วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กรุงแตก

ID # 811815 - โพสต์เมื่อ : 2009-06-25 13:06:16 _ ปิดข้อความ ex-link แก้ไข


คิดไปคิดมา ก็นึกกลัวนะคะ ว่ามันคงใกล้กรุงแตกเสียแล้ว
ประวัติศาสตร์ (ที่เราเขียนกันเอง)เขาว่า อาการตอนกรุงใกล้จะแตก
ก็เป็นคล้ายๆตอนนี้แหละค่ะ

ข้าวยากหมากแพง ผู้คนในชาติขาดความสามัคคี ผู้นำขาดคุณธรรม
(อีะๆ อย่าเถียง การปล้นชิงอำนาจมาด้วยวิธีสกปรกและมีกองทัพช่วย
จะเรียกว่ามีคุณธรรมได้ไง)

ที่สำคัญ ประเทศเพื่อนบ้านเขาก็ไม่เกรงใจแล้ว คนเราอยู่บ้านติดกัน
หนักนิดเบาหน่อย ก็ต้องทน เพราะหากมีเรื่องกัน ก็จะหาความสุขไม่ได้กันทั้งสองฝั่ง
การที่ผู้นำออกมาด่าว่าอย่างไม่เกรงใจ ก็แสดงว่า เขาไม่เห็นเราเป็นเพื่อน
เสียแล้ว เขาไม่ต้องรักษาน้ำใจเพื่อรักษาไมตรีอีกต่อไป

น่ากลัวนะคะ แม้ไม่ใช่การประกาศเป็นศัตรูอย่างเปิดเผย แต่คำพูดที่ออกมา
ก็ไม่รักษาหน้าเราเลยสักนิด(เอาความจริงที่เราอุตส่าห์ปกปิดมาตั้งนาน ก็เรื่อง
การได้มาของตำแหน่งของรัฐบาลนี้แหละค่ะ) ออกมาด่าว่ากระทบกระเทียบเป็นประจำ
ไม่เกรงใจพี่ใหญ่ในแถบนี้เอาเสียเลย

ดูดู๋เรารึอุตส่าห์ตั้งตัวเป็นพี่เบิ้ม มองเขาด้วยสายตาดูหมิ่นดูแคลน เขากลับตีเปรี้ยง
ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ไหน แต่อย่างว่าหน้าด้านเสียอย่าง ใครจะด่าว่าอย่างไร ก็แก้
ตัวไปน้ำขุ่นๆว่าเขาเข้าใจผิด แต่ไม่ได้ย้อนดูตัวเองเอาเสียเล้ย ว่าทำไมเขาถึงดูถูกมาก
ขนาดนั้น

ย้อนมาเรื่องกรุงแตกอีกที อาการมันส่อเค้าแล้วล่ะค่ะ เห็นท่าจะรักษาไว้ไม่อยู่
แต่อย่าเอ็ดไปนะคะ ถ้าใครรู้เข้า กรีฑาทัพบุกเข้ามา ก็รับรองเรียบร้อย
ก็เราจะไปรักษากรุงไว้ได้อย่างไร ก็ในเมื่อผู้คนแตกกันเป็นเสี่ยงๆ ไม่รักไม่ศรัทธา
ผู้นำเสียอีกด้วย แล้วจะเอาอะไรไปสู้รบปรบมือกับศัตรู

แค่มองเห็นพลเมืองเป็นศัตรูก็ส่อเค้าแล้วว่าคงอีกไม่นาน แล้วจะไปลองหาวิธี
อยู่แบบเมืองขึ้นของเขมรมาบอกอีกทีนะคะ ตอนนี้ก็สวดมนตร์ไปพลางๆก่อน
จะรอดไปถึงสิ้นปีหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ทั้งศึกเหนือเสือใต้ เกิดเขาประกาศตูมว่า
ไม่อยู่ภายใต้การปกครอง แค่นี้ต่อให้ร้องไห้ไปฟ้องพ่อฟ้องแม่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ โฮ

ขอแถม คำของหลวงพ่อพระพรหมญาณ

อาตมาได้ถวายพระพรพระองค์ว่า

"ประเทศ ชาติบ้านเมืองของเราจะไม่ตกเป็นทาสของใคร อาตมาขอถวายชีวิตเป็นประกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๐ เป็นต้นไป ประเทศไทยจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ความเยือกเย็นจะเริ่มปรากฏ ความมั่งคั่งสมบูรณ์จะมีขึ้นแก่ประเทศชาติและประชาชน แต่จะยังไม่ปรากฏชัดนัก แต่เราจะมองเห็นได้ชัดๆ ก็ต้องปี พ.ศ. ๒๕๒๔ เปรียบเหมือนอรุณได้ขึ้นดีแล้วและเริ่มฉายแสงให้เห็นความมืดหมดไป"


อิอิ แบบขำแบบขื่นๆ ท่านทำนายผิดไปแล้วละม้าง

ไม่มีความคิดเห็น: