง 2ปี ครึ่ง งานการไม่ทำ
เกิดเรื่องใหญ่กลางเมืองหลวง เมิงตอบได้ไงว่าไม่รู้เรื่อง(เหมือนพ่อเมิงสิท่า ไม่รู้ห่าอะไรเลย)

ส่วนไอ้โฆษกปากมอม แถได้ทุกเรื่อง ตอบได้ทุกคำถาม ทั้งๆที่บางทีไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์
ไม่รู้รายละเอียด ยังมาตั้งโต๊ะแถได้เป็นวักเป็นเวร เช่นเรื่องฮ.ตก
มาเรื่องเอกสาร เมื่อจำนนต่อหลักฐาน ก็ทำได้แต่เพียง แถไปจนสีข้างถลอก(ตามเคย)
อ้างว่า ปืนที่อนุญาตให้ใช้ไม่ใช่อาวุธร้ายแรง โธ่เว้ย จะปืนอะไร ให้ใช่ฆ่าประชาชน
มันก็ผิดทั้งนั้นแหละวะ แต่เท่าที่ดูจากสภาพ ศพวีรชน ไม่มีสักรายที่ตายเพราะปืนลูกซอง
เดี๋ยวมันคงมาอ้างอีกว่าเห็นไหมล่ะ เขาให้ใช้ปืนลูกซอง แต่คนตายตายเพราะปืนชนิดอื่น
ฉะนั้นทะเอี้ยไม่ผิดอีกล่ะสิ แต่อย่างไรก็ตามที่เถียงไม่ออกเลยก็คือว่า เอกสารเป็นของจริง
แล้วก็ตามเคย และแล้วก็มาไล่บี้เอาผิดกะคนที่นำเอกสารมาเผยแพร่อีกตามเคย

แต่ที่เอี้ยที่สุด นับเป็นคำแก้ตัวที่โหลยโท่ยที่สุดก็คือไอ้คนที่ไอ้ฆาตกรเด็กโบ้ยให้มาถาม
พอนักข่าวมาถาม ดูซิมารจะแก้ตัวว่าไง ฮาครับท่าน ฮากันขี้แตกขี้แตนเลยทีเดียว
รับว่าเอกสารเป็นของจริง แต่คาดว่าจะมีการแก้ไขวันที่ โอ้ แม่เจ้า ถามจริงๆเมิงไม่รู้
หรอกหรือว่า เรื่องวันที่มันไม่สำคัญ จะสั่งวันไหน เดือนไหน ปีไหนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
แต่เรื่องของเรื่องคือเมิงอนุญาตให้เขาฆ่าคนกลางเมืองหลวง และคนที่เมิงสั่งให้ฆ่าได้
คือประชาชนคนธรรมดาที่ออกมาเรียกร้องให้เมิงและคณะยุบสภาแค่นั้น จะมาอ้าง
ว่าเป็นคนเสื้อดำ เป็นคนทำร้ายเจ้าหน้าที่ได้ไง เมิงคุยว่า เมิงมีคลิ้ป เห็นชัดเจน
และทะเอี้ยก็มีมาเป็นหมื่น แค่คนชุดดำเพียงไม่กี่คน เมิงกลับยิงไม่ได้แม้แต่คนเดียว
ที่เห็นตำตาคือคนที่ถูกยิงเป็นชาวบ้านที่ไร้อาวุธในมือ และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น
คือไม่เห็นมีใครใส่ชุดดำสักคน

การอ้างเรื่องวันที่จึงไม่สามารถเอาตัวรอดได้ อย่างไรก็ต้องโดน หนอยยังมีหน้าจะมาพูดว่า
นี่เป็นการเช็คบิล เออสิวะ เมิงกินแล้วไม่จ่ายได้ไง กะจะเบี้ยวสิท่า ทำอะไรไว้ก็ต้องรับผิดชอบ
พ่อ-แม่เมิง เขาคงไม่มาจ่ายแทนให้หรอกนะ พวกเมิงนั่นแหละที่ต้องจ่าย เพียงแต่ว่า
จะต้องจ่ายเท่าไหร่แค่นั้นเอง ถ้าแยกฟ้องเป็นรายๆ เห็นถ้าจะโดนหนัก

อ้อ ที่เมิงบอกว่าคำสั่งลงวันที่ 13เม.ย.นั้น และเกิดขึ้นหลังจากชายชุดดำได้ก่อการ
จึงจำเป็นต้องอนุญาตให้ฆ่าได้ เอาเถอะ ถ้าจริงนะ แล้วคำสั่งนี้ เมิงได้ยกเลิกก่อนเดือน
พฤษภาหรือเปล่าล่ะ ถ้ายังนะ แสดงว่าคำสั่งยังคงมีผลใช้อยู่ จึงได้เกิดการตายเริ่มมาตั้งแต่
วันที่13 พค. อีกมากมาย และมีจำนวนคนตายมากกว่าวันที่10เม.ย. อีกด้วย

เห็นได้ว่าคำแก้ตัวของเมิงห่วยแตกจริงๆ กรรมกำลังทำงานแล้ว ปากกล้าว่าจะไม่หนี
ก็ดี เพราะถึงหนีพ้นเงื้อมมือกฎหมาย แต่กฎแห่งกรรมเมิงหนีไม่พ้นแน่

วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554

"แก้ไข ไม่แก้แค้น"

คำพูดที่นายอภิสิทธิ์(อดีตนายกฯ)ฝันหวาน แล้วยังนำมาย้อนถาม
ว่าก็ไหนคุยว่า จะไม่แก้แค้นไง ทำไม ถึงบอกจะมาดำเนินคดีต่อ

คนอย่างอภิสิทธิ์ โง่อย่างไรก็โง่อยู่อย่างนั้น อาจเป็นความโง่ที่มีมา
แต่กำเนิด หรือไม่ก็โง่เพราะไร้การสั่งสอน โง่เพราะอ่อนด้อยในสำนวนไทย

คำว่าแก้แค้น นั้น หมายถึงว่า บุคคลใดถูกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง
และด้วยความไม่พอใจ เมื่อมีโอกาส จึงกระทำสิ่งนั้นตอบไป

ในที่นี้ เรื่องของเรื่องคือ ในช่วงสมัยที่แกเป็นนายกฯ เป็นรัฐบาล
ได้เกิดการชุมนุมเรียกร้องให้มีการยุบสภา จัดการเลือกตั้งใหม่
ตามระบอบประชาธิปไตย แกในฐานะรัฐบาลนอกจากไม่ฟังเสียงเรียกร้อง
ยังตั้งศอฉ. ออกพรก. สั่งทหารออกมาลุยเข่นฆ่าประชาชนตาย-เจ็บ
เกลื่อนเมืองหลวง มิหนำซ้ำหลังการเข่นฆ่ายังจับกุมคุมขังคนอีกเป็น
จำนวนมาก ตั้งข้อหาร้ายแรงว่าเขาเหล่านั้นเป็นผู้ก่อการร้าย

ด้วยเรื่องนี้ต่างหากที่แกและคณะทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศนี้
เดือดเนื้อร้อนใจ เจ็บแค้น คิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องจัดการพวกแกให้สาสม

แต่การที่รัฐบาลใหม่ได้ออกแคมเปญหาเสียงว่า"จะแก้ไข ไม่แก้แค้น"
ซึ่งไม่ได้หมายความว่าที่แกและพวกทำผิดอุกฉกรรจ์จะได้รับการยกเว้นโทษ
เพียงแต่เขาต้องการมาแก้ไข ให้กระบวนการยุติธรรม มันเป็นความยุติธรรมจริงๆ
ไม่ใช่ เอียงกะเท่เร่ ไปตามความต้องการทำลายประชาชนของพวกแก

เราจะไม่แก้แค้น โดยการใช้กฎหมายแบบผิดเพี้ยน ตั้งข้อหาอุบาทว์ชาติชั่ว มั่วไปเรื่อยๆ
เราจะไม่แก้แค้นโดยออกพรก. ให้คนที่มีอาวุธร้ายแรงอยู่ในมือ ออกมาเข่นฆ่า
หมายเอาชิวิตพวกแกต่างหาก เราจะไม่แก้แค้นด้วยวิธีที่ไร้กฎเกณฑ์ อย่างที่พวกแกทำ

แต่ความผิดของพวกแก มันชัดเจนแจ่มแจ้ง ผิดกฎหมายแน่นอน
อย่างนี้ การจะปล่อยปละละเลย ทำเป็นมองไม่เห็น ไม่จับตัวคนผิดมาลงโทษไม่ได้
มันไม่ใช่การแก้แค้น แต่มันเป็นการแก้ไข เข้าใจไหม แก้ไขที่พวกแกทำผิดไว้
โดยจัดการให้แกต้องรับโทษที่ทำผิดไว้ไง แค่นี้ก็ไม่เข้าใจ

ตอนแรก มีข่าวแพลมมาว่าจะมีการนิรโทษกรรม ซึ่งพวกแกนั่นแหละ
อาจได้รับผลดีไปด้วย แต่พวกแกเองไม่ใช่หรือที่ออกมาเห่าหอนว่าไม่เอา
ไม่ยอม พวกแกนนำเสื้อแดงเขาก็ร้องบอกเหมือนกันแหละ เพราะรู้ว่า
พวกแกต่างหากที่จะได้ประโยชน์จากการทำผิดแล้วลอยนวล
เมื่อไม่เอาก็ดีแล้ว ต่อไปเตรียมรับกรรมจากการแก้ไข ที่ไม่ใช่การแก้แค้นเถอะ

วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ผีเจาะปาก

สำนวนไทยที่มีมานาน แปลว่า "พูดโดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมา
พูดเรื่อยเปื่อย พูดในสิ่งที่คนอื่นไม่พูด พูดไม่หยุด"

แล้วใครล่ะคะ ที่พูดเหมือนผีเจาะปากในตอนนี้ โดยทันศนะส่วนตัว
เห็นจะไม่มีใครเหมาะสมเท่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี
ที่มาด้วยวิธีพิศดาร ที่ใครๆก็รู้ เพียงแต่พลพรรคแมลงสาบและผู้ชื่นชอบ
ต่างทำเป็นหลงลืม ทำเป็นมองไม่เห็น มองข้ามไปถึงตอนที่โหวตชนะใน
สภา แล้วอ้างว่ามาตามครรลองในระบอบประชาธิปไตย ทั้งๆที่ไม่เคยแม้แต่
จะชนะเลือกตั้ง

ระหว่างดำรงตำแหน่ง ก็ไม่เห็นได้ทำประโยชน์ โภคผลแต่ประการใด นอกจากพูด
จนได้รับการยกย่องให้เกียรติว่าเป็นนายกฯดีแต่พูดเพราะแกพูดตลอด ผลงานไม่มีก็ยังพูด
พูดเพ้อเจ้อเวิ่นเว้อ โกหกหลอกลวงประชาชนไปวันๆ จนประชาชนพร้อมใจตัดสินให้ว่าผลงานไม่เข้าตา
จึงไม่ลงคะแนนเลือกให้กลับมาบริหารแผ่นดินอีก แพ้การเลือกตั้งอย่างราบคาบ
จนเป็นครั้งเดียวในชีวิตที่พูดแต่ดี คือ การออกมาแสดงความยินดีกับพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง

แต่นั่นก็เป็นครั้งเดียวในชีวิต(มั้ง) ที่พูดอะไรดูดีที่สุด แต่หลังจากกลับไปนอนคิด
กลับไปอยู่กับพวกผีทั้งหลาย หลังจากวันนั้น อาการผีเจาะปากก็กลับมาอีก

ถามจริงๆเถอะค่ะ คนเล่นบอร์ดการเมืองส่วนใหญ่ก็คงต้องสนใจการเมือง
แล้วก็คงไม่ได้เพิ่งจะมาสนใจแค่ปีสองปีนี้ใช่ไหมคะ แล้วสังเกตกันบ้างไหมว่า
ไอ้บ้าอดีตนายกฯตนนี้ มันพูดไม่หยุดจริงๆ เริ่มตั้งแต่แส่มาสั่งว่า พรรคเพื่อไทย
ต้องทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ในทันที(คงลืมไปว่า ไอ้ 99วันทำได้ทันที นั้น
ก็เป็นนโยบายที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า)

ยังยังไม่พอ มันทำนอกหน้าที่ไปทุกเรื่อง บอกแม้กระทั่งว่าควรแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี
อย่างไร แบบไหน (ทั้งๆที่ตัวมันก็ตั้งคณะรมต.ได้ห่วยแตก หมาไม่รับประทาน ดูไอ้กษิต
เป็นตัวอย่าง แล้วก็ใช่ว่ากระทรวงอื่นๆจะดี ไม่งั้นก็มีผลงานไปแล้วสิคะ)

งานการสมัยที่อยู่ในตำแหน่งไม่ทำ แต่ปากยื่นปากยาว มาสั่ง รัฐบาลใหม่ว่าต้องทำนั่นทำนี่
ทำอย่างนั้นทำอย่างนี้(โธ่ไอ้เวร สมัยเมิง ไม่เห็นทำสักอย่าง)

การออกมาพูดในทำนองให้ความคิดว่ารัฐบาลใหม่ควรทำอะไรนั้น มันใช่เรื่องของตัวหรือเปล่า
สงสัยว่ามันช่างพูด หรือสื่อมันเลวผสมกันไปด้วย ถึงได้มีข่าวมันให้สัมภาษณ์ เรื่องการสั่งและสอน
รัฐบาลใหม่อยู่ทุกวี่วัน บอกตรงๆนะคะ ไม่เคยเห็นมีอดีตนายกฯคนไหน พูดมากได้ขนาดนี้
ไม่เคยเห็นสื่อสมัยใด เอาไมค์ไปจ่อปากถามอดีตนายกฯมากขนาดนี้ หรืออาจมี
แต่อดีตนายกฯเหล่านั้น ท่านไม่ตอบเพราะรู้ว่าไม่ใช่หน้าที่ของตนอีกต่อไป!