จะให้ตรงกับอารมณ์ความรู้สึก ก็ต้องตั้งหัวข้อกระทู้ว่า "แม่งเคยรู้อะไรบ้าง"
เขาก็ว่าหยาบไป ควรตั้งหัวข้อกระทู้ให้สุภาพ กลายเป็น "มารดาท่านเคยรู้อะไรบ้าง"
ยิ่งไปกันใหญ่ พาลติดคุกเอาได้ง่ายๆ เลยตั้งเบาๆแบบด้านบนล่ะค่ะ
อาการนี้เกิดเมื่ออ่านเจอข่าวนี้แหละค่ะ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนยังไม่ทราบกรณีที่
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เดินทางไปพบแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อหารือเกี่ยวกับบันทึก
การประชุมของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ เจบีซี ซึ่งขณะนี้เรื่อง
ดังกล่าวอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการร่วมรัฐสภา ส่วนตัวเห็นว่าสามารถ
สะท้อนปัญหามายังรัฐบาลได้ ผ่านรายงานคณะกรรมาธิการ
ส่วนกรณีนายวศิน ธีรเวชญาณ ลาออกจากการเป็นประธานคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวนั้น
ตนยังไม่ทราบรายละเอียดการลาออก แต่ทราบว่าการทำงานมีแรงกดดันมาก อย่างไรก็ตาม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีรายชื่อผู้ที่จะมาทำหน้าที่แทนนายวศินอยู่ในใจ
แล้ว
ทั้งๆที่ข่าวนี้ เกิดมาตั้งแต่ก่อนที่ที่พวกพธม.จะชุมนุมกันอีก ไอ้บ้าเนี่ยยังกล้าออกมา
บอกไม่รู้เรื่อง เรื่องน้ำท่วมใหญ่โตมหาศาลกินพื้นที่ไปทั่วทุกภาค แก้ปัญหาไม่ได้
ก็บอกว่า "คาดไม่ถึง" เฮ้อ หน่ายกับมันจริงจริ๊ง
วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
วาซาบิเทียม
อ่านข่าวนวัตกรรมในโลกวันนี้ พบว่าบัดนี้มีคนไทยที่สามารถ
ผลิตวาซาบิเทียมจากเมล็ดมัสตาร์ดได้แล้ว สามารถส่งออกได้
โดยร่วมมือกับบริษัทชื่อดังของญี่ปุ่น
วาซาบิ ที่มาจากต้นวาซาบิแท้ๆ มันหายาก ปลูกก็ไม่ได้ในประเทศ
สั่งเข้ามาก็ลำบาก อีกอย่างแม้แต่ประเทศต้นแบบคือญี่ปุ่น ก็มีผลลิตน้อยลงทุกวัน
จนไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดโลก เพราะเป็นที่ทราบกันว่า
อาหารญี่ปุ่นได้รับความนิยม เป็นอาหารที่คนชื่นชอบไปทั่วโลก
ดังนั้นความต้องการวาซาบิจึงสูงตามไปด้วย
ก่อนอื่นขออนุญาตให้ไปอ่านข่าวก่อนนะคะ เพราะจะได้ร่วมชื่นชม
กับคนไทยที่มีความสามารถ อ่านเสร็จแล้วค่อยมาอ่านว่าทำไมถึงเขียนเรื่องนี้
http://www.dailyworldtoday.com/columblan...m_id=45614
พออ่านจบจะเห็นร่วมกันว่า อันของทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนมีคุณค่า
บางอย่างก็มีคุณค่ามีราคากว่าของบางอย่าง อาจมีคุณประโยชน์มากกว่า
ที่สำคัญ มันเป็นของหายาก ผลิตยาก ปลูกลำบาก แต่ก็ยังอยากได้
อยู่ดี เลยต้องมีคนคิดค้นหาวิธีที่จะลิตให้ได้ง่ายๆ ให้ได้จำนวนมากๆ
เพื่อสนองความต้องการของตลาด
อันนี้แหละค่ะสำคัญ เพราะเมื่อของแท้แม้จะดี แต่ถ้าหายาก ผลิตซ้ำให้ออก
มาดีแบบเดิมไม่ได้ ก็ต้องหาทางผลิตจากวัสดุอื่นๆ ซึ่งอาจได้ผลออกมาว่า
ดีเท่าหรือดีกว่าเดิม สำคัญที่สุดคือผลิตได้บ่อยๆ ผลิตได้มากๆ มากเพียงพอ
กับความต้องการ การใช้ของเทียมก็ไม่ได้ผิดอะไร กลับดีเท่าหรือดีกว่าเสียอีก
เผลอๆอีกหน่อยคนอาจไม่สนใจวาซาบิแท้ๆอีกต่อไป คงจะมีการพูดถึงและนำเสนอ
ไว้ในพิพิธภัณฑ์แทนก็เป็นได้
ดังนั้นการผลิตวาซาบิเทียมคงไม่ผิด ไม่ถูกกล่าวหาว่าทำเทียมเจ้าเทียมนาย
เพราะวาซาบิไม่ใช่เจ้า เรามาช่วยกันผลิตของเทียมที่ดีอย่างนี้ใช้แทนของเก่า
ที่แม้อาจดูว่าดี แต่หายากกันดีกว่าไหมคะ ต่อนี้ไป จะได้มีของดีมาใช้เรื่อยๆ
ไม่มีทางขาดตลาดอีกต่อไป
ผลิตวาซาบิเทียมจากเมล็ดมัสตาร์ดได้แล้ว สามารถส่งออกได้
โดยร่วมมือกับบริษัทชื่อดังของญี่ปุ่น
วาซาบิ ที่มาจากต้นวาซาบิแท้ๆ มันหายาก ปลูกก็ไม่ได้ในประเทศ
สั่งเข้ามาก็ลำบาก อีกอย่างแม้แต่ประเทศต้นแบบคือญี่ปุ่น ก็มีผลลิตน้อยลงทุกวัน
จนไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดโลก เพราะเป็นที่ทราบกันว่า
อาหารญี่ปุ่นได้รับความนิยม เป็นอาหารที่คนชื่นชอบไปทั่วโลก
ดังนั้นความต้องการวาซาบิจึงสูงตามไปด้วย
ก่อนอื่นขออนุญาตให้ไปอ่านข่าวก่อนนะคะ เพราะจะได้ร่วมชื่นชม
กับคนไทยที่มีความสามารถ อ่านเสร็จแล้วค่อยมาอ่านว่าทำไมถึงเขียนเรื่องนี้
http://www.dailyworldtoday.com/columblan...m_id=45614
พออ่านจบจะเห็นร่วมกันว่า อันของทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนมีคุณค่า
บางอย่างก็มีคุณค่ามีราคากว่าของบางอย่าง อาจมีคุณประโยชน์มากกว่า
ที่สำคัญ มันเป็นของหายาก ผลิตยาก ปลูกลำบาก แต่ก็ยังอยากได้
อยู่ดี เลยต้องมีคนคิดค้นหาวิธีที่จะลิตให้ได้ง่ายๆ ให้ได้จำนวนมากๆ
เพื่อสนองความต้องการของตลาด
อันนี้แหละค่ะสำคัญ เพราะเมื่อของแท้แม้จะดี แต่ถ้าหายาก ผลิตซ้ำให้ออก
มาดีแบบเดิมไม่ได้ ก็ต้องหาทางผลิตจากวัสดุอื่นๆ ซึ่งอาจได้ผลออกมาว่า
ดีเท่าหรือดีกว่าเดิม สำคัญที่สุดคือผลิตได้บ่อยๆ ผลิตได้มากๆ มากเพียงพอ
กับความต้องการ การใช้ของเทียมก็ไม่ได้ผิดอะไร กลับดีเท่าหรือดีกว่าเสียอีก
เผลอๆอีกหน่อยคนอาจไม่สนใจวาซาบิแท้ๆอีกต่อไป คงจะมีการพูดถึงและนำเสนอ
ไว้ในพิพิธภัณฑ์แทนก็เป็นได้
ดังนั้นการผลิตวาซาบิเทียมคงไม่ผิด ไม่ถูกกล่าวหาว่าทำเทียมเจ้าเทียมนาย
เพราะวาซาบิไม่ใช่เจ้า เรามาช่วยกันผลิตของเทียมที่ดีอย่างนี้ใช้แทนของเก่า
ที่แม้อาจดูว่าดี แต่หายากกันดีกว่าไหมคะ ต่อนี้ไป จะได้มีของดีมาใช้เรื่อยๆ
ไม่มีทางขาดตลาดอีกต่อไป
ข่าวการเลือกตั้งในพม่า
กว่าจะเข้ามาตั้งกระทู้ ก็ไม่ทันคุณแฟนเดฟเสียแล้ว
เพราะเธอเพิ่งเอาข่าวการถล่มกันหลังเลือกตั้งมาลง
ที่จะเล่าให้ฟังนี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดก่อนการถล่มนะคะ
เพราะข่าวการเลือกตั้งในพม่า มันบังเอิญไปคล้ายกับ
เมืองเมืองนึงใกล้ๆพม่าแหละค่ะ แม้อาจจะไม่รุนแรงเท่า
แต่ก็ดูคล้ายคลึงกัน เผลอๆอาจเป็นต้นแบบของารเลือกตั้ง
ของประเทศตอแหลแลนด์ดินแดนติดกับพม่ากก็เป็นได้
ลองดูข่าวสิคะ เขาพาดหัวข่าวว่า"ทั่วโลกประท้วงเลือกตั้งพม่า"
ตามข่าวก็คนพม่าที่อยู่ในประเทศต่างๆทั่วโลกแหละค่ะที่ประท้วง
คนประท้วงก็ไม่ใช่คนพม่าทั้งหมดหรอกค่ะ เช่นที่กรุงลอนดอน
มีผู้ชุมนุมราว 700คนจาก 16องค์กร รวมถึงชนกลุ่มน้อยต่างๆ
ส่วนที่ในยุโรป ก็มีผู้ประท้วง โตเกียวก็มี อ.แม่สอดในไทยก็มีนะคะ
น้อยหน่อย แค่ 40คน(คงกลัวถูกกระชับพื้นที่) พวกที่ออกมาประท้วง
ก็ให้เหตุลว่าการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 20ปีของพม่าในครั้งนี้จะไม่ได้
มีผลดีต่อระบอบประชาธิปไตยของพม่า เป็นเพียงการสร้างความชอบธรรม
ให้คณะทหารปกครองประเทศได้ต่อไป(อันนี้แหละค่ะ ดูคุ้นมากๆ)
ส่วนบรรยากาศการเลือกตั้งก็มีคนออกมาใช้สิทธิ์น้อยมาก เพราะมีการเรียกร้อง
ให้ประชาชนงดการออกไปใช้สิทธิ์ แต่ถ้าเป็นเมืองที่มีข้าราชการ ก็จะมีคนออไป
เข้าแถว เพราะได้รับคำสั่งให้ต้องออกไปใช้สิทธิ์ (และคงต้องถูกสั่งด้วยว่า
ต้องเลือใคร) เห็นภาพเหมือนทหารประเทศเพื่อนบ้านพม่าเลยที่ออกกมายืนเข้า
แถวอย่างเป็นระเบียบรอเลือกตั้ง
อ้อ หนังสือพิมพ์ยังลงข่าวอีกนะคะ ว่ามีการร้องเรียน การเลือกตั้งครั้งนี้มากมาย
เช่น บอกว่า หีบบัตรเลือกตั้งมีบัตรลงคะแนนเสียงอยู่เต็มหีบบัตร (เออันนี้คุ้นมากๆอีก
แล้วนะคะ ไอ้ประเทศเพื่อนบ้านน่ะเขาถึงขนาดมีคลิ้ปเผยแพร่เลยด้วยซ้ำว่ามี
การยกหีบบัตรมาจากไหนไม่รู้ ที่มีบัตรอยู่แล้ว อิอิ)
ยังค่ะ ความคล้ายคลึงอีกอย่างคือผู้มีสิทธิ์ออกเสียงจำนวนมากร้องเรียนว่า
ไม่สามารถลงคะแนนได้ เนื่องจากไม่มีชื่อตัวเองอยู่ในบัญชีรายชื่อหน้าหน่วยเลือกตั้ง
นอกจากนั้นในบางพื้นที่ยังมีเจ้าหน้าที่มีอคติ โดยขอให้ผู้ไปใช้สิทธิืลงคะแนนให้พรรคปชป.
เอ๊ยไม่ใช่พรรคยูเอสพีดี ต่างหาก
เป็นไงคะ คล้ายกันจนนึกว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดในประเทศตอแหลแลนด์ซะอีก ฮา
เพราะเธอเพิ่งเอาข่าวการถล่มกันหลังเลือกตั้งมาลง
ที่จะเล่าให้ฟังนี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดก่อนการถล่มนะคะ
เพราะข่าวการเลือกตั้งในพม่า มันบังเอิญไปคล้ายกับ
เมืองเมืองนึงใกล้ๆพม่าแหละค่ะ แม้อาจจะไม่รุนแรงเท่า
แต่ก็ดูคล้ายคลึงกัน เผลอๆอาจเป็นต้นแบบของารเลือกตั้ง
ของประเทศตอแหลแลนด์ดินแดนติดกับพม่ากก็เป็นได้
ลองดูข่าวสิคะ เขาพาดหัวข่าวว่า"ทั่วโลกประท้วงเลือกตั้งพม่า"
ตามข่าวก็คนพม่าที่อยู่ในประเทศต่างๆทั่วโลกแหละค่ะที่ประท้วง
คนประท้วงก็ไม่ใช่คนพม่าทั้งหมดหรอกค่ะ เช่นที่กรุงลอนดอน
มีผู้ชุมนุมราว 700คนจาก 16องค์กร รวมถึงชนกลุ่มน้อยต่างๆ
ส่วนที่ในยุโรป ก็มีผู้ประท้วง โตเกียวก็มี อ.แม่สอดในไทยก็มีนะคะ
น้อยหน่อย แค่ 40คน(คงกลัวถูกกระชับพื้นที่) พวกที่ออกมาประท้วง
ก็ให้เหตุลว่าการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 20ปีของพม่าในครั้งนี้จะไม่ได้
มีผลดีต่อระบอบประชาธิปไตยของพม่า เป็นเพียงการสร้างความชอบธรรม
ให้คณะทหารปกครองประเทศได้ต่อไป(อันนี้แหละค่ะ ดูคุ้นมากๆ)
ส่วนบรรยากาศการเลือกตั้งก็มีคนออกมาใช้สิทธิ์น้อยมาก เพราะมีการเรียกร้อง
ให้ประชาชนงดการออกไปใช้สิทธิ์ แต่ถ้าเป็นเมืองที่มีข้าราชการ ก็จะมีคนออไป
เข้าแถว เพราะได้รับคำสั่งให้ต้องออกไปใช้สิทธิ์ (และคงต้องถูกสั่งด้วยว่า
ต้องเลือใคร) เห็นภาพเหมือนทหารประเทศเพื่อนบ้านพม่าเลยที่ออกกมายืนเข้า
แถวอย่างเป็นระเบียบรอเลือกตั้ง
อ้อ หนังสือพิมพ์ยังลงข่าวอีกนะคะ ว่ามีการร้องเรียน การเลือกตั้งครั้งนี้มากมาย
เช่น บอกว่า หีบบัตรเลือกตั้งมีบัตรลงคะแนนเสียงอยู่เต็มหีบบัตร (เออันนี้คุ้นมากๆอีก
แล้วนะคะ ไอ้ประเทศเพื่อนบ้านน่ะเขาถึงขนาดมีคลิ้ปเผยแพร่เลยด้วยซ้ำว่ามี
การยกหีบบัตรมาจากไหนไม่รู้ ที่มีบัตรอยู่แล้ว อิอิ)
ยังค่ะ ความคล้ายคลึงอีกอย่างคือผู้มีสิทธิ์ออกเสียงจำนวนมากร้องเรียนว่า
ไม่สามารถลงคะแนนได้ เนื่องจากไม่มีชื่อตัวเองอยู่ในบัญชีรายชื่อหน้าหน่วยเลือกตั้ง
นอกจากนั้นในบางพื้นที่ยังมีเจ้าหน้าที่มีอคติ โดยขอให้ผู้ไปใช้สิทธิืลงคะแนนให้พรรคปชป.
เอ๊ยไม่ใช่พรรคยูเอสพีดี ต่างหาก
เป็นไงคะ คล้ายกันจนนึกว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดในประเทศตอแหลแลนด์ซะอีก ฮา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)