บ้านนี้เมืองนี้มีแต่คนหน้าด้าน คนเก่าๆท่านถึงได้ว่า "เก่งไม่กลัว กลัวแต่คนหน้าด้าน"
เพราะหากหน้าด้านเสียแล้ว จะทำอะไรก็ได้ ไม่มีหรอก ไอ้"หิริโอตัปปะ"(ความละอายต่อบาป)
ดังนั้นเราจึงเห็นคนหน้าด้านทำได้ทุกอย่าง ไม่อายฟ้าดินทั้งสิ้น ขนาดทำยังกล้าปากแข็งว่าไม่ได้ทำ
คงไม่ต้องยกตัวอย่างหรอกนะว่า ใครเป็นอย่างนี้บ้าง เอ๋หรือเอาเสียหน่อย จะได้ไม่ต้องนึกนาน
ก็ดูไอ้รัฐบาลที่เซ็นคำสั่งให้ทหารออกมาปราบปรามประชาชนด้วยอาวุธจริง รถถังจริง แต่กลับบอกว่าเปล๊า
หนูเปล่าทำ ก็ถ้าเมิงไม่ได้สั่งแล้วมันทำอย่างนี้ภาษากฏหมายเขาเรียกว่า"ทำนอกคำสั่ง" แปลง่ายๆว่าเสือกล่ะพี่น้อง
ส่วนไอ้ทหารก็เอาปืนออกมายิงจริง คนตายจริง เสือกบอว่าไม่ได้ยิง หลักฐานภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหวกระจายไปทั่วโลก
ยังปากแข็งว่าเปล่า แต่ถึงไม่ได้ยิงจริง ก็เอากำลังพลนับหมื่นออกมาจริงใช่ไหม รัฐบอกไม่ได้สั่ง
เฮ้ย เมิงเคลื่อนกำลังโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็กบฎล่ะสิ (แต่ไม่เป็นไร หน้าด้านด้วยกัน เลยหยวนๆกันไป)
พอด้านต่อไม่ไหว ก็เลยยุบสภา เข้าสู่การเลือกตั้ง โอ้โห ทีนี้คนหน้าด้านโผล่กันมาอีกเพียบ
ไอ้คนที่ต้องด่าให้หนักๆ ก็นี่เลย หัวหน้าคณะรัฐประหาร ใหม่ๆสดๆ เป็นเพราะการรัฐประหาร
ครั้งล่าสุดนี่แหละที่ปัญหามันลุกลาม แก้กันไม่หวาดไม่ไหว เออหนอ ทำลายประชาธิปไตย
ด้วยการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง(ที่ได้รับฉันทามติจากประชาชนมากมายมหาศาล)ลง
วันดีคืนร้ายออกมาให้สัมภาษณ์ว่ารู้ตัวละนะว่าผิดที่กระทำการอย่างว่า (แต่ความเสียหายก็เกิดแล้ว)
ดันมาตั้งพรรคการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย โอ๊ยกรูจะบ้าตาย
นึกอย่างไรล่ะเนี่ย นึกเท่าไหร่ก็ก็นึกไม่ออก นึกได้อย่างเดียวว่า"แม่งหน้าด้านฉิบหาย"
ยัง...แค่นั้นยังไม่พอ รู้ตัวอีกแน่ะว่า ไม่มีทางได้รับเลือกมามากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาล
แต่กลับกระทำการหน้าด้าน ไปรวมหัวกันปรึกษาหารือกันกับพรรคเล็กพรรคน้อยว่า
ทำอย่างไรจะได้ร่วมรัฐบาล แล้วจะร่วมกับพรรคไหนดี
ตายๆ เมิงก็รู้การเลือกตั้งคือเลือกพรรคการเมืองที่มีนโยบายที่ดี ที่จะนำพาประเทศไปได้
นโยบายที่จะแก้ปัญหาของประเทศ ถ้าเขาไม่เลือกพรรคเมิงก็แสดงว่าเขาอาจไม่ชอบ
นโยบายของพรรค ไม่ก็ไม่เชื่อว่าพรรคจะบริหารได้ ดังนั้นเขาเลยไม่เลือกไง้
ดันไปสุมหัวกันว่าจะทำไงดี ไอ้พรรคอื่นๆ ก็กระมิดกระเมี้ยน รับบ้างไม่รับบ้าง
ไหนเลยจะด้านได้เท่าไอ้นี่ เพราะตอบผู้สื่อข่าวว่า"ยอมรับว่าที่ผ่านมามีการพูดคุยกันเรื่อง
ตั้งรัฐบาลบ้างแล้วในส่วนของพรรคขนาดกลางและขนาดเล็ก"
ขอยอมรับเลยว่า เมิงหน้าด้านที่สุด ในกระบวนพรรคขนาดกลางและขนาดเล็ก
เพราะกล้าพูดโดยไม่อายว่าจะปล้นอำนาจประชาชนได้อย่างไร แม้ว่าเขาจะแสดงประชามติ
ออกมาแล้วว่าไว้ใจให้ใครเข้ามาบริหารประเทศ เพราะพูดว่า" ส่วนตัว ไม่ขัดข้องที่ใครจะมาเป็น
นายกรัฐมนตรี หากพรรคไหนรวบรวมเสียงข้างมากในสภาได้ ก็ตั้งรัฐบาลได้"
นั่นแน่ เผยไต๋ออกมาแล้วว่าใครก็ได้ที่รวบรวมเสียงข้างมากในสภา เมิงก็ยังโชว์ความไม่เป็นประชาธิปไตยอยู่นั่นเอง
ประชาธิปไตย แปลว่าประชาชนเป็นใหญ่ เขาเลือมามากกว่าก็แปลว่าเขาอยากให้พรรคนี้ มาทำงาน
เขาไม่ได้เลือกพรรคเล็กพรรคน้อยสักหน่อย แล้วเมิงมารวมตัวกัน สุมหัวกัน ต่อรอง เพื่อจะได้ร่วม
จัดตั้งรัฐบาลมันจะถูกหรือ
เหนือสิ่งอื่นใด หัวหน้าคณะรัฐประหาร ก็ไม่สามารถทำให้ใครเชื่อได้ว่าจะมีความคิดเป็นประชาธิปไตย
แม้จะออกมาสารภาพผิดว่า ทำผิดไป ทางที่ดี หากเมิงสำนึกผิดจริง เมิงต้อง หายหัวไป
แล้วก็ออกไปจากบ้านพักในค่ายทหารด้วย(เงินที่รับไป คงหามาคืนไม่ไหวมั้ง) หลบไปให้ไกลจาก
สังคม ทำได้แค่ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเท่านั้น จำไว้ไอ้หน้าด้าน!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น